สถิติ

69057464

บมจ.เอสอีไอ เมดิคัล “SEI” ดีเดย์!ระดมทุนในmai  

   บมจ.เอสอีไอ เมดิคัล “SEI” ดีเดย์!ระดมทุนในmai

   เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 50 ล้านหุ้น จ่อเทรด Q3/67

  

   บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล หรือ SEI ประกาศตอกย้ำเป็นหนึ่งผู้นำให้บริการนวัตกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์แบบครบวงจร (One-stop service) เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

   จ่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจอุปโภคบริโภค ภายในไตรมาส 3/2567 นี้ หวังดึงเงินเพิ่มศักยภาพการให้บริการเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต 

   บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่าย และให้เช่าเครื่องมือทางการแพทย์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์แบบครบวงจร (One stop service )

   โดยบริษัทสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้จำหน่ายทั้งในประเทศ และนำเข้าจากผู้ผลิตต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่โรงพยาบาลรัฐบาล สถาบันการศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลของเอกชน คลินิก รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศ

   นอกจากนี้บริษัทยังให้บริการต่างๆ แบบครบวงจร อาทิ บริการซ่อมบำรุงเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ (Maintenance Service) เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจัดสอนวิธีการใช้งานเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ให้แก่ลูกค้า

   เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานสินค้า และสามารถใช้ประโยชน์จากสินค้าได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งมีให้บริการให้เช่า ซึ่งบริษัทได้มีการดำเนินการไปแล้วบางส่วนในช่วงไตรมาส 3/2566 ที่ผ่านนมา เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าที่มีงบประมาณในการซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ที่ค่อนข้างจำกัด

   เนื่องจากเครื่องมือทางการแพทย์ส่วนใหญ่มีมูลค่าสูง จึงมีโอกาสที่จะใช้บริการให้เช่า เพื่อกระจายการชำระเงินเป็นเงินงวดสำหรับการซื้อเครื่องมือทางการแพทย์

   โดยการให้บริการให้เช่าของ SEI จึงเป็นการเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น และการดำเนินธุรกิจดังกล่าวของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต จากการเปลี่ยนแปลงไปของพฤติกรรมลูกค้าและมีข้อจำกัดในด้านต่างๆ   

   สำหรับสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) เป็นกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในห้องส่องกล้องสำหรับการตรวจทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ และโสตศอนาสิก,

   2. กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด (Neonatal Care) เป็นกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ดูแลทารกแรกเกิดปกติที่มารดาขาดความพร้อมในการดูแล และทารกที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิกฤตในระยะแรกหลังคลอด,

   3. กลุ่มสินค้าด้านความงาม (Aesthetic) เป็นกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับเสริมความงามทางร่างกาย, 4. กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด (Surgery) เป็นกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในห้องผ่าตัด

   และ 5. กลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Laboratory) เป็นกลุ่มเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการตรวจวิเคราะห์ วัดอนุภาค เก็บรักษาตัวอย่าง และบ่มเพาะเชื้อเพื่อการทำวิจัย

   โดยปัจจุบัน “SEI” ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิตทั้งหมด 17 ราย จาก 11 ประเทศ

   โดยได้จดทะเบียนสถานประกอบการนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์ ในประเทศไทยกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สังกัดกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งสามารถแบ่งเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์

   นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งสู่การเป็นผู้นำทางด้านการจัดจำหน่าย และให้บริการทางด้านเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

   พร้อมกับการใหบริการที่ครบวงจรสำหรับลูกค้า เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ด้านสุขภาพของประชากร ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้

   ซี่งสอดรับกับพันธกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่ครอบคลุมการดูแลด้านสุขภาพ และตอบสนองความต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านสาธารณสุขของประชากรทุกช่วงวัย โดยแสวงหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยและได้มาตรฐานสากล

   สำหรับวัตถุประสงค์การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพการให้บริการลูกค้าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ สั่งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพ และความสามารถในการแข่งขัน

   นอกจากนี้จะนำเงินระดมทุนเพื่อใช้ในโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ หรือลงทุนด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ส่งเสริมธุรกิจของบริษัท

   สู่การสร้างศักยภาพทางการเงินและสร้างโอกาสการขับเคลื่อนทางธุรกิจสู่การยกระดับการให้บริการเครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ให้ครบวงจรในทุกมิติ

   ทั้งนี้หากประเมินจากภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ในไทย ยังมีแนวโน้มการเติบโตได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากการจัดสรรงบประมาณของประเทศเพื่อใช้งานในกระทรวงสาธารณสุขในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้น 13,462.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.8% จากปี 2566

   ดังนั้นมองว่า SEI ได้อานิสงส์เชิงบวกจากการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้น จากการที่บริษัทเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ของประเทศไทย

   เนื่องจากบริษัทจัดหาสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ของผู้ผลิตชั้นนำจากต่างประเทศ โดยการสั่งซื้อจากตัวแทนของผู้ผลิตในประเทศ และนำเข้าโดยตรงจากผู้ผลิตในต่างประเทศ

   และจัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในประเทศ อาทิ โรงพยาบาลรัฐบาล สถาบันการศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลของเอกชน คลินิก เป็นต้น

   ด้านนายวรวัสส์ วัสสานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบมจ.เอสอีไอ เมดิคัล ว่า SEI เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

   คิดเป็น  29.41% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจอุปโภคบริโภค ภายในไตรมาส 3/2567 นี้

   โดยปัจจุบัน “SEI” มีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 60 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 120 ล้านหุ้น มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษี 

   โดย SEI มีจุดเด่นความเชี่ยวชาญการเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ที่ยาวนานกว่า 30 ปี รวมถึงการให้บริการติดตั้ง ซ่อมบำรุง ตลอดจนการให้บริการหลังการขาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า

   ทำให้ SEI มีฐานลูกค้าทั่วประเทศ ส่งผลให้ SEI ได้รับความไว้วางใจในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต และได้รับการต่ออายุสัญญาแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย (Distributor Agreement) จากผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี

   ดังนั้นด้วยความสามารถและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของบริษัทประกอบกับความเชื่อมั่นจากผู้ผลิต และลูกค้า จึงตอกย้ำถึงศักยภาพการแข่งขันที่จะก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศไทย

   จากความโดดเด่นดังกล่าวข้างต้นได้สะท้อนออกมาในตัวเลขของผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2564-2566) ดังนั้นบริษัทมีรายได้รวม 374.00 ล้านบาท 320.55 ล้านบาท และ 393.57 ล้านบาท ตามลำดับ

   ขณะที่มีกำไรสุทธิปี 2564–2566 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 16.21 ล้านบาท 17.86 ล้านบาท และ 21.87 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.28%, 5.54% และ 5.55% ของรายได้รวม ตามลำดับ

04 มิถุนายน 2567

ผู้ชม 175 ครั้ง

Engine by shopup.com