SUPER ปักธง!ปี65 ผลิตไฟฟ้าทะลุ 1,900 MW    

   SUPER ปักธง!ปี65 ผลิตไฟฟ้าทะลุ 1,900 MW

   โรงไฟฟ้าเวียดนามแผลงฤทธิ์!-รายได้พุ่ง!13,211ลบ.

   ผู้ถือหุ้น SUPER อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0006 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 พ.ค.  เตรียมรับทรัพย์ 28 พ.ค.64  บิ๊กบอส “จอมทรัพย์ โลจายะ”ปักหมุด!ปี 64 กำลังการผลิตไฟฟ้าทะลุ 1,500 MW ก่อนขยับเป็น 1,900 MW ในปี 65 หนุนผลงานนิวไฮต่อเนื่อง

   นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 30 เมษายน2564 ที่ผ่านมา

   มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด งวดประจำปี 2563 (1 ม.ค.–31 ธ.ค.2563) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 0.006 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 พ.ค. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 พฤษภาคม 2564

   “ผมต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ และให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในปีนี้บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ตามแผน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในมือ ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว”นายจอมทรัพย์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นโดยในปีนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศเวียดนาม จำนวน 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 เมกะวัตต์ หลังจากที่เริ่มจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา

   ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 421 เมกะวัตต์ คาดว่าในเฟสแรก 30 เมกะวัตต์ จะทยอย COD ในช่วงปลายปีนี้ ต่อเนื่องถึงปี 2565 สนับสนุนให้กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,900 เมกะวัตต์ จาก 1,400 -1,500 เมกะวัตต์ในปีนี้

   นายจอมทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 1,500 ล้านบาท หลังจากที่เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 20 - 22 เมษายน  2564 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่

   ทั้งนี้เป็นผลมาจากแผนการขยายธุรกิจที่มีความต่อเนื่องและชัดเจน ความมุ่งมั่นในการบริหารงาน ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง การมีวินัยทางการเงิน

   และการบริหารจัดการฐานะทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ตอบโจทย์ความน่าเชื่อถือของกลุ่มนักลงทุน นอกจากนี้ยังอัตราผลตอบแทน 5 % ต่อปี ซึ่งเป็นระดับน่าสนใจ

   “แนวโน้มรายได้รวมของบริษัทในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดดแตะที่ระดับ 13,211 ล้านบาท เทียบกับปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 9,898 ล้านบาท

   อีกทั้งยังคงมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ในหลายรูปแบบ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจ และการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน” นายจอมทรัพย์ กล่าวสรุป