"เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์" ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่
"เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์" ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่
"เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์" ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่
รุก!แนวราบ-แตกไลน์!ธุรกิจใหม่5ปีดันพอร์ต20%
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ชูวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็น Lifescape Developer เพื่อพัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตในทุกบริบทให้ครอบคลุม เดินหน้าลุยตลาดอสังหาฯ ต่อเนื่อง เปิด 5 โครงการ มูลค่า 11,300 ล้านบาท
ผุดแบรนด์เรือธง Malton Gates บ้านเดี่ยวระดับลักซูรี ด้วยแนวคิดใหม่ที่ตอบโจทย์สุขภาพแบบองค์รวม อีกทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Pet-Friendly Residences วางเป้ายอดขาย 7,500 ล้านบาท และเป้ารายได้ 8,000 ล้านบาท
พร้อมปักหมุด 5 ปี ปรับพอร์ต 20% สู่ธุรกิจใหม่ รองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง คาดนำร่องธุรกิจด้านสุขภาพ และด้านเทคโนโลยี ปลายปี 2564
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซูรี เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะไม่เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Developer)
แต่มุ่งสู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต หรือ Lifescape Developer เพื่อให้บริษัทเติบโตได้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม พร้อมสรรสร้างนวัตกรรมใหม่ที่ยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของผู้บริโภค
โดยในปี 2564 ได้ตั้งเป้ายอดขาย 7,500 ล้านบาท และสร้างรายได้รวม8,000 ล้านบาท โดยมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นปี 2563 ทั้งหมด 6,400 ล้านบาท
ซึ่งในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 11,300 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการมูลค่า 4,000 ล้านบาทหรือสัดส่วน 35% และคอนโดมิเนียม 3 โครงการมูลค่ารวม 7,300 ล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วน 65% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด โดยมีที่ดินรองรับไว้แล้ว
นางสาวเพชรลดา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้นบริษัทยังมองหาโอกาสสร้างรากฐานความแข็งแกร่งเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม โดยวางเป้าหมายการปรับตัวระยะ 5 ปี (2564-2568) ในหลากหลายมิติ ได้แก่
1.เพิ่มพอร์ตสินค้าแนวราบ ปรับสัดส่วนการพัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบให้กลายเป็น 75:25 จากเมื่อปี 2563 ที่เป็นคอนโดมิเนียมสดส่วน 95% และแนวราบ 5%
2.กระจายพอร์ตธุรกิจ (Business Diversification) ทยอยกระจายรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Business) และธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ (Non-Real Estate Business)ให้มีสัดส่วน 80:20 ในปี 2568 หรือรายได้จำนวน 2,000 ล้านบาท
โดยสัดส่วนดังกล่าวเน้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับภูมิทัศน์การใช้ชีวิต (Lifescape) ของผู้บริโภค คาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะเริ่มบุกธุรกิจใหม่ ด้วยงบลงทุนปี 64 จำนวน 150 ล้านบาท
ในด้านสุขภาพหรือ Healthscape โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพและสุขอนามัย ลงทุน 100 ล้านบาท และภายใน 5 ปีวางงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท
และด้านเทคโนโลยีหรือ Techscape ด้วยงบลงทุน 50 ล้านบาท ส่วน 5 ปีวางงบลงทุนไว้ 100 ล้านบาท นำร่องด้วยเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropTech) , ด้านสุขภาพ (HealthTech) และด้านการเงิน (FinTech) คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของธุรกิจใหม่ทั้ง 2 ประเภทนนี้ได้อย่างชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 4/2564
ทั้งนี้ทาง เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประเมินว่า ใน 5 ปีข้างหน้าธุรกิจหลักด้านอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทจะเติบโตเฉลี่ยที่ปีละ 5% ในขณะที่ธุรกิจใหม่จะเติบโตปีละ 20%
อย่างไรก็ตามหลังจากดำเนินธุรกิจใหม่นั้นคาดว่าจะส่งผลให้พอร์ตรายได้ของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ปัจจุบันเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด 100% แบ่งเป็นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ 96% จากโรงแรมและออฟฟิส 3% และจากการบริหารจัดการและการบริการสัดส่วน 1%
ซึ่งหลังจากปรับพอร์ตทางธุรกิจและเปิดดำเนินธุรกิจใหม่แล้วจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเปลี่ยนเป็นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 65% จากโรงแรมและออฟฟิส สัดส่วน 8% จากการบริหารจัดการและการบริการ สัดส่วน 7% และจากธุรกิจใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์สัดส่วน 20%
19 มีนาคม 2564
ผู้ชม 435 ครั้ง