สถิติ

72432206

STGT กางแผน!นำหุ้นเข้าเทรด

   STGT กางแผน!นำหุ้นเข้าเทรด

   ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เม.ย.-พ.ค.64

                             

   บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ หรือ STGT แจงความคืบหน้านำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ คาดพร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ ย้ำไม่มีการออกหรือเสนอขายหุ้นใหม่

   มั่นใจภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทในปี 64 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องจากดีมานด์ถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากในการฉีดวัคซีนยังจำเป็นต้องใช้ถุงมือยาง และมีคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า หนุนราคาขายไตรมาสแรกยังเพิ่มขึ้น     

   นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทมีมติอนุมัติให้เตรียมการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Secondary Listing by way of Introduction)

   ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลและเอกสารต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์พิจารณาอนุมัติ คาดว่ากระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จและสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2564 นี้

   ทั้งนี้บริษัทจะไม่มีการออกหรือเสนอขายหุ้นใหม่ เพื่อรองรับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ แต่จะเป็นการนำหุ้นเดิมของผู้ถือหุ้นบริษัทเข้าซื้อขายบนกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

   เพื่อรองรับการขยายฐานผู้ถือหุ้นให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น เพิ่มช่องทางระดมทุนในอนาคต ตลอดจนทำให้บริษัทฯ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในระดับภูมิภาค

   “หลังจากได้รับการอนุมัติจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลและเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในเวลาเดียวกันจัดให้มีกลไกการโอนหุ้นระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์” นางสาวจริญญา กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ขณะที่ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 มั่นใจจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมีปัจจัยมาจากความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้หลายประเทศเริ่มทยอยฉีดวัคซีน

   อย่างไรก็ตามในการฉีดวัคซีนก็มีความจำเป็นต้องใช้ถุงมือยางและการสวมใส่ถุงมือยางในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กลายเป็นพฤติกรรม New Normal ในสังคม

   ขณะที่สถานการณ์ราคาถุงมือยางยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2563 เนื่องจากบริษัทยังคงมีคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า โดยถุงมือยางธรรมชาติมีออเดอร์ล่วงหน้า 13 เดือน และถุงมือยางไนไตรล์มีออเดอร์ล่วงหน้า 30 เดือน มั่นใจดีมานต์ยังคงเเข็งแกร่ง  

08 มีนาคม 2564

ผู้ชม 511 ครั้ง

Engine by shopup.com