SAปรับกลยุุทธ์ลดD/Eต่ำกว่า1เท่า-ปั้นรายได้ประจำสัดส่วน15%
SAปรับกลยุุทธ์ลดD/Eต่ำกว่า1เท่า-ปั้นรายได้ประจำสัดส่วน15%
SAปรับกลยุุทธ์ลดD/Eต่ำกว่า1เท่า-ปั้นรายได้ประจำสัดส่วน15%
กางแผนBacklogกว่า 30,000 ลบ. โกยรายได้ยาวปีละ7,000ลบ.
บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร กางแผน 3 ปี ลด D/E เหลือต่ำกว่า 1 เท่า พร้อมปั้นกำไรระะยะยาวปีละ 600-700 ล้านบาท จาก ฺBacklog ที่มีรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ทยอยสร้างการรับรู้ปีละ 6,000-7,000 ล้านบาท
พร้อมเดินหน้าผสานนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยมุ่งสู่ "THE SUSTAINOVATIVE LIVING" สร้างบ้านประหยัดพลังงาน เพิ่มความสะดวกสบายและความสุข
ด้วยเทคโนโลยีเติมอากาศบริสุทธิ์ ลดค่าไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เซฟพลังงานได้กว่า 40%
ด้านบอสใหญ่ “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” ตอกย้ำนโยบายสีเขียว นับจากนี้ทุกโครงการต้องได้รับใบรับรอง EDGE มาตรฐานอาคารสีเขียวจาก IFC พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 67 อยู่ที่ 7,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ภายใต้แนวคิดที่ว่า “Siamese Asset : Asset of Life สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต” กล่าวว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์วางแผนงาน 3 ปี โดยมีเป้าหมายในการลดอัตราส่วนหนี้สินค่อทุนหรือ D/E ให้ต่ำกว่า 1 เท่า เพื่อลดภาระหนี้สินจากอัตราดอกเบี้ย จากปัจจุบันที่ D/Eอยู่ที่ 1.94 เท่า และสิ้นปีนี้ตั้งเป้าลดเหลือ 1.4 เท่า
พร้อมตั้งเป้ากำไรปีละ 600-700 ล้าบบาท จาก Backlog ที่มีรวมกันกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ปีละ 6,000-7,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี
โดยในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ระดับ 7,000 ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นเป้าที่สูงและท้าทาย แต่ประเมินว่ารายได้หลักจะมาจากการโอนโครงการ Landmark @ MRTA Station (พระราม 9) ที่มี backlog สิ้นปี 2566 มูลค่ากว่า 4,800 ล้านบาท และมีการทยอยโอนอย่างต่อเนื่องมาในปีนี้
ทำให้มองว่าจะมีรายได้จากการโอนคอนโดฯประมาณ 4,100 ล้านบาท มาจากแนวราบประมาณ 2,000-2,200 ล้านบาท และมาจากรายได้อื่นๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ประมาณ 500-600 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจบริษัทมุ่งเน้นธุรกิจโรงแรมและบริการ เพื่อรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว คาดรายได้ Recuring Business เป็นเป้าหมาย 15% ของรายได้บริษัท ภายใน 5 ปี หรือปีละ 800-900 ล้านบาท
อีกทั้งบริษัทกำลังพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับผู้สูงอายุ (Aged Society) โดยในโครงการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเสริม เช่น บริการด้านการแพทย์ และเนอสซิ่งโฮม เป็นต้น
พร้อมกันนี้บริษัทวางแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในทุกระดับราคาเพื่อรองรับทุกกลุ่มเป้าหมาย และจากเทรนด์ที่นิยมเช่าที่อยู่อาศัยมากกว่าซื้อ ที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาคอนโดแบบ Branded Residence รองรับตลาดทั้งซื้อเพื่ออยู่ และซื้อเพื่อเช่า
สำหรับที่อยู่อาศัย Branded Residence by Siamese Asset จะมีการบริหารจัดการจากทีมงานมืออาชีพภายใต้แบรนด์ของโรงแรมชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือ โดยจะได้รับ Capital Gain ที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมทั่วไปอีกด้วย
นอกจากนั้น นายขจรศิษฐ์ ยังกล่าวถึงวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในปี 2567 ว่า บริษัทมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมตามหลักการ "THE SUSTAINOVATIVE LIVING" เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย
โดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เทคโนโลยีพลังงานทดแทน การใช้งานทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมทั้งได้จัดตั้ง บริษัท ไซมิส เทคโนโลยี จำกัด พัฒนานวัตกรรม ควบคู่กับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และมีเป้าหมายการติดตั้ง EV charger 30 สถานี และ Solar Roof ที่มีกำลังผลิตรวมกว่า 50,000 KWh ต่อเดือน
"บริษัทให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบ พัฒนาเทคนิคการก่อสร้าง การเลือกใช้วัสดุที่ประหยัดพลังงานในการผลิต เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าและสุขภัณฑ์ ที่ประหยัดพลังงาน ที่ทำให้เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้อาคาร จะลดการใช้พลังงานได้มากกว่า 40%
รวมถึงการใช้พลังงานทางเลือกและอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า การส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า
ด้วยการติดตั้งสถานีชาร์ต EV ในโครงการของบริษัท และเทคโนโลยี Air of Life เครื่องกรองอากาศที่เติมอากาศบริสุทธิ์ สามารถกรองฝุ่น PM2.5 และประหยัดพลังงาน (Energy Recovery)
ด้วยระบบแลกเปลี่ยนความร้อน ลดความร้อนจากภายนอกก่อนเข้าสู่ภายในที่อยู่อาศัย ทั้งหมดนี้เป็นนวัตกรรมที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยของบริษัท" นายขจรศิษฐ์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
สอดคล้องกับนโยบาย "ธุรกิจสีเขียว" อสังหาฯ ที่ช่วยลดการปล่อย CO2 ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญของการก่อสร้างอาคารในอนาคต สู่แนวทางการพัฒนาอาคารอย่างยั่งยืน
และเชื่อมั่นว่าอาคารประหยัดพลังงานจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเมื่อเทียบกับอาคารทั่วไป สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดการเช่าและขายอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างดี และนับจากวันนี้ทุกโครงการที่บริษัทพัฒนาจะต้องได้รับใบรับรอง EDGE มาตรฐานอาคารสีเขียวจาก IFC
ทั้งนี้ในวันที่ 30 เมษายน 2567 "Siamese Asset" จะจัดงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ "อาโป ณัฐวิญญ์" นักแสดงหนุ่มที่มีความสามารถและเสน่ห์ที่โดดเด่น พร้อมร่วมเชิญทุกท่านสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในงาน #TheSustainovativeLiving ที่จะพาคุณไปสู่โลกของนวัตกรรม
และโปรโมชั่นโครงการบ้านและคอนโดฯทำเลคุณภาพสุดพิเศษ ทั้งส่วนลดและของแถมมากมายในงาน THE SUSTAINOVATIVE LIVING ณ ลาน EDEN ชั้น 1 @CentralwOrld
30 เมษายน 2567
ผู้ชม 85 ครั้ง