สถิติ

66753019

"คูโบต้า"สวนหมัด!เศรษฐกิจกางแผนโต5-10%  

หมวดหมู่: ตลาด/ไอที

   "คูโบต้า"สวนหมัด!เศรษฐกิจกางแผนโต5-10%

   เดินหน้า!ลงทุน300ลบ.-ชู!โมเดลเกษตรอัจฉริยะ

                         

   นายทาคาโนบุ อาซึมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยถึงนโยบายหลังการเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 ว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมาแนวโน้มการเกษตรทั่วโลกให้ความสำคัญเรื่องเกษตรอัจฉริยะและเกษตรอัตโนมัติ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรทั่วโลก คูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ญี่ปุ่น ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยบริหารจัดการฟาร์ม เพิ่มคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุน ตลอดจนทำให้การเกษตรเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

   ซึ่ง สยามคูโบต้า ได้มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ส่งให้ผลประกอบการในปี 2562 มียอดขาย 54,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนในประเทศ : ต่างประเทศที่ 60:40  เท่ากับ 33,000 ล้านบาท : 21,000 ล้านบาท โดยมูลค่ายอดขายในประเทศเติบโตเกือบ 10% จากปีก่อนหน้า สำหรับปี 2563 สยามคูโบต้าตั้งเป้าเติบโตในอัตรา 5-10%

   โดยในปี 2563 คูโบต้า ได้ตั้งเป้างบการลงทุนไว้จำนวน 300 ล้านบาทแบ่งเป็น คูโบต้า ฟาร์มจำนวน 150 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารอเนกประสงค์เป็นศูนย์การเรียนรู้และประสบการณ์การเกษตรสมัยใหม่ให้กับทุกภาคส่วน ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในโรงงานนวนคร จ.ปทุมธานี จำนวน 92 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสายการผลิตเครื่องยนต์ 92 แรงม้าที่สูงขึ้น และโรงงานที่อมตะซิตี้ จ.ชลบุรี เพิ่มสายการผลิตแทรกเตอร์ให้มีรุ่นที่หลากหลายมากขึ้น

   “ปัจจุบันเทรนด์การเกษตรยุคดิจิทัลมีการเปลี่ยนไปสู่การเป็นเกษตรอัจฉริยะหรือเกษตรอัตโนมัติรองรับการขาดแคลนแรงงานทางการเกษตรที่มีการประเมินว่าเทรนด์การเกษตรดิจิทัลนี้จะมีมูลค่า 23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเติบโตเฉลี่ย 19%  เช่นเทคโนโลยีต่างๆทางการเกษตร” นายอาซึมะ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   นอกจากนั้นนโยบายของคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น มุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่จะทำให้แบรนด์คูโบต้า เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก หรือ “Global Major Brand (GMB)” ที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าและอะกริโซลูชั่นให้กับลูกค้าที่มีทั่วโลก พร้อมเป็นองค์กรที่ตอบแทนสังคม ไม่เพียงแต่จะมุ่งพัฒนาภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมของไทยและอาเซียน แต่ยังคำนึงถึงความรับผิดชอบที่จะส่งมอบสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมเกษตรของอาเซียนอย่างแท้จริง

  

   นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง น้ำท่วม ประกอบกับสงครามทางการค้าส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตรและราคาผลผลิตปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตร (GDP ภาคเกษตร) เติบโตขึ้น 0.5% จากปีที่ผ่าน

   จากปัญหาขาดแคลนแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่า แนวโน้มตลาดเกษตรอัจฉริยะจะเติบโตเฉลี่ยประมาณ 19% ต่อปี สยามคูโบต้าจึงได้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนภาคการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี IoT เซ็นเซอร์ นวัตกรรมการถ่ายภาพที่ส่งให้เกษตรกรได้แบบเรียล ไทม์ (Real Time) ทำให้ติดตามความเปลี่ยนแปลงของพืชที่ปลูก ทำให้รับทราบปัญหาเพื่อแก้ไขได้ทันการณ์

   นอกจากนี้ยังมีระบบบริหารจัดการเครื่องจักร อาทิ ระบบ KIS (Kubota Intelligence Solutions) ที่นำ GPS Telematics มาช่วยบริหารจัดการเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำเกษตรได้อย่างแม่นยำ (Precision Agriculture) และยังมีการนำโดรนมาใช้ฉีดพ่นสารชีวภัณฑ์ทางการเกษตรแทนแรงงานคน

   รวมทั้งการจัดการเครื่องจักรกลการเกษตรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในฟาร์มด้วย นอกจากนี้  ยังร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรจัดโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมการเกษตรระดับนานาชาติ (Global AgTech Acceleration Program) เพื่อพัฒนาภาคการเกษตรให้เป็นเกษตรอัจฉริยะ

   “นอกจากนี้ สยามคูโบต้าเดินหน้าจัดทำโครงการเกษตรปลอดการเผา Zero Burn ที่ร่วมมือกับภาครัฐลดปัญหาที่เกิดจากการเผาของภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โครงการเกษตรปลอดนาหว่าน Zero Broadcast ที่ส่งเสริมกลุ่มเกษตรนาแปลงใหญ่ทำเกษตรประณีตด้วยวิธีดำนา และหยอดเมล็ด เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนอีกด้วย

   และในปีนี้สยามคูโบต้าจะเปิดให้บริการ KUBOTA Farm อย่างเต็มรูปแบบ โดยนำแนวคิด KUBOTA (Agri) Solutions หรือ KAS ซึ่งเป็นการจัดการเกษตรกรรมครบวงจรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคูโบต้ามาประยุกต์ใช้จริง ผสานกับนวัตกรรมเกษตรของคูโบต้า เพื่อเป็นฟาร์มสร้างประสบการณ์การเกษตรสมัยใหม่ในภูมิภาคอาเซียน มุ่งยกระดับภาคการเกษตรอาเซียนเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการผลิตแบบยั่งยืน” นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำ

  

   นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ เปิดเผยว่า จากเป้าหมายการเติบโต 5-10% ในปี 2563 นั้นจะส่งผลให้คูโบต้ามียอดขายจำนวน  38,000 คัน จากปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 35,000 คัน จากมูลค่าตลาดรวมของเครื่องยนต์การเกษตรที่ 60,000-70,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้จะมุ่งเน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้วยการมองผ่านมุมมองของลูกค้า

   รวมถึงการใช้ Big Data สร้างเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการ ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 400 แห่ง ให้มีความแข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์คูโบต้าเสมือนเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้าง (On Your Side)

   “นอกจากนี้ได้นำแนวคิด ออมนิ แชนแนล (Omni Channel) มาใช้ในระบบการจัดจำหน่ายมีการเชื่อมโยงลูกค้ารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  โดยผนวกสื่อออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ เน้นการทำ Digital Marketing ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เน้นช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Smart Farmer

   ตลอดจนพัฒนาแอปพลิเคชันเวอร์ชั่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้แก่ KUBOTA Smart Application สามารถดูข้อมูลสินค้าและกิจกรรมโปรโมชั่นต่างๆ KAS Crop Calendar ปฎิทินเพาะปลูกที่ครอบคลุมทั้ง ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพด

   นอกจากนี้ยังมีบริการซื้ออะไหล่ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ได้รับภายใน 1 วัน เพื่อสอดรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคเกษตร 4.0 อย่างแท้จริง อีกทั้งนำข้อมูลที่ได้กลับมาต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Solutions) และการให้บริการ (Service Solutions) ที่แม่นยำตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ

   และนำเสนอนวัตกรรมเกษตรใหม่ๆ ที่ครอบคลุมการทำเกษตรในกลุ่มพืชที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรมากกว่าการปลูกพืชเชิงเดี่ยว พร้อมออกแคมเปญการตลาด ภายใต้แนวคิด “Best Companion” ที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของเกษตรกรได้สบายใจยิ่งขึ้น” นายพิษณุ กล่าวสรุป

 

 

02 กุมภาพันธ์ 2563

ผู้ชม 1619 ครั้ง

Engine by shopup.com