สถิติ

71824464

"SKR" คงเป้ารายได้ 4,200 ล้านบาท

   "SKR" คงเป้ารายได้ 4,200 ล้านบาท

   รุก!บริการใหม่-ลูกค้าประกันสังคมหนุน!

  

   “ศิครินทร์“ โชว์!กำไรสุทธิไตรมาสสอง 84 ล้านบาท เติบโตกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นและรายได้รับมากขึ้นจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม สวน!กระแสกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลที่ซบเซาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 1/2563

   นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ เลขานุการบริษัทและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในเขตตะวันออกของกรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรปราการและ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสอง 2563 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

   ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิรวม 157 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 60% จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นทั้งจากการบริหารจัดการค่าธรรมเนียมแพทย์ ,ค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายทางภาษีเงินได้ลดลงจำนวน 24 ล้านบาท จากการบันทึกตัดจ่ายทรัพย์สิน

   ทั้งนี้รายได้จากการดำเนินงานรวมครึ่งปีแรกจำนวน 1,842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนกระแสภาพรวมธุรกิจ เกิดจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา

   ศิครินทร์ เปิดตัว สถาบันกระดูกและข้อ ภายใต้แคมเปญ ”เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์ #Trust SIKARIN” ซึ่งจะทำให้มีรายได้จากกลุ่มคนไข้ใน (IPD)เพิ่มขึ้น

   โดยมีกลุ่มลูกค้าที่เคยใช้บริการในโรงพยาบาลระดับไฮเอ็นหันมาใช้บริการกับศิครินทร์มากขึ้นหลังโควิด-19 และยังได้ลูกค้าประกันสังคมซึ่งศิครินทร์มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการให้ได้มาร์จิ้นที่ดีเข้ามาทดแทนกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าตรวจสุขภาพ

   โดยศิครินทร์มีจำนวนโควต้าผู้ประกันตนทั้ง 3 โรงพยาบาล (กรุงเทพฯ ,สมุทรปราการ,สงขลา)ประมาณ 350,000 ราย อยู่ในอันดับต้นๆ ของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย

   สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลังศิครินทร์วางแผนรายได้เติบโต 12% จากเป้าหมายทั้งปีที่ 4,200 ล้านบาท ทั้งนี้ได้เริ่มเห็นสัญญาณคนไข้ที่เริ่มกลับเข้ามารักษาพยาบาลตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และบริษัทยังคงมุ่งเน้น บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความชำนาญในการบริหารจัดการรายได้จากกลุ่มลูกค้าประกันสังคมต่อเนื่อง

   “ในครึ่งปีหลังบริษัทจะยกระดับความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ด้วยการเปิดตัว “สถาบันกุมารเวช” ให้บริการการแพทย์เฉพาะทางแม่และเด็กครบวงจร เช่น การดูระบบพัฒนาการเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง อายุ 15 ขวบ

   และเปิดศูนย์ Be Better Wellness Center (ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย) ในไตรมาสที่ 4 ด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและฮอร์โมนเฉพาะบุคคล ผ่านการตรวจผลด้วยระบบห้องปฏิบัติการ (LAB) ที่ทันสมัยที่สุด เพื่อเปิดรับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ต้องการดูแลสุขภาพก่อนป่วยหรือต้องการมีสุขภาพที่ดี” นายสุริยันต์ กล่าวสรุป

14 สิงหาคม 2563

ผู้ชม 354 ครั้ง

Engine by shopup.com