สถิติ

73467151

ทาทา สตีล(ประเทสไทย)กวาดยอดขาย5,676ล้านบาท

   ทาทา สตีล(ประเทสไทย)กวาดยอดขาย5,676ล้านบาท

   อานิสงส์!รุกส่งออกพอร์ตแตะ25%-ดันสินค้ามูลค่าเพิ่ม

                                            

   บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดําเนินงานไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 บริษัทได้รายงานผลกําไรก่อนหักภาษีเงินได้ 295 ล้านบาท

   สําหรับไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2567 เทียบกับขาดทุน 160 ล้านบาทในไตรมาสเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2567 และขาดทน 96 ล้านบาทในไตรมาลเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566                                                               

   มร ตารุน ดากา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปริมาณการขายในไตรมาส 3 ปี 2568(ตุลาคม-ธันวาคม 2567) ของบริษัท อยู่ที่ 277,000 ตัน เมื่อเทียบกับปริมาณการขาย 280,000 ต้น ในไตรมาศก่อนหน้า

   ปริมาณการขายภายในประเทศอยู่ที่ 208,000 ตัน เทียบกับ 233,000 ตัน ในไตรมาสก่อนหน้าหรือสัดส่วน 85% และส่งออกเพิ่มขี้นมาอยู่ที่สัดส่วน 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ราว 10-15% ตามกลยุทธ์การสร้างรายได้ของบริษัทที่มีการปรับตัวในการทำตลาดตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

                                                        

   ทั้งนี้เพราะไตรมาสที่ผ่านมายอดขายได้สะท้อนถึงความต้องการ ผลิตภัณฑ์โเหล็กทรงยาวในตลาดภายในประเทศที่ลดลง ดังนั้นจึงได้รับการชดเชยด้วยยอดขายส่งออที่เพิ่มขึ้นมายู่ที่ 689,000 ตัน เทียบกับ 47,000 ตัน ที่ส่งออกในไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

   ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่แล้วมาจากยอดชายส่งออกที่เพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้รายได้จากการขายในไตรมาสนี้อยู่ที่ 5,676 ล้านบาท น้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้า                                                        

   สะท้อนถึงราคาขายที่ลดลงท่ามกลาง ภาวะตลาดที่ซบเซา เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปริมาณการขายส่งออกที่เพิ่มขึ้น

   ประกอบกับความคิดริเริมที่บริษัทดําเนินการในการปรับปรุงประสิทธิภาพการแปลงสภาพวัตฤดิบและการขายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มยังช่วยเพิ่มผลกําไรอีกด้วย ทําไรก่อนหักภาษีในไตรมาสนี้รวมถึงกําไร 260 ล้านบาทจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน

   ทั้งนี้ตลาดสินค้าเหล็กของประเทศไทยยังเผชิญกับอุปสรรคที่รุนแรงจากความต้องการภายในประเทศที่ลดลง และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากการนําเข้าเหล็กจากจีน แนวโน้มการเติบโตที่จํากัดนั้นสังเกตได้จากการฟื้นตัวที่ข้ากว่าที่คาดการณ์ในภาคส่วนลําคัญ เช่น การก่อสร้าง การผลิต และยานยนต์ 

   แต่ในปี 2568 คาดว่าตลาดจะฟื้นตัวและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการเบิกจ่ายงบประมาณของทางภาครัฐ จะส่งผลให้ยอดขายเหล็กภายในประเทศมีการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลต่อการขายเหล็กของทาง ทาทา สตีล(ประเทศไทย) ให้เป็นไปตามเป้าหมายได้เช่นกัน

30 มกราคม 2568

ผู้ชม 80 ครั้ง

Engine by shopup.com