สถิติ

73174702

PTG ปักธง!ปี71 ดันสัดส่วนกำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-Oil แตะ 50%

   PTG ปักธง!ปี71 ดันสัดส่วนกำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-Oil แตะ 50%

   ชูกาแฟพันธุ์ไทย5,000สาขา-แผนลงทุน6,000ลบ.-ส่งลูกเทรด8บริษัท


   บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจปี 2568 ภายใต้ Max World เดินหน้าขยายเครือข่ายธุรกิจในหลากหลายมิติ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง พร้อมตอกย้ำวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข"

   ผ่านการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ และใช้ฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus กว่า 25 ล้านสมาชิก ปี 68 ตั้งเป้าขยายฐานอีก 2 ล้านสมาชิก เป็นกลไกสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ Oil และ Non-Oil  

   ตั้งเป้าสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2571 จากปัจจุบันที่ 20% มุ่งเน้น กาแฟพันธุ์ไทย  เป็นหัวหอกสำคัญ ขยายสู่ 5,000 สาขาทั่วประเทศ

   กางแผนงบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท ทุ่ม 2 ใน 3 ลงทุน Non-Oil เต็มสูบ! พร้อมผลักดันบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอีก 7-8 บริษัทตามแผน

   คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยในงาน  PTG Drive for Tomorrow: Max Card. Max Growth. Max World.ว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา PTG สามารถสร้างการเติบโต โดยมี PT Max Card และ PT Max Card Plus กว่า 25 ล้านสมาชิก (คิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรไทย) เป็นกุญแจสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในด้านปริมาณ คุณภาพ และกลยุทธ์

   ธุรกิจ Oil ของ PTG ทำสถิติใหม่ด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,548 ล้านลิตร เติบโต 12.9% YoY สูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมกว่า 10 เท่า (ตลาดเติบโต 0.4% YoY)

   พร้อมครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 21.9% จาก Same-Store Sales Growth (SSSG) กว่า 11.6% YoY โดยมี PT Max Card เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ดึงดูดลูกค้าให้กลับมาเติมน้ำมันมากขึ้น บ่อยขึ้น และต่อเนื่องขึ้น 

   ขณะเดียวกัน ธุรกิจ Non-Oil เติบโตอย่างแข็งแกร่งครอบคลุมทุกมิติ ในมุมของปริมาณทางฝั่งธุรกิจ Non-Oil มีรายได้เติบโต 31.2% YoY ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของ GDP 10 เท่า (GDP เติบโต 2.5% YoY) ขณะที่กำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้น 35% YoY

   โดยมีกาแฟพันธุ์ไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ Non-Oil ด้วยการเติบโตที่โดดเด่นของกำไรขั้นต้นซึ่งเพิ่มขึ้น 80.2% YoY จากการขยายสาขาเฉลี่ยกว่า 1.3 สาขาต่อวันไปยังสถานีบริการน้ำมันและภายนอกสถานีบริการน้ำมันที่มีศักยภาพ

   อีกทั้งได้พัฒนาสินค้าและบริการต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า โดยพัฒนาโมเดลร้านให้หลากหลาย รวมถึงการทำแคมเปญที่สอดรับกับการสนับสนุนวัตถุดิบท้องถิ่นอย่าง “ไทยริกาโน” 

   ขณะที่ Autobacs ซึ่งประกอบธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ และศูนย์บริการ มาตรฐานระดับญี่ปุ่น กำไรขั้นต้นเติบโต 70.9% YoY จากการขยายสาขาเป็น 117 สาขาภายในปี 2567 โดยมีรายได้เติบโตด้วยเช่นกันที่ 76% YoY  

   ทั้งนี้การเติบโตของกาแฟพันธุ์ไทย และ Autobacs เกิดจากพลังของฐานลูกค้าสมาชิกมีการเติบโตสะท้อนจากยอดขายกาแฟพันธ์ไทยกว่า 75% มาจากสมาชิก Max Card และ Max Card Plus โดยสมาชิก Max Card Plus มีการบริโภคกาแฟมากกว่าลูกค้าทั่วไป 7 เท่าต่อเดือน อีกทั้งซื้อกาแฟต่อครั้งมากกว่าลูกค้าทั่วไปถึง 2 เท่า

                  

   คุณพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับอนาคต PTG มุ่งสู่ Max World ซึ่งเป็นระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้เข้าถึงชีวิตที่ อยู่ดี มีสุข 

   เพื่อรองรับแผนงานและเป้าหมายการเติบโตในปี 2571 ตามที่วางไว้ ในการผลักดันสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% ให้เทียบเท่าธุรกิจ Oil 

   ด้วยงบลงทุนจากกระแสเงินสดจำนวน 6,000-7,000 ล้านบาท โดย 2 ใน 3 เป็นการนำไปลงทุนในธุรกิจ Non-Oil ตามแผนงานที่วางไว้ ผ่าน 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่

  1. ยกระดับคุณภาพให้ลูกค้ามี “ชีวิตดี” ผ่านบัตร Max Card และ Max Card Plus โดยมอบโอกาสให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย และได้รับสิทธิพิเศษมากขึ้น เช่น เข้าพักจุดบริการ PT MAX CAMP ฟรีระหว่างการเดินทาง ส่วนลด 50 สตางค์/ลิตร สำหรับน้ำมันใสหรือ LPG ส่วนลด 50% สำหรับเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยหรือคอฟฟี่เวิลด์ ฟรีค่าบริการจัดส่งน้ำมันฉุกเฉิน มูลค่า 100 บาท เป็นต้น โดยสิทธิประโยชน์เหล่านี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม และเกิดการบอกต่ออย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นว่าทุกสิ่งที่ PTG ขับเคลื่อนอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจลูกค้า ดังคำกล่าว “ใครจะเข้าใจคนไทย... ได้ดีกว่าคนไทยด้วยกัน” โดยปี 2568 ตั้งเป้าขยายฐานเพิ่มอีก 2 ล้านสมาชิก
  2. ขยายธุรกิจ Non-Oil ให้ “เติบโต” โดยตั้งเป้าสัดส่วนกำไรขั้นต้นในธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2571 จากปัจจุบันมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20% โดยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของกําไรขั้นต้น พร้อมกับธุรกิจ Non-Oil อื่นๆ อีก 25% โดยการเพิ่มในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีปัจจัยมาจากการขยายกาแฟพันธุ์ไทยสู่ 5,000 สาขา ภายในปี พ.ศ. 2571 จากปัจจุบันมี 500 สาขา และปี 2568 ตั้งเป้าขยายเป็น 600 สาขา การขยายสาขานี้จะทําให้กาแฟพันธุ์ไทยเข้าถึงชุมชนและเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ในมุมธุรกิจใหม่ Subway ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศธุรกิจของ PTG ผ่านบัตร Max Card โดยใช้ประโยชน์จากฐานสมาชิกกว่า 25 ล้านราย เพื่อมอบความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
  1. PTG ได้ย่อ Max World มาอยู่ในมือลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อเพิ่ม “ความสะดวกสบาย” ให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น ผ่านแพลตฟอร์มที่รวมสินค้า บริการ และสิทธิพิเศษไว้ในที่เดียว 
  2. PTG วางเป้าหมายผลักดันบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) อย่างต่อเนื่องอีกกว่า 7-8 บริษัท เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วยตนเอง โดยในปี 2568 นี้วางแผนไว้ 1 บริษัท ปี 2569 จำนวน 2 บริษัท และปี 2570 อีกจำนวน 1-2 บริษัท

                        

   ด้าน นายรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและความยั่งยืน บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG กล่าวเพิ่มเติมว่า PTG ได้ขยายขอบเขตไปยังธุรกิจ Non-Oil อื่นๆ อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการเชื่อมต่อกับ Max Card ให้ลูกค้าปลดล็อกสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า

   ไม่ว่าจะในด้าน บริการสินเชื่อที่ PTG ได้ร่วมมือกับ Paisan Capital เพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการขนส่ง เสริมศักยภาพในการเข้าถึงสินเชื่อด้วยเงื่อนไขที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการ

   อีกทั้ง PTG เป็นผู้นำในการนำ Subscription Model มาเชื่อมต่อกับสถานีชาร์จ EV Elex by EGAT PT ให้ลูกค้าปลดล็อกสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า พร้อมยกระดับสุขอนามัยของคนในชุมชนผ่านธุรกิจบริหารจัดการขยะ

09 มีนาคม 2568

ผู้ชม 284 ครั้ง

Engine by shopup.com