สถิติ

66858797

TNL ปรับทัพลุยธุรกิจการเงิน-อสังหาริมทรัพย์เต็มสูบ!         

   TNL ปรับทัพลุยธุรกิจการเงิน-อสังหาริมทรัพย์เต็มสูบ!            

   หลังผู้ถือหุ้นมีมติไฟเขียวขายธุรกิจสิ่งทอ/เครื่องนุ่งห่ม

  

   บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL จัดประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น 2567 โดยมีนายธรรมรัตน์ โชควัฒนา ประธานกรรมการ เป็นประธานในการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

   มีมติอนุมัติการจำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัท ทีเอ็นแอลเอ็กซ์ จำกัด (TNLX) หรือธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของบริษัท โดยมีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขาย 670 ล้านบาท

   โดยผู้ซื้อทั้ง 4 ราย เป็นบริษัทภายในเครือสหพัฒน์ประกอบด้วย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (ICC) บริษัท บีเอสซี โซอิน จำกัด (BSC) บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (SPI) และบริษัท ไอ.ดี.เอฟ. จำกัด (IDF)  

   ซึ่งธุรกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดโครงสร้างธุรกิจให้มีความชัดเจนและเหมาะสมกับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยหลังจากขายธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเสร็จสิ้น

   TNL จะประกอบด้วย 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจให้สินเชื่อที่มีหลักประกัน ธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ NPLs และ NPAs และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย

   เมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการในปี 2566 รายได้จากธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมีรายได้ลดลงประมาณ 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของบริษัทยังสดใส สะท้อนให้เห็นจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 56%

   ขับเคลื่อนโดยธุรกิจใหม่ทั้ง 3 ธุรกิจ ที่เพิ่มรายได้ให้กับบริษัทว่า 840 ล้านบาท และรายการพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุน นอกจากนี้กำไรสุทธิและอัตรากำไรมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากทั้ง 3 ธุรกิจ

   โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 400% อยู่ที่ 513 ล้านบาท โดยกว่า 90% ของกำไรสุทธิมาจากธุรกิจใหม่ อัตรากำไรสุทธิก็เพิ่มขึ้นจาก 6% เป็นร้อยละ 18% ในปี 2566

   TNL จึงเล็งเห็นว่าทั้ง 3 ธุรกิจ เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตและสามารถสร้างมูลค่าผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวให้กับบริษัทและผู้มีส่วนได้เสีย

   นอกจากนั้นที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้บริษัทดำเนินการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลดำเนินงานงวดปี 2566 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 91.39 ล้านบาท

24 เมษายน 2567

ผู้ชม 39 ครั้ง

Engine by shopup.com