ช้าง สบช่องเบียร์พรีเมียม 40,000 ล้านบาทโตแรง!  

   ช้าง สบช่องเบียร์พรีเมียม 40,000 ล้านบาทโตแรง!

   ส่ง "ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์" ดันยอดขายโต 2 หลัก  

   เบียร์ช้าง หนึ่งในผู้นำตลาดเบียร์ของประเทศไทย จุดพลุฉลองครบรอบ 2 ปี “ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์” เดินหน้าสร้างความคึกคักและแปลกใหม่ให้ตลาดเบียร์พรีเมียม 40,000 ล้านบาท ส่งท้ายปี 2567 หลังพบเทรนด์อัตราการเติบโตสูงสุด

   เปิดตัวนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก “ขวดอลูมินั่มฝาเกลียว” (Screw-top Aluminum Bottle) เป็นแบรนด์แรกในไทย ผนึก “เซเว่น อีเลฟเว่น”

   ประเดิมจัดจำหน่าย “ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ขวดอลูมินั่มฝาเกลียว” ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมเป็นต้นไป ด้วยราคา 89 บาท

   เพื่อเพิ่มโอกาสในการดื่มให้คนไทยและนักท่องเที่ยว ได้ลิ้มรสประสบการณ์รสชาติความสดใหม่ โดยไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์หลังบรรจุขวด

   คงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติจากวัตถุดิบธรรมชาติ โดยตั้งเป้ายอดขาย กว่า 25 ล้านขวด ภายในปี 2568 หนุนพอร์ตยอดขายโตมากกว่าจีดีพีหรือ 2 หลัก

   นายทรงวิทย์ ศรีธรรม ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ทั้งนี้ข้อมูลจาก นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) ณ เดือนกันยายน 2567 (ตุลาคม 66-กันยายน 67) ตลาดเบียร์ไทยมีมูลค่า 200,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

   โดยแบรนด์ช้างมีเทรนด์ส่วนแบ่งทางการตลาดที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันตลาด Mainstream ให้ฟื้นตัวกลับมากว่า 5% ในขณะที่ตลาดเบียร์พรีเมียม (Mass Premium) ยังคงมีโอกาสเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง

   จากเทรนด์ Premiumization โดยมีอัตราการเติบโตกว่า 30% มีมูลค่ารวมมากกว่า 40,000 ล้านบาท โดย "ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์" สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายเกือบ 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) ณ เดือนกันยายน 2567 (ตุลาคม 66-กันยายน 67))

   เนื่องจากเป็นเบียร์พรีเมียมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนักดื่มไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ หลังการทำตลาดมากว่า 2 ปี เนื่องจากสามารถตอบโจทย์เมกะเทรนด์ Premiumization ของผู้บริโภคที่มองหาสินค้าที่คุ้มค่า และประสบการณ์ความแปลกใหม่ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ในไทย

   จากปัจจุบันที่เบียร์ช้างมีผลิตภัณฑ์ในตลาดเบียร์พรีเมียม 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ช้าง โคลด์ บรูว์  ช้าง เอสเปรสโซ่ และช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ ที่มีการเปิดตัวล่าสุด 

   ทั้งนี้ข้อมูลจาก Zocial Eye ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2567 พบว่า 98% ชื่นชอบในรสชาติสดใหม่ 90% ชื่นชอบในความพรีเมียมของบรรจุภัณฑ์แก้วทรงขวดแชมเปญ 98% ต้องการให้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติมจากร้านอาหาร-ผับบาร์-โรงแรมในเชียงใหม่ เชียงราย และกรุงเทพฯ

   เพื่อความสะดวกและโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์มากกว่าปัจจุบันที่เน้นเพื่อการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี ในขณะเดียวกันร้านอาหารต่างๆ ก็มีความต้องการนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

   “จากโอกาสทางการตลาดของ "ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์" ที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ Premiumization รวมทั้งความมุ่งมั่นของแบรนด์ช้าง ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตด้านความยั่งยืนให้กับเครือไทยเบฟเวอเรจ

   ช้าง จึงร่วมกับ บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ แคน จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์นวัตกรรมขวดอลูมินั่มฝาเกลียวเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขนส่ง การกระจายสินค้า และการเก็บรักษาก่อนถึงมือผู้บริโภค

   ด้วยความพิเศษของ ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ ซึ่งเป็นเบียร์ที่ไม่ผ่านความร้อนหลังบรรจุขวด จึงต้องควบคุมคุณภาพตลอดทุกกระบวนการ ด้วยการผนึกกำลังกับ เซเว่น อีเลฟเว่น

   ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีความพร้อมในระบบขนส่งแบบเย็นครอบคลุมทั่วประเทศ จัดจำหน่าย ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ ขวดอลูมินั่มฝาเกลียว ขนาด 500 มล. ด้วยราคา 89 บาท ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป 

   โดยได้ใช้งบประมาณในช่วงเปิดตัว 100 ล้านบาท เพื่อทำให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และรสชาติความสดใหม่ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขนส่ง“ นายทรงวิทย์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ในฐานะผู้นำตลาดเบียร์ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่า “ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ ขวดอลูมินั่มฝาเกลียว” ที่มีความแปลกใหม่ของขวดอลูมินั่มฝาเกลียว โดดเด่นด้วยขวดดีไซน์ สุดพรีเมียม

   มาพร้อมรสชาติความสดใหม่-หอม-นุ่ม ของเบียร์ที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์หลังบรรจุขวด จะช่วยเสริมภาพลักษณ์พรีเมียมให้กับช้าง พร้อมกันนี้ยังมีแผนเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังร้านค้าปลีกสมัยใหม่อื่นๆ ในอนาคต 

   รวมทั้งในกิจกรรมคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีที่ช้างให้การสนับสนุน เพื่อการสร้างความแข็งแกร่งและกระตุ้นให้เกิดการทดลองและเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น

   ซึ่งจะเสริมแกร่งความเป็นผู้นำตลาดเบียร์ไทยอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง ด้วยเป้ายอดขาย กว่า 25 ล้านขวด ภายในปี 2568 สมารถผลักดันพอร์ตให้เติบโตได้มากกว่าจีดีพีหรือที่ระดับ 2 ดิจิต และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท 

   นายทรงวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์” เป็นนวัตกรรมเบียร์ที่คงรสชาติความสดใหม่และกลิ่นหอมของเบียร์ให้ได้มากที่สุด ด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่ผ่านความร้อนหลังบรรจุขวด (Unpasteurized) และกระบวนการผลิตที่เติมไนโตรเจน (Nitrogenation) เพื่อให้อณูฟองที่ละเอียดและนุ่ม

   ส่งตรงจากโรงเบียร์ด้วยระบบขนส่งเย็นด้วยอุณหภูมิไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส เปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2565 ณ จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย และขยายพื้นที่เข้ามาจำหน่าย ณ ร้านอาหาร และโรงแรมในเครือไทยเบฟ ในกรุงเทพฯ 

   ส่วนนวัตกรรมขวดอลูมินั่มฝาเกลียว สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ สามารถคงความเย็นได้นานกว่าบรรจุภัณฑ์กระป๋องทั่วไป โดยบรรจุภัณฑ์อลูมินั่มที่ผ่านการบริโภคแล้วทุกชิ้นส่วนสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100%

   ไม่กลายเป็นขยะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ด้านการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน ด้วยการหมุนเวียนทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

   นอกจากนี้ โรงงานผลิตทั้ง 3 แห่งของเบียร์ช้าง ยังให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการมีส่วนร่วมและกระตุ้นให้ผู้บริโภครักษาสิ่งแวดล้อม

   เช่น การริเริ่มโครงการ Chang Green เพื่อเชิญชวนผู้ร่วมงานคัดแยกขยะในกิจกรรมคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรี กิจกรรมฟุตบอล มหกรรมอาหาร และกิจกรรมที่อื่นๆ ที่ช้างให้การสนับสนุนทั่วประเทศ

   ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50,000 งานในแต่ละปี รวมทั้งงาน Sustainability Expo มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนที่จัดเป็นประจำทุกปีอีกด้วย