STARK คว้า!ออเดอร์ใหม่ทะลัก 4,500 ลบ.
STARK คว้า!ออเดอร์ใหม่ทะลัก 4,500 ลบ.
STARK คว้า!ออเดอร์ใหม่ทะลัก 4,500 ลบ.
หนุนbacklog13,000ลบ.-ดันเป้าโต15-20%
บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น(STARK) ทำจริง..ไม่ได้โม้! คว้าออเดอร์ใหม่ก้อนโต มูลค่ารวมกว่า 4,500 ล้านบาท (150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากการชนะประมูลงานงานสายส่งกำลังไฟฟ้าและโรงไฟฟ้าในเวียดนาม มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท และงานโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินในเอเชียใต้มูลค่ารวมราว 3,000 ล้านบาท
ขณะที่ฟาก "ประกรณ์ เมฆจำเริญ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุโครงการดังกล่าว จะช่วยผลักดันให้ backlog ปัจจุบันเพิ่มขึ้นแตะ 13,000 ล้านบาท
ชี้!อยู่ระหว่างรอลุ้นผลประมูลงานในประเทศไทยเพิ่มเติมอีก จากโครงการรถไฟฟ้าระบบรางเดี่ยว และโครงการนำสายเคเบิ้ลลงใต้ดินภายในปีนี้ มั่นใจสนับสนุนผลงานปี 64 เข้าเป้าโตระดับ 15-20% ทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง
นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่าบริษัทชนะประมูลงานโครงการในประเทศเวียดนาม ได้แก่ งานสายส่งกำลังไฟฟ้า (Transmission line) ของการไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity หรือ EVN)
และงานโรงไฟฟ้าในเวียดนามตอนกลางและตอนใต้ ในเมืองดานัง โฮจิมินห์ ล็องอาน และกว๋างนาม มูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500 ล้านบาท
รวมทั้งบริษัทยังได้รับคำสั่งซื้อสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลจากกลุ่มประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียใต้ ประกอบด้วยงานจากโครการลงทุนรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย งานจากรัฐบาลบังกลาเทศ และงานจากรัฐบาลศรีลังกา มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,000 ล้านบาท
“ด้วยประสบการณ์ในวงการอุตสาหกรรมสายไฟและสายเคเบิ้ล รวมไปถึงการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า โดยเฉพาะนวัตกรรมการผลิตด้วยสุดยอดเทคโนโลยี ทำให้สินค้ามีคุณภาพ และความปลอดภัยสูง จนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทได้รับงานจากโครการขนาดใหญ่ในครั้งนี้ และคาดว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง”นายประกรณ์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานประเภท High Potential ในประเทศไทยเพิ่มเติม เช่น โครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานรถไฟฟ้าระบบรางเดี่ยว
และโครงการนำสายเคเบิ้ลลงใต้ดินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) รวมมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท หรือ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะทราบผลการประมูลบางส่วนในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
รวมทั้งยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงาน High Potential ในประเทศเวียดนาม จากทั้งภาครัฐ (B2G) และผู้ประกอบการ (B2B) โดยส่วนใหญ่เป็นงานสายส่งกำลังไฟฟ้าจากเมืองฮานอย ดานัง บิ่ญเฟื้อก และโรงไฟฟ้าในดาลักและโฮจิมินห์ รวมมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท หรือ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะทราบผลการประมูลบางส่วนภายในปีนี้เช่นกัน
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทมองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิลมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างโดดเด่นจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นในทั่วทุกมุมโลกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ เติบโต 15-20% และมั่นใจว่าจะสามารถสร้างประวัติการณ์สูงสุดต่อเนื่องโดยจะมาจากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีไปพร้อมกับอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ
และยังคงมุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไรได้สูง (High Margin) โดยเฉพาะกลุ่มสายไฟแรงดันระดับกลาง จนถึงระดับสูงพิเศษที่มีการเติบโตสูง เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน
พร้อมกับการควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบริหารจัดการร่วมกันของกลุ่มบริษัทจะช่วยให้เพิ่มความสามารถในการทำกำไรมากขึ้นอีกด้วย
05 พฤษภาคม 2564
ผู้ชม 425 ครั้ง