สถิติ

71578565

แคลวาทิสฯ รุก!ตลาดใน-ตปท.

   แคลวาทิสฯ รุก!ตลาดใน-ตปท.

   ดัน!เป้ารายได้ปี 64 เติบโต10%

                   

   “แคลวาทิสฯ” บริษัทลูก “PRAPAT” บุกต่อทำตลาดในและต่างประเทศ-อัดงบส่งเสริมการขายและการขยายตลาดต่อเนื่อง ขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม 65 ราย พร้อมดันเป้า 64 โต 10% หรือ 220 ล้านบาท 

   นางสาวรุ่งทิพย์ มีแม่นวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคลวาทิส-เอเชีย แปซิฟิค จำกัด หรือ CVT กลุ่มบริษัทในเครือบริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT เปิดเผยแผนในปี 2564 ว่า แม้ในปีนี้ประเทศไทยจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขึ้นอีกระลอก และรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา

   แต่บริษัทยังคงเดินหน้าจัดงบลงทุน สำหรับการส่งเสริมการขายและการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ได้วางงบลงทุนสำหรับการทำส่งเสริมการตลาดอยู่ที่ 3% ของยอดขาย และงบลงทุนขยายตลาดอยู่ที่ 30 ล้านบาท โดยจะเน้นกลุ่มเบฟเวอร์เรจส์ หรือกลุ่มเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น

   เพราะมีแนวโน้มเติบโตจากกระแสของกัญชงและกัญชา รวมถึงเครื่องดื่มสุขภาพอย่าง น้ำมะพร้าว เป็นต้น โดยยังคงช่องทางจัดจำหน่ายเดิม คือ ช่องทางการขายตรง (Direct Sales

   สำหรับการทำตลาดในประเทศจะเน้นเจาะตลาดต่างจังหวัด ทุกภาคของประเทศไทย ที่มีทีมขายประจำอยู่ ส่วนตลาดต่างประเทศ บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท Calvatis GmbH ที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัทพีรพัฒน์ฯ เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่ม AEC เพิ่มมากขึ้น

   จากเดิมที่เป็นตลาดในกลุ่ม CLMV  ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีโอกาสทำตลาดกับแบรนด์ใหญ่ๆ ระดับไฮเอนด์ในต่างประเทศมากขึ้น อาทิ ประเทศเวียดนาม,  มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

   “จุดแข็งของบริษัท คือ การบริการหลังการขาย ที่มีทีมงานขายที่แข็งแกร่ง สามารถเทรนลูกค้าด้านสุขอนามัย ในกระบวนการผลิตอาหาร รวมถึงมาตรฐานต่างๆในกระบวนการผลิตอาหาร เพื่อให้อาหารมีความปลอดภัย

   รวมทั้งทีมฝ่ายขาย ทีมช่าง และทีมเทคนิค ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยปีนี้วางแผนที่จะพัฒนาสินค้าชนิดใหม่เข้าทำตลาดจำนวน 6 รายการในกลุ่มฆ่าเชื้อ เพื่อทำตลาดมากขึ้นด้วย” นางสาวรุ่งทิพย์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   เป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 10% หรือมียอดขายประมาณ 220 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

   โดยในไตรมาสแรกปี 2564 บริษัทมีการเติบโตอยู่ที่ 12% โดยเป็นยอดขายที่มาจากฐานลูกค้าในภาคใต้ รวมถึงลูกค้าส่วนกลาง, ลูกค้าในกลุ่มพร้อมรับประทาน (Ready to eat) รวมทั้งวางเป้ามีฐานลูกค้าใหม่ในไทยปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 65 ราย

   ส่วนในปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตกว่า 14% หรือ ประมาณ 208 ล้านบาท มีปัจจัยบวกมาจากการที่บริษัทเร่งทำการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง

   นับแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อปลายปี  2562 โดยอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าว และในปี 2563 บริษัทมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 56 ราย  

   นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำ CSR เพื่อคืนกำไรให้กับสังคม หรือกับลูกค้าบริษัทอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดกิจกรรมฉีดพ่นฆ่าเชื้อให้กับลูกค้าในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมถึงการให้ความรู้ต่างๆกับลูกค้า ตั้งแต่ต้นทางไลน์การผลิตไปจนถึงกระบวนการส่งมอบ เป็นต้น

   “ความท้าทายของการทำธุรกิจ คือ มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการผลิตอาหารอย่างปลอดภัยส่งต่อไปยังผู้บริโภค สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจ ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

   สินค้าทุกชนิดได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข, กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ NSF (National Sanitation Foundation)  ทำให้สามารถใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้” นางสาวรุ่งทิพย์ กล่าวสรุป

10 พฤษภาคม 2564

ผู้ชม 532 ครั้ง

Engine by shopup.com