สถิติ

71303020

ธอส. กางแผนปี 68 ปูพรมสินเชื่อใหม่โต 3% ลดหนี้เสียเหลือ 4-5%    

หมวดหมู่: การเงิน

   ธอส. กางแผนปี 68 ปูพรมสินเชื่อใหม่โต 3% ลดหนี้เสียเหลือ 4-5%

   เดินหน้า!"คุณสู้ เราช่วย"ลดภาระหนี้ลูกค้า340,000ราย ไม่หวั่น!กำไรลด

   ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดผลการดำเนินงานปัจจุบัน สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้มากกว่า 200,000 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 95,125 ราย ส่งผลให้สินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 1.78 ล้านล้านบาท คาดการณ์ปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2567 ได้ไม่ต่ำกว่า 230,000 ล้านบาท หนี้เสียอยู่ที่ 5.50% 

   ปี 2568 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 3% จำนวน 240,000-250,000 ล้านบาท พร้อมลดหนี้เสียเหลือ 4-5% ยืนยันปี 2568 พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง

   ผ่านโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" โดยมีลูกค้าเข้าเกณฑ์กว่า 340,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 330,000 ล้านบาท สนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และผลักดันองค์กรสู่ความยั่งยืน แม้ส่งผลกระทบกำไรลดลงอย่างต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน 

   นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ ทำให้คนไทยมีบ้าน โดยตลอดระยะเวลา 71 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว สามารถสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีคุณภาพชีวิต และความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย

   โดย ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้วกว่า 200,856 ล้านบาท จำนวน 155,536 บัญชี มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 41.7%

   ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สูงถึง 95,125 ราย สะท้อนว่า ธอส. เป็นธนาคารที่ตอบโจทย์ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน ธอส. มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1.78 ล้านล้านบาท

   ทั้งนี้สิ้นปี 2567 คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 230,000 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 47% โดยปัจจุบันมีหนี้เสียอยู่ที่ 5.5% ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยอยู่ที่ 6.17% ส่วนกำไรภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะลดลงกว่าปี 2566 ที่มีจำนวน 14,000 ล้านบาท 

   ทั้งนี้ในปี 2567 ธอส. ให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายและตรงตามความต้องการของลูกค้า อาทิ สินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส., โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ.2567, มาตรการสินเชื่อซื้อ–สร้าง และมาตรการสินเชื่อซ่อม–แต่ง

                         

   ขณะที่การจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567 และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านรายได้ให้กับลูกค้านั้น

   ปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการรวม 114,101 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 133,255.49 ล้านบาท โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาบ้านให้คนไทย และทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของ ธอส. อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้

   นายกมลภพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในปี 2568 ธอส. ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่โต 3% ตามจีดีพี หรือจำนวน 240,000-250,000 ล้านบาท ส่วนหนี้เสียคาดว่าจะอยู่ที่ 4-5% ในขณะที่กำไรคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เ่ช่นกัน จากการดำเนินการปล่อยสินเชื่อในโครงการเมื่อปี 2567 

   รวมถึงการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังในโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ที่มีลูกค้าของธอส.อยู่ในเงื่อนไขจำนวน 340,000 ราย คิดเป็นมูลค่าหนี้รวม 330,000 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยลูกหนี้ได้ปีละ 16,000 ล้านบาท โดยธอส.และรัฐรับภาระคนละครึ่ง

   "ธอส. พร้อมในการสนับสนุนคนไทยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ด้วยการเป็นที่ 1 ของสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท

   โดย ธอส. คาดการณ์ปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2568 ได้ไม่ต่ำกว่าปี 2567 ผ่านการให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและเงินงวดในการผ่อนชำระอยู่ในระดับที่เหมาะสม

   สำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง (Social Solution) และสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพประจำ-อาชีพอิสระ ที่มีรายได้มากกว่า 25,000 บาท/เดือน (Business Solution)" นายกมลภพ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า 

                         

   นอกจากนี้ ธอส. ยังพัฒนาการให้บริการเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ายิ่งขึ้น อาทิ (1) โครงการสอบทานกระบวนการ
ให้สินเชื่อ (
Automate Loan Review : ALR ) โครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อสอบทานคุณสมบัติของลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อ
เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้สินเชื่อที่ตรงกับความต้องการและความสามารถ
ของลูกค้า

   และ (2) โครงการระบบ GHB Digital  Appraisal ระยะที่ 3 เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการประเมินราคาหลักทรัพย์ผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งมีการขยายพื้นที่ในการให้บริการไปยังสาขาต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

   โดยระบบดังกล่าวเป็นการให้บริการด้านข้อมูลการประเมินราคาหลักทรัพย์ในเบื้องต้นให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มีความประสงค์จะขอสินเชื่อกับธนาคาร ให้สามารถประเมินราคาในเบื้องต้นเพื่อประมาณการวงเงินอนุมัติเบื้องต้นได้รวดเร็วขึ้น

   โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

16 ธันวาคม 2567

ผู้ชม 26 ครั้ง

Engine by shopup.com