“อาเซียรีดอกซ์” ปลุก!กระแสขายตรงไทย                                 

   “อาเซียรีดอกซ์” ปลุก!กระแสขายตรงไทย

   ชู!นวัตกรรมรีด็อกซ์เซลล์-อหังการ!1,000ลบ.                                                                                                                                                         นายสุชาติ   ไชยชะนะ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาเซียรีดอกซ์(ประเทศไทย) จำกัด(ASEA)  เปิดเผยว่า บริษัทแม่ได้ดำเนินธุรกิจขายตรงในประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้ว 8 ปี และเครือข่ายใน 33 ประเทศ แต่ทั้งนี้ได้เริ่มวางกลยุทธ์เข้ามาดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียเมื่อปลายปี 2560 ที่ผ่านมาใน 5 ประเทศ คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์และไทย

   ทั้งนี้เพราะจากผลการวิจัยพบว่าเป็นกลุ่มประเทศที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งจากการเข้ามาเปิดตลาดใน 5 ประเทศของภูมิภาคนี้ปรากฎว่าสามารถสร้างยอดขายรวมกันได้เดือนละ 300 ล้านบาท

   สำหรับในไทยนั้นจากผลการวิจัยปรากฎว่าอยู่ในอันดับที่ 6 ที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจนี้สูงมากทาง ซึ่งทาง อาเซียรีดอกซ์ ได้เข้ามาทดลองตลาดเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา โดยนำเสนอขายผลิตภัณฑ์สกินแคร์ RENU 28 เป็นหลักซึ่งก็สามารถสร้างยอดขายเติบโตได้ 3-4 เท่าทุกเดือน

   เนื่องจากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากว่า 20 ปี ในเรื่องโมเลกุลที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคู่แข่งทางการตลาด

   เพราะเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีรีด็อกซ์เซลล์ เพื่อการปรับร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล  รวมทั้งการปกป้อง ฟื้นฟู ซ่อมแซม ในขั้นตอนเดียว สร้างเสริมกลไกของระบบด้านอนุมูลอิสระในร่างกายเพื่อให้ทุกเซลล์แข็งแรง

   นอกจากนั้นบริษัทก็เตรียมนำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาทำตลาดเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้เพราะในต่างประเทศนั้นยอดขายของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้มีสัดส่วนเท่ากันคือ 50 : 50

   นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้หลังจากที่ บริษัท อาเซียรีดอกซ์(ประเทศไทย) จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจขายตรงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 ที่ผ่านมาบริษัทก็ได้เตรียมเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มีนาคม 2562 นี้

   ทั้งการเปิดสำนักงานใหญ่และการเปิดงานกับทีมนักธุรกิจที่สนใจเข้ามาร่วมงานด้วย โดยมีเป้าหมายการสร้างยอดขายจำนวน 1,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายที่ทางบริษัทแม่ตั้งไว้ที่ 500 ล้านบาทเท่านั้น

   ทั้งนี้เพราะหลังจากที่บริษัทได้มีการเปิดตัวในช่วงปีกว่าที่ผ่านมาปรากฎว่ามีนักธุรกิจให้ความสนใจเข้าร่วมงานด้วยกว่า 3,000 คน ซึ่งถือเป็นการตอบรับทางธุรกิจและสร้างกระแสขายตรงในไทยได้เป็นอย่างมาก โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีความโดดเด่นของการวิจัยโมเลกุลทางวิทยาศาสตร์จากนวัตกรรมเทคโนโลยีรีด็อกซ์เซลล์

   ประกอบกับการที่ อาเซียรีดอกซ์ ซึ่งถือเป็นบริษัทขายตรงสัญชาติต่างประเทศที่เข้ามาเปิดตลาดในไทยในรอบ 5  ปี  หลังกจากที่ห่างหายและซบเซากันไปนานก็ถือเป็นการปลุกกระแสและสร้างความน่าสนใจให้กับธุรกิจขายตรงไทยเป็นอย่างมากเช่นกัน

   นอกจากนั้นการที่บริษัทมีโครงสร้างผลตอบแทนที่ดีและจูงใจผู้ร่วมงานก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถสร้างกระแสและการตอบรับจากนักธุรกิจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะแม้บริษัทจะมีผลตอบแทนหรือแผนการตลาดแบบไบนารี่(Binary) ที่มีการประยุกต์และผสมผสานกลยุทธ์ผลตอบแทนที่สามารถสร้างรายได้หรือความเท่าเทียมกันให้กับนักธุรกิจทุกระดับชั้นตามผลงานหรือการทำงานที่ขยันมากน้อยแตกต่างกันไป

   ทั้งนี้เพราะแม้แผนการตลาดไบนารี่นั้นจะมีข้อจำกัดในการจ่ายผลตอบแทนและมีจุดสิ้นสุดของการให้ผลประโยชน์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่สำหรับ อาเซียรีดอกซ์ มีความชัดเจนของผลตอบแทนที่จ่ายได้สูงสุดที่ 300,000 บาทต่อสัปดาห์

   นอกจากนั้นยังมีการปรับกลยุทธ์แผนการตลาดเพิ่มเติมในเรื่องของการแนะนำคนเข้าสู่ธุรกิจและมีการซื้อผลิตภัณฑ์เบื้องต้น 5,000 บาท ก็จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมอีก 10-15% ในขณะที่นักธุรกิจที่ร่วมงานนั้นก็ต้องรักษายอดขายตามเกณฑ์ของบริษัทที่จำนวน 10,000 บาทต่อเดือนควบคู่กันไปด้วย