สถิติ

70981594

MGC-ASIAโชว์ฟอร์มQ2/67 ธุรกิจในเครือหนุนเทิร์นอะราวด์ กำไรพุ่ง628.4%

   MGC-ASIAโชว์ฟอร์มQ2/67 ธุรกิจในเครือหนุนเทิร์นอะราวด์ กำไรพุ่ง628.4%
   เล็ง!ผนึกพันธมิตรลุยธุรกิจรีไซเคิลแบตฯ เสริมแกร่งระบบนิเวศ EV ครบวงจร

 

   บมจ. มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ทำรายได้จากการขายและบริการ 5,304 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% และ 628.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ

   แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะผลตอบรับดี เร่งเครื่องขยายธุรกิจ รับดีมานด์พุ่ง เซ็นสัญญาตัวแทนจำหน่าย 12 ราย พร้อมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการต้นแบบ XPENG หัวหมาก รวมถึงศูนย์บริการ ZEEKR ศรีนครินทร์และวิภาวดี

   เดินหน้าขยายระบบนิเวศทางธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร จับมือพันธมิตรศึกษาความเป็นไปได้ธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV ขณะธุรกิจให้บริการด้านการเงินครบวงจร ALPHA X-Wealth Lending เริ่มมีผลกำไรจากการดำเนินงาน และธุรกิจประกันภัย HOWDEN MAXI หนุนธุรกิจเติบโต

   ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) เติบโตแข็งแกร่ง บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 5,304 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 628.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

   โดยรายได้และกำไรสุทธิที่เติบโต มาจากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบรถยนต์ที่จองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ และรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงสู่ยานยนต์ไฟฟ้

   า บริษัทได้มีการเปิดตัวแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG ซึ่งเป็นยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียมไฮ-เทค และ ซีคเกอร์ ZEEKR ยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชัวรี่

   ซึ่งได้รับการตอบรับดีกว่าที่คาดการณ์จากการเปิดตัวในงานที่ผ่านมา และมีการจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บริษัทพร้อมส่งมอบรถยนต์ เริ่มรับรู้รายได้
ในช่วงไตรมาส
3/2567

   ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 มีปัจจัยส่งเสริมการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ดังนี้ 1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมียานยนต์รอส่งมอบ (Backlog) ทั้งสิ้น 1,235 คัน และเรือยอทช์ AZIMUT รอส่งมอบ 1 ลำ

   และมีการขยายบริการเช่าเหมาลำ ภายใต้แบรนด์ AZIMUT และ CHRIS-CRAFT เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

   โดยในช่วงไตรมาส 3/2567 เตรียมเปิดศูนย์ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG สาขาหัวหมาก พร้อมลงนามแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย รวม 12 ราย

   และยังได้การตอบรับจากผู้สนใจมาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่น G6 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า

   ส่วนแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ZEEKR บริษัทเริ่มส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าแล้ว และในช่วงไตรมาส 3/2567 เตรียมเปิดศูนย์ให้บริการครบวงจร สาขาศรีนครินทร์และวิภาวดี

   2) ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ (Aftersales and Car Maintenance Services) รายได้ของกลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและซ่อมบำรุง ถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่บริษัทฯ

   และมีศักยภาพเติบโตตามยอดจำหน่ายยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น และบริษัทยังได้รับสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจ

   3) ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ (Car Rental and Driver Services) บริษัทยังคงเเดินหน้าขยายธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับรถ

   โดยมุ่งเน้น 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์และให้ความสำคัญกับลูกค้า, พัฒนานวัตกรรมผ่านแอปพลิเคชัน, ร่วมมือกับพันธมิตร, ขยายบริการรถยนต์ไฟฟ้าในหัวเมืองใหญ่, และเพิ่มรถยนต์พรีเมียม รวมถึงรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการ
ที่หลากหลายของลูกค้า

   4) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) ALPHA X ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง MGC-ASIA และ SCBX เติบโตอย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเป็นกำไรสุทธิก่อนตั้งสำรอง (Pre-Provision Operating) เป็นไตรมาสแรก จากการเพิ่มขึ้นของพอร์ตสินเชื่อย่างต่อเนื่อง 

   และส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) ซึ่งเติบโตจากการขยายธุรกิจ Wealth Lending ให้กลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง (High-Net-Worth) รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการดำเนินงานได้ดี ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง

   นอกจากนี้ ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่
ที่ตอบรับกระแส
ESG และเมกะเทรนด์ต่างๆ

   โดยมีรายได้สุทธิเติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการประกันภัยทรัพย์สิน อัญมณี เครื่องประดับ งานศิลปะ และโครงการพิเศษ โดยมีรายได้เติบโตจากลูกค้ารายใหญ่รายใหม่

   ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 59 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่วางไว้ 3% ซึ่งเกิดจากการควบคุมต้นทุนการบริหารและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำตามเป้าหมายการเติบโตที่คาดหวังไว้ประมาณ 7% จากปีก่อน

   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGC-ASIA กล่าวว่า MGC-ASIA มุ่งขยายระบบนิเวศทางธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร(EV Ecosystem) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ผู้นำธุรกิจให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ PRIMOBIUS บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลแบตเตอรี่จากเยอรมนี

   โดยทั้งสองบริษัทจะร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว”

   ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความมุ่งมั่นของ นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย ในการเป็นผู้นำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร แต่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบริษัท ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบต่อสังคม

   โดยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีขั้นสูงของ PRIMOBIUS จะช่วยให้ นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย นำแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่หมดอายุการใช้งานกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรใหม่และลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์

   นอกจากนี้ความร่วมมือครั้งนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย ในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำและเศรษฐกิจสีเขียว

   MGC-ASIA มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการขยายระบบนิเวศทางธุรกิจอย่างครบวงจร สอดคล้องกับ Paris Agreement ที่เป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ

   ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change-UNFCCC) ตั้งแต่การจำหน่ายรถยนต์
ไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำ การให้บริการหลังการขายซ่อมบำรุง บริการด้านการเงินและประกันภัย

   รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ ซึ่งจะเติบโตอย่างมากในอนาคต เชื่อมั่นว่าการลงทุนในธุรกิจเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทในระยะยาว

14 สิงหาคม 2567

ผู้ชม 47 ครั้ง

Engine by shopup.com