กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ โชว์!FXครึ่งปีแรก67โต13%สวนส่งออกซบ
กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ โชว์!FXครึ่งปีแรก67โต13%สวนส่งออกซบ
กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ โชว์!FXครึ่งปีแรก67โต13%สวนส่งออกซบ
ช่องทางดิจิทัลพุ่ง!-หนุนบอนด์ESGลดเสี่ยง-ชี้!ดอกเบี้ยยืนพื้น2.50%
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน)) โดย โกลบอลมาร์เก็ตส์ มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลิตภัณฑ์ปริวรรตเงินตราต่างประเทศ รวมถึงบริการผ่านช่องทางดิจิทัล
โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 แม้มูลค่าการส่งออกและนำเข้าของไทยจะเติบโตไม่สูงนัก แต่ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ ทำให้ปริมาณธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของกรุงศรีเพิ่มขึ้นถึง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
นายฮิโรทากะ คุโรกิ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2566 กรุงศรี มีกำไรจากธุรกรรมเพื่อการค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศสูงถึง 5,732 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% จากปี 2565 สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในด้านต่างๆ
รวมทั้งการสนับสนุนเรื่อง ESG การขยายธุรกิจสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ และการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของลูกค้าและประเทศไทย
สนับสนุนการดำเนินงานด้าน ESG
สำหรับ ESG ในปี 2566 ที่ผ่านมา กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ ได้มีส่วนในการระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล (Green & Blue Bond)
เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล จำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินทุนที่ได้จากการนี้ทั้งหมดได้ถูกนำไปสนับสนุนสินเชื่อให้ลูกค้าในกิจการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในช่วงต่อมา
“กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ ยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยและการเติบโตอย่างยั่งยืนของลูกค้าโดยผสานความร่วมมือกับ MUFG นำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันทางการเงิน
เพื่อสนับสนุนลูกค้าในการขยายการลงทุนและธุรกิจและการดำเนินการด้าน ESG ในอาเซียน เช่น ESG-Linked Derivatives เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยจากการกู้ยืม
ในขณะเดียวกัน ยังได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติมตามระดับความสำเร็จของเป้าหมาย ESG ที่ลูกค้าตั้งไว้ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการความสนใจจากลูกค้า
นิติบุคคลที่มีการดำเนินการด้าน ESG เป็นอย่างดี และในปีนี้จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนการดำเนินการด้าน ESG ต่อไปในอนาคต” นายคุโรกิ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
เสริมความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์และบริการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กรุงศรี พบว่าความต้องการของลูกค้าในการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในสกุลเงินอื่นนอกเหนือจากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ จึงได้ขยายการให้บริการเงินสกุลเงินดีร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (AED) ไปเมื่อต้นปีนี้ เพิ่มเติมจากสกุลเงินแรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) และดองเวียดนาม (VND) ที่ได้เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ ยังได้พัฒนาและขยายการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณและยอดธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้จำนวนลูกค้านิติบุคคลที่ทำธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผ่านช่องทาง e-platform FX@Krungsri ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 129% และเพิ่มขึ้นอีก 66% ในครึ่งปีแรกของปีนี้
ปัจจุบันธุรกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ทำรายการผ่าน FX@Krungsri มีจำนวนเพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
และการทำธุรกรรมของลูกค้ารายย่อยผ่านแอปพลิเคชัน KMA krungsri app ที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมโอนเงินต่างประเทศได้ถึง 15 สกุลเงินนั้น ยังคงมีการเติบโตอย่างมั่นคง โดยในปี 2566 มียอดธุรกรรมมากกว่า 35,000 รายการ
ในภาพรวมปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่ 2.4% โดยมูลค่าการส่งออกและนำเข้าในช่วงไตรมาสแรกของปีโตขึ้นเพียง 1% อย่างไรก็ตาม ปริมาณธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในช่วงเดียวกันในปีนี้ของ กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ ได้เพิ่มขึ้นถึง 13%
“กรุงศรี จะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้า และจะดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศไทยต่อไป” นายคุโรกิ กล่าวย้ำ
สำหรับภาพรวมของสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อํานวยการอาวุโส สายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า นักกลยุทธ์กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ประเมินว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เงินบาทอ่อนค่าลงขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ รับมือกับภาวะดอกเบี้ยสูงได้ดีเกินคาด
เมื่อมองไปข้างหน้า คาดว่าสัญญาณชะลอตัวของเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะชัดเจนมากขึ้น เอื้อให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ตัดสินใจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายไตรมาสสามของปีนี้เป็นต้นไป
มุมมองอัตราแลกเปลี่ยนของกรุงศรีอยู่บนสมมติฐานหลักที่ว่าเฟดจะหันมาใช้นโยบายที่เข้มงวดน้อยลงและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดความร้อนแรงตาม
วัฏจักร (Soft Landing)
อย่างไรก็ตามปัจจัยลบนอกสหรัฐฯ อาทิ ความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานะการคลังของประเทศแกนหลักในกลุ่มยูโรโซน และอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงติดลบอย่างมีนัยสำคัญในญี่ปุ่น
อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนต่อไปในระยะสั้น อนึ่งมองว่าค่าเงินบาทจะสามารถฟื้นตัวได้ก่อนสิ้นปีนี้จากการกลับทิศของนโยบายเฟด และแรงส่งจากภาคท่องเที่ยว
"กรุงศรี าประมาณการค่าเงินบาทในไตรมาสสุดท้ายของปีผันผวนในกรอบ 34.50-36.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัดท่ามกลางศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ขาดความโดดเด่น กระแสเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง รวมถึงประเด็นความท้าทายจากทิศทางการค้าโลกในระยะถัดไป
นอกจากนี้ตั้งข้อสังเกตไปไกลกว่าสถานการณ์เชิงวัฏจักร ว่าแม้การกลับมาของนักท่องเที่ยวหลังวิกฤติโรคระบาดจะช่วยพยุงเงินบาทไม่ให้อ่อนค่ารุนแรงกว่าที่เป็นอยู่ รวมถึงทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง สัดส่วนหนี้ต่างประเทศต่ำ
แต่หากปัญหาเชิงโครงสร้างซึ่งฉุดรั้งขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ระดับการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจะโน้มต่ำลงในระยะยาว บั่นทอนภูมิคุ้มกันค่าเงินบาทในที่สุด
สำหรับนโยบายการเงินของไทย ประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ตลอดปีนี้ โดยการสื่อสารของผู้ดำเนินนโยบายต่อผู้ร่วมตลาด
สะท้อนความสำคัญของการดูแลเสถียรภาพ ลดการสะสมความเปราะบางของเศรษฐกิจการเงินในระยะกลางถึงยาว จากการที่หนี้ครัวเรือนยังสูงถึง 91%” นางสาวรุ่ง กล่าวสรุป
12 กรกฎาคม 2567
ผู้ชม 422 ครั้ง