TEGH-PTT ลุยโปรเจคพลังงานสะอาดก๊าซชีวภาพ    

   TEGH-PTT ลุยโปรเจคพลังงานสะอาดก๊าซชีวภาพ

   ศึกษาวิจัยต่อยอดสู่เชื้อเพลิง High Value Product

   TEGH ส่ง "บจ.ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์" หรือ TEBP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยลงนามความร่วมมือโครงการพัฒนา และแปรรูปก๊าซชีวภาพ (Biogas) เพื่อต่อยอดสู่การผลิตเป็นเชื้อเพลิงและ High Value Product ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

   ฟากผู้บริหาร "สินีนุช โกกนุทาภรณ์" ระบุ มีแผนพัฒนาตลาด “ผลิตภัณฑ์จากก๊าซชีวภาพ” ทั้ง CBG และ LBM พร้อมพิจารณาตั้งสถานีบริการ CBG/LBM ในพื้นที่ TEGH จังหวัดชลบุรี เพื่อ ป้อนกลุ่มลูกค้ารถขนส่งและยานพาหนะของ TEGH, TEBP และ ลูกค้าทั่วไป

   นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TEGH) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (TEBP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TEGH ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนาและปรับปรุงก๊าซชีวภาพ (Biogas) กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา

   โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมกันศึกษาและพัฒนาการปรับปรุงแปรรูปก๊าซชีวภาพ (Biogas) ทั้งในรูปแบบของ Compressed Biogas (CBG) และ Liquid Bio Methane (LBM) สำหรับกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่งของ ปตท.

   รวมถึงจะร่วมกันศึกษาและพิจารณาการจัดตั้งสถานีบริการ LNG/LBM (LNG/LBM Station) ในพื้นที่ของ TEGH สำหรับกลุ่มลูกค้ารถขนส่งและยานพาหนะของ TEGH, TEBP

   และลูกค้าทั่วไป และร่วมกันศึกษาและวิจัยเทคโนโลยี เพื่อต่อยอดโครงการแปรรูปก๊าซชีวภาพ (Biogas) ไปสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (High Value Product) อื่นๆ

   “การลงนามในครั้งนี้แสดงถึงเจตนารมย์ของทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ที่สามารถสร้างโอกาสในการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจร่วมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

   ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของภาคผลิตไฟฟ้า ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม ในการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการใช้พลังงาน (Energy Transition) จากเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

   ช่วยขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน และตอบสนองต่อเป้าหมาย Net Zero Carbon ของประเทศไทย ภายในปี 2065 ได้อีกด้วย” นางสาวสินีนุช กล่าวสรุป