การเคหะแห่งชาติ เร่งศึกษา Land Bank พัฒนาที่อยู่อาศัย

   การเคหะแห่งชาติ เร่งศึกษา Land Bank พัฒนาที่อยู่อาศัย

   กลุ่มผู้มีรายได้น้อ ภายใต้มิติด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม

   นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติ มอบหมายให้สถาบันอาศรมศิลป์ศึกษาวิจัยรูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยนำที่ดิน Land Bank ของการเคหะแห่งชาติศึกษาวิจัย

   ภายใต้ “โครงการศึกษารูปแบบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการสร้างชุมชนและเมือง สำหรับผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาสในภาวะโรคระบาดโคโรนา 2019”

   โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทางเลือกในการพัฒนาทรัพย์สินของการเคหะแห่งชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยวางแผนจัดการพื้นที่โครงการและออกแบบองค์ประกอบการให้บริการด้านสังคมสำหรับผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และคนพิการ

   ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการทั้งด้านกฎหมาย กายภาพ ตลาด การเงิน และอัตราผลตอบแทนความเสี่ยงจากการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งคาดว่าในปี 2578 ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมสูงอายุระดับสูงสุด

   "การพัฒนาโครงการที่พักอาศัยของการเคหะแห่งชาติจะเชื่อมโยงกับนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤติประชากร ของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน

   ทั้งแบบถือครองกรรมสิทธิ์ และแบบเช่า รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการประกอบอาชีพ การสร้างแหล่งรายได้ เช่น มีพื้นที่ค้าขายในลักษณะตลาดนัด และตลาดชุมชน เป็นต้น" นายทวีพงษ์ กล่าวย้ำ

   นายปวรุตม์ คำเพิ่มพูล นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม สถาบันอาศรมศิลป์ กล่าวว่า การวิจัยโครงการดังกล่าวจะศึกษาภายใต้กรอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มและตอบสนองความต้องการในระดับเมือง

   โดยเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางดังกล่าว ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) ที่กำหนดเป้าหมายการพัฒนาโดยกรอบแนวคิดในมิติสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

   ซึ่งจะให้ความสำคัญการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน ยกระดับชุมชนให้เข้มแข็งภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green Economy : BCG การฟื้นฟูชุมชนเมืองพัฒนาเมืองสู่การเป็น Smart City และการเพิ่มขีดความสามารถองค์กรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

   สำหรับผลการศึกษาวิจัยที่ดินตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ 52 ไร่ 1 งานเศษ เป็นพื้นที่สีส้ม พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีผู้สูงอายุมากเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ

   ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยด้วย แม้ว่าจังหวัดเชียงใหม่จะมีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมากและหลากหลาย

   จากผลการศึกษารูปแบบการพัฒนาโครงการสำหรับผู้สูงอายุควรจะเป็นอาคารพักอาศัยสูงไม่เกิน 8 ชั้น และมีที่จอดรถภายในอาคาร สำหรับคนทั่วไปจะเป็นอาคารพักอาศัยสูง 15 ชั้น และ 24 ชั้น

   และมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ จำนวน 6 ไร่ อย่างไรก็ตามบริเวณหนองหอยอาจจะประสบปัญหาเรื่องการจราจรหนาแน่นด้วยเป็นเมืองเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว