สถิติ

66775375

TEKA กางแผนปี67 ตั้งเป้ารายได้โต 5-10% ต่อปี  

   TEKA กางแผนปี67 ตั้งเป้ารายได้โต 5-10% ต่อปี

   เล็ง!ร่วมทุนพันธมิตร Healtn Care สร้างรายได้ประจำ 

  

   บมจ. ฑีฆาก่อสร้าง TEKA ครบรอบปีที่ 40 ยืนหนึ่งด้านการก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 5-10% ต่อปี ระบุ TEKA ยืนหยัดด้านคุณภาพและมีมาตรฐานที่ดี

   ตอกย้ำผู้นำด้านการก่อสร้างอาคารชั้นนำ ที่มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง เติบโตเคียงคู่อุตสาหกรรมก่อสร้างไทย พร้อมมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส

   หวังสร้างเสถียรภาพและความยั่งยืนให้กับองค์กร เราพร้อมสร้างทุกความสำเร็จ เพื่ออนาคตที่กำหนดได้ BUILDING SUCCESS, SHAPING THE FUTURE

   ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) TEKA เปิดเผยว่า ปีนี้ ฑีฆาก่อสร้าง เป็นวาระครบรอบ 40 ปี โดยบริษัทยืนหยัดงานก่อสร้างด้วยคุณภาพและมีมาตรฐานที่ดี นับจากวันที่เริ่มก่อตั้งเมื่อ 10 มกราคม 2527   

   สำหรับกลยุทธ์ที่บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาเพื่อรักษาและเสริมสร้างความไว้วางใจจะมุ่งเน้นทั้งหมด 3 ส่วน คือ 1. Business Growth โดยรักษาฐานลูกค้าเดิม หาตลาดงานก่อสร้างใหม่ๆ ลงทุนขยายธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต บริหารความเสี่ยงเพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน
   2. Smart People มีการปรับโครงสร้างองค์กร มุ่งพัฒนาบุคลากร และบริหารกำลังพลให้มีประสิทธิภาพ และ 3. Innovative Culture พร้อมสร้าง และพัฒนาองค์กรด้วยนวัตกรรม 

   นายสุพล จงจินตรักษา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) TEKA กล่าวถึงด้านการเงิน และมุมมองการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5–10% ต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 10% พร้อมตั้งเป้ารายได้จำนวน 2,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังอย่างละ 1,000 ล้านบาท จากงานที่ร่วมประมูลกว่า 10,000 ล้านบาท 

   สำหรับในปี 2566 มีรายได้จากการก่อสร้างอยู่ที่ 2,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  5.30% จากปี 2565 มีรายได้อยู่ที่ 1,933 ล้านบาท และเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่ารายได้จากงานรับเหมาก่อสร้างไว้ไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท

   ซึ่งการเติบโตของรายได้ในปี 2566 มาจากการเติบโตของรายได้โครงการใหม่ โดย ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมี Backlog อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท สามารถรองรับรายได้สำหรับปี 2567-2568 โดยในปี 2567 คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog จำนวน 1,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรับรู้ในปี 2568 

   ในขณะที่ฐานะทางการเงินของ TEKA ถือว่า แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทยังคงรักษาความแข็งแกร่งด้านการเงินและไม่มีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ยืมในการดำเนินงาน

   ทำให้บริษัทมีความพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ทั้งความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจทั้งจากเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง รวมถึงทางบริษัทพร้อมที่จะขยายงาน เพิ่มทีมงาน และเตรียมเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง   

                                                 

   สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้หลังจากที่บริษัทได้ชะลอการลงทุนในประเทศเวียดนามไปก่อนหน้านี้ที่ได้มีการศึกษาไว้แล้วนั้น เนื่องจากต้องรอสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความชัดเจนและเติบโตมากกว่านี้ก่อนคาดว่าจะสามารถกลับไปหาแนวทางลงทุนได้อีกครั้งในปี 2568 

   ดังนั้นในปี 2567 นี้บริษัทจึงได้ศึกษาแนวทางการลงทุนในประเทศโดยเฉพาะด้าน Health Care และ Wellness ร่วมกับพันธมิตรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในลักษณะการรร่วมทุน

   โดยทาง ฑีฆาก่อสร้าง จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในลักษณะ 60 : 40 ซึ่งโมเดลลงทุนจะมีมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทต่อไป โดยตั้งเป้าในระยะยาวจะสร้างสัดส่วนรายได้ส่วนนี้เป็น 10-15% ต่อไป 

   นายณัฐวัฒน์ ภาสุกุลพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานวิศวกรรมและประกันคุณภาพ บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) TEKA  กล่าวถึงความเชี่ยวชาญ และคุณภาพงานการก่อสร้างของบริษัทว่า กลยุทธ์ที่จะครองใจลูกค้าทั้ง Developer และ Construction Management คือ Quality Policy หรือ นโยบายคุณภาพ

   โดยนําระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 มาประยุกต์ใช้เพื่อให้มีคุณภาพในการทำงาน และเกิดการทำงานตามมาตรฐานสากล พร้อมยกระดับมาตรฐาน และความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 

   รวมถึงให้ความสำคัญด้าน QA Department โดยหน่วยงานคอยดูแลและตรวจสอบคุณภาพ สามารถการันตีได้ว่างานก่อสร้างสามารถตอบสนองความต้องการทางด้านคุณภาพได้ตามตกลง ซึ่งเป็นการรับประกันที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ลูกค้าจะได้รับงานและบริการที่มีคุณภาพ

   มุ่งเน้น ถึงด้าน Standardize โดยหน่วยงานของ TEKA ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 และได้รับรองมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับ Platinum (ระดับสูงสุด)

   จากสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) รวมถึงมีแผนกดูแลลูกค้าคอยให้บริการหลังการส่งมอบโครงการ

   ซึ่งบริษัทยังมีการบริหารความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันและลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถตอบสนองความพึงพอใจ และส่งมอบงานที่ตรงตามความต้องการมากที่สุดต่อไป

   นางศิริวรรณ ศักดิ์สุริยา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) TEKA กล่าวถึงความพร้อมสู่ความยั่งยืนของบริษัทว่า TEKA มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างเสถียรภาพและความยั่งยืนให้กับองค์กร

   โดยองค์กรให้ความสำคัญเรื่องบุคลากร เช่น การสร้างคน การพัฒนาคน ในมิติความยั่งยืน ภายใต้รากฐานสำคัญในการทำงานขององค์กร คือ TEKA’S Core Value T = Teamwork  การทำงานเป็นทีม E = Excellence ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน

   K = Knowledge Improvement การหมั่นฝึกฝน และใฝ่หาองค์ความรู้ใหม่ๆ วิธีการใหม่ ๆ มาปรับใช้ให้ได้งานที่บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ A =  Accountability มีความรับผิดชอบ และ S = Sustainability การส่งมอบงานคุณภาพอย่างยั่งยืน

   อีกทั้งบริษัทยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านการก่อสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งด้านการบริหารจัดการ การเพิ่มคุณภาพ และ
การทำงานที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

   นอกจากนี้บริษัทยังเล็งเห็นความสำคัญทางด้าน Sustainability จึงได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพข้อมูลความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน ซึ่งครอบคลุม ทั้ง ESG (Environmental, Social, Governance : ESG) หรือโครงการความยั่งยืนที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   ยิ่งเป็นสิ่งตอกย้ำว่า บริษัทให้ความสำคัญกับทุกมิติของสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเป็นบริษัท ฯ ที่มีคุณภาพ พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

06 มีนาคม 2567

ผู้ชม 484 ครั้ง

Engine by shopup.com