สถิติ

69205372

NEO เปิดแผนธุรกิจสร้างแลนด์สเคปใหม่สู้เศรษฐกิจดันยอดขายโต 2 หลัก   

   NEO เปิดแผนธุรกิจสร้างแลนด์สเคปใหม่สู้เศรษฐกิจดันยอดขายโต 2 หลัก 

   ขยายต่างประเทศ-รุก!สืนค้าพรีเมียมผู้สูงอายุ หลังQ2/67กำไรสุทธิพุ่ง!72%

   "บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน)" หรือ NEO เปิดแผนก้าวสู่บริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย รุกขยายโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง

   วางเป้าหมาย 5 ปี สัดส่วนรายได้ต่างประเทศมากกว่า15% ชูกลยุทธ์ Innovation-led Premiumization พร้อมกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำ

   ขยาย segment ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภค โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ยอดขายทะลุ 2,494 ล้านบาท เติบโต 9% YoY

   กำไรสุทธิส่วนของบริษัท 269 ล้านบาท พุ่ง 72% ตอกย้ำความสำเร็จทัพสินค้าเติบโตมากกว่าตลาด มั่นใจทั้งปีเติบโต Double Digits

   นางปัทมา ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ NEO) ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำหนดวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจเพื่อก้าวสู่บริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย โดยการสร้างแลนด์สเคปใหม่มุ่งขยายโอกาสส่งมอบสินค้าอุปโภคของประเทศไทยไปสู่ระดับนานาชาติ

   รับกับตลาดสินค้าอุปโภคมีศักยภาพเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดการณ์ว่า ปี 2566-2568 ตลาดผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือนจะเติบโตเฉลี่ย 9% รวมไปถึงมองโอกาสการเติบโตกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน

   และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ในตลาดเอเชียใต้ ที่คาดการณ์เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 8.0% ส่วนตะวันออกกลาง และแอฟริกา เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 15.1% ในช่วงปี 2566–2568  

   แผนธุรกิจ 5 ปี (2567-2571) ในส่วนของตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นการส่งมอบสินค้าอุปโภคทั้งหมด 8 แบรนด์ จาก 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ขยายสู่ตลาดต่างประเทศภายใต้กลยุทธ์ dual tracks

   ได้แก่ 1.ขยายการเติบโตในประเทศเป้าหมายเดิม ด้วยการนำเสนอสินค้าประเภทใหม่ จากทั้งแบรนด์เดิม รวมทั้งแบรนด์ที่ยังไม่ได้ทำการตลาด และ 2.มุ่งขยายไปยังประเทศที่มีศักยภาพเพิ่มเติม

   จากปัจจุบันมีการขยายไปต่างประเทศแล้วจาก 16 ประเทศเป็น 20 ประเทศ และตั้งเป้าภายใน 5 ปีนับจากนี้จะขยายให้ครอบคลุม 28 ประเทศควบคู่กับแบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มเติมด้วย ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง 

   ในส่วนตลาดในประเทศ แผนธุรกิจ 5 ปียังรวมถึงการขยายไปยัง segment ใหม่ที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูง เช่น segment ผู้สูงวัยที่บริษัทฯ เป็นเจ้าแรกในตลาด พร้อมกับส่งมอบนวัตกรรมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

                   

   พร้อมชูกลยุทธ์ Innovation-led Premiumization ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่จะมีราคาขายสูงกว่าผลิตภัณฑ์กลุ่มแมสที่ 10-15%

   เจาะตลาดใหม่กลุ่มตลาดผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจากผลิตภัณฑ์พรีเมียมอยู่ที่ 5% ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10% ในปี 2568รวมถึงการบุกขยายพื้นที่การขายให้ครอบคลุมมากขึ้นด้วย 

   ซึ่งเป็นไปตามปณิธานของ NEO ในการก้าวสู่บริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภค ส่งมอบการเติบโตแบบ double digits ให้กับบริษัทฯ ในทุกปี ตลอด 5 ปีนี้ 

   นางสาวณิศรา ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ NEO เปิดเผยว่า ความสำเร็จด้านการเป็นผู้นำการสร้างสรรค์นวัตกรรมของ NEO สามารถตอกย้ำการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยปี 2565-2566 ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทฯ มีการเติบโต ดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์ซักผ้า เติบโต0% ขณะที่ตลาดเติบโต 19.5%
  • ผลิตภัณฑ์โรลออน เติบโต7% ส่วนตลาดเติบโต 12.9% และ
  • ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก เติบโต4% ตลาดเติบโต 7.6%

   เพื่อการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วง 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ วางแผนยกระดับกระบวนการผลิตและขยายกำลังการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้งใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ (กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก)

   ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 400,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันประมาณ 230,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ ภายในโรงงานยังมุ่งเน้น ESG (Environmental, Social and Governance) ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

   การใช้บรรจุภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุธรรมชาติ โดยวางเป้าหมาย NEO ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% ภายในปี 2573 เพื่อสร้างโลกที่สะอาดและอนาคตที่ยั่งยืน  

   นางสาวภัทร์ชนก วรศักดิ์โยธิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน NEO เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าต่อยอดพันธกิจสร้างความสำเร็จตามเป้าหมายการเติบโต Double Digits แบบทั้งปี โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 สร้างประวัติศาสตร์รายได้จากการขาย ทะลุ 2,494 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

   และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 269 ล้านบาท เติบโต 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.. 2567) มีรายได้จากการขายรวม 4,966 ล้านบาท เติบโต 9% และกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 537 ล้านบาท เติบโต 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

   ปัจจัยมาจากบริษัทฯ นำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิมให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นและมุ่งขยายสินค้าในพอร์ตโฟลิโอกลุ่มระดับแมสไปสู่ระดับพรีเมียมแมส ส่งผลให้เพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ พร้อมทั้งดำเนินการสื่อสารทางการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างครบวงจร

             

   นางสาวณิชมน ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายนวัตกรรมธุรกิจ NEO กล่าวว่า บริษัทฯ ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ภายใต้ความเข้าใจต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งคนไทยและเอเชีย ด้วยประสบการณ์การทำการตลาดมากกว่าหลายสิบปี

   ประกอบกับการทำวิจัยในเชิงลึกของบริษัทฯ ส่งผลให้ NEO มองเห็นโอกาสที่จะพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์และทุกช่วงวัย จากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันใส่ใจดูแลตัวเองและให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า

   จึงมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะทางที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างความพึงพอใจได้อย่างตรงจุด ยินดีจ่ายแพงขึ้นสำหรับสินค้าที่คุ้มค่ากว่า NEO จึงมุ่งดำเนินกลยุทธ์ Innovation-led Premiumization ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำ

   ภายใต้แนวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมที่โดดเด่นและแตกต่าง สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีขึ้นให้กลุ่มผู้บริโภคทุกเพศและทุกวัยในหลากหลายมิติ

   ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าวิจัยส่วนผสมหลักจากสารสกัดจากธรรมชาติที่อ่อนโยนกับผู้มีผิวแพ้ง่าย การสร้างสรรค์แนวกลิ่นหรูหราที่ให้ประสบการณ์ความหอมแบบน้ำหอมพรีเมียมระดับโลก

   นวัตกรรมการช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นยาวนานพิเศษ นวัตกรรมการกำจัดกลิ่นเฉพาะตัวของผู้สูงวัย (Silver Age) และการนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบ Pet Friendly สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงในที่อยู่อาศัย เป็นต้น

   โดยวางเป้าหมายภายใน 3 ปี (2567-2569) สัดส่วนรายได้ของผลิตภัณฑ์พรีเมียมแมส (Premium Mass) ของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 10% ของพอร์ตฟอลิโอ

   “การเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ก้าวล้ำช่วยขับเคลื่อนให้ NEO เป็นบริษัท FMCG ระดับแถวหน้าของคนไทย ไม่เคยหยุดนิ่งการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง New S Curve ให้กับตลาด การเฟ้นหานวัตกรรมใหม่เข้ามาทั้งในกระบวนการพัฒนาสินค้าและการผลิต

   มั่นใจว่าบริษัทฯ ก้าวสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมแห่งเอเชียที่นำทัพสินค้าปักธงในนานาชาติ โดยตั้งเป้าปี 2571 จะขยายฐานประเทศใหม่เพิ่มจาก 16 ประเทศในปี 2566 เป็นมากกว่า 28 ประเทศในปี 2571 

   และคาดการณ์สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณเพิ่มจาก 10% เป็นมากกว่า 15% ซึ่งนับว่าเป็นเป้าหมายใหญ่ที่น่าสนใจสำหรับ NEO” นางสาวณิชมน กล่าวสรุป

16 สิงหาคม 2567

ผู้ชม 238 ครั้ง

Engine by shopup.com