ยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ "ขายตรง"
ยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ "ขายตรง"
ยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ "ขายตรง"
TSDAโว!นักขายเข้าเกณฑ์1ล้านคน
ดร.สมชาย หัชลีฬหา นายกสมาคมพัฒนาการขายตรงไทย (Thai Direct Selling Development Association : TSDA ) กล่าวว่า สมาคมพัฒนาการขายตรงไทยมีแนวคิดร่วมมือกับภาครัฐในการทำมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งขณะนี้ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเชิญสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน) มาร่วมหารือในเรื่องการกำหนดมาตรฐานวิชาชีพโดยร่วมกับสคบ.ด้วย เพื่อสร้างมาตรฐานวิชาชีพที่ถูกต้องทำให้สังคมยอมรับและรับรู้ว่าข้อดีของขายตรงคืออะไร ขายตรงที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ขายตรงมีข้อเสียอะไรบ้าง ขายตรงที่แท้จริงมีประโยชน์มากแค่ไหน
“ผมก็ยังยืนยันว่าขายตรงเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพ เพราะว่าแน่นอนถ้ามีบริษัทนำสินค้ามาขายก็ต้องกระจายสู่ผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคก็เลือกเองว่าสินค้านั้นถูกหรือแพงอย่างไร คุ้มราคาที่จ่ายเงินหรือไม่ ซึ่งขายตรงที่จะอยู่ได้ก็ต้องตั้งราคาที่สมเหตุสมผล ไม่งั้นลูกค้าก็คงไม่ซื้อดังนั้นสินค้าต้องคุ้มค่ากับเงินที่ลูกค้าจ่าย” ดร.สมชาย กล่าวและเพ่ิมเติมว่า
ดังนั้นขายตรงก็คือขายตรง ส่วนแชร์ลูกโซ่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่แผนธุรกิจ สินค้าไม่รู้คืออะไรและเป็นสินค้าที่คนไม่ต้องการ ซ้ำราคาสูงเกินจริงไม่คุ้มมูลค่า ธุรกิจแบบนี้อาจมีตัวอย่างความสำเร็จของคนที่เข้าไปทำช่วงต้นๆ เมื่อมีผู้ทำได้มากขึ้นบริษัทต้องจ่ายเงินเยอะขึ้นอาจมีการปฏิเสธการจ่ายเงิน และ ปิดบริษัทหนี ประเด็นแบบนี้คือแชร์ลูกโซ่เป็นส่วนใหญ่ไม่ใช่บริษัทขายตรง เพราะขายตรงส่วนใหญ่ไม่กล้าทำผิดเนื่องจากต้องการอยู่ในตลาดอย่างยาวนาน
ปัจจุบันสมาคมฯ ก็อยากทำให้ทุกคนรับรู้ว่าธุรกิจนี้เป็นอย่างไร ขายตรงเป็นอย่างไรแชร์ลูกโซ่เป็นอย่างไร และข้อสำคัญมาตรฐานขายตรง มีการจัดอบรมเพื่อขึ้นทะเบียนนักขายอิสระ สามารถยืนยันตัวตนผู้ขายว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับ และยืนยันว่ามีตัวตนจริงมีความรับผิดชอบ ซื่งการจะทำอย่างนี้ก็ต้องมาอบรมก่อน” ดร.สมชาย ย้ำและว่า การอบรมนี้จะมีหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.), สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.), กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.), และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรและบัตรประจำตัวผู้เข้าอบรม ซึ่งออกโดยสมาคมฯร่วมกับสคบ.
ในส่วนภาคเอกชนสมาคมพัฒนาการขายตรงไทย จะให้ข้อมูลให้ความรู้ว่าทำธุรกิจอย่างไรจะประสบความสำเร็จ ต้องมีรากฐานจากอะไรการขายตรงที่ดีต้องทำอย่างไร การให้ใบรับรองจากสมาคมฯและภาครัฐก็ทำให้มีความมั่นใจและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ด้านบริษัทเองก็ต้องขึ้นทะเบียนกับสคบ.ต้องมีใบอนุญาตขายตรง และได้การรับรองจากหน่วยงานภาครัฐอย่างถูกต้อง มีมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้ง GMP, ISO ต่างๆ มีหลายปัจจัยที่ต้องเรียนรู้ ซึ่งงานที่จะจัดสัมมนาวันที่ 19 ส.ค.2560 ก็จะให้ความรู้เรื่องที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ ให้ข้อมูลการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องการทำที่ประสบความสำเร็จ
4 สมาคมขายตรงมีบริษัทสมาชิกต่ำกว่า 100
ปัจจุบันสมาคมฯมีบทบาทการให้ข้อมูลพื้นฐาน การทำธุรกิจ ปัจจัยความความสำเร็จต้องใช้อะไร ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิก 10 บริษัทมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกันพัฒนาวงการขายตรงจัดประชุมกันทุก 2 เดือน มีการเปิดรับฟังข้อร้องเรียนและร่วมมือกับสมาคมขายตรงอื่นด้วย เป้าหมายของสมาคมฯต้องการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพขายตรง เป็นความร่วมมือภาครัฐ สมาคมฯ และสถาบันการศึกษา ซึ่งทางสมาคมต้องการผลักดันวิชาชีพให้มีมาตรฐานต่อเนื่องในอนาคต
สำหรับภาพรวมธุรกิจขายตรงปัจจุบันมีตัวแทนขายเกิน 10 ล้านคนมีบริษัทขายตรงกว่า 900 บริษัททั้งบริษัทขายตรงและการตลาดแบบตรง หรือขายผ่านสื่อออนไลน์ ปัจจุบันสมาคมด้านขายตรงมี 4 สมาคมแต่มีบริษัทที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกรวมกันยังไม่ถึง 100 บริษัท ดังนั้นจึงอยากให้บริษัทขายตรงต่างๆ เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกร่วมกันพัฒนาธุรกิจขายตรงให้มีมาตรฐานที่ดีและเป็นที่ยอมรับของสังคมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้หากมีการยกระดับและขึ้นทะเบียนมาตรฐานวิชาชีพตัวแทนขายตรงคาดว่าจะมีมืออาชีพที่อยุ่ในธุรกิจตามเกณฑ์จำนวน 1 ล้านคนเลยทีเดียว
ดร.สมชาย กล่าวเพ่ิมเติมว่า ล่าสุดทางสมาคมฯได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) จัดอบรมมาตรฐานวิชาชีพขายตรงครั้งที่ 7 ขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2560 นี้ ซึ่งเป็นการจัดอบรมต่อเนื่อง หลังจากสมาคมได้ดำเนินการจัดงานอบรมมาตรฐานวิชาชีพมาแล้ว 6 ครั้ง อบรมนักขายตรงไปแล้วกว่า 6,000 คน งานนี้จัดขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพโดยปีนี้ได้เชิญสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน) มาร่วมหารือในเรื่องการกำหนดมาตรฐานวิชาชีพร่วมกับสคบ.ด้วย เพื่อยกระดับคุณภาพวิชาชีพขายตรงให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
05 สิงหาคม 2560
ผู้ชม 447 ครั้ง