SNNP โชว์กำไรปี 66 แตะ 636 ลบ. บอร์ดปันผลเพิ่ม 0.25 บ./หุ้น
SNNP โชว์กำไรปี 66 แตะ 636 ลบ. บอร์ดปันผลเพิ่ม 0.25 บ./หุ้น
SNNP โชว์กำไรปี 66 แตะ 636 ลบ. บอร์ดปันผลเพิ่ม 0.25 บ./หุ้น
บุก!ตลาดใน-ตปท.ดันเป้า12,000ลบ.ใน4ปี-รุก!อาหารเสริม"เจเล่ฟิตต์"
SNNP โชว์ผลดำเนินงานปี 66 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ กำไรพุ่ง 23% แตะระดับ 636 ล้านบาท รายได้รวมโตทะลุเป้า 6,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดอีกในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค. 67 รวมทั้งปีจ่ายปันผล 0.482 บาท/หุ้น
ฟากผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” เปิดแผนปี 67 มั่นใจรายได้เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าขยายตลาดใน-ต่างประเทศเต็มสูบ! ดันยอดขายโต 2 หลัก รับลูกปรับแผนยอดขายแตะ 12,000 ล้านบาทใน 4 ปี บูม!สัดส่วนตลาดต่างประเทศแตะ 40%
พร้อมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ”เจเล่ฟิตต์” (Jele Fitt) บุกตลาด 3 ปี ชิงมาร์เก็ตแชร์ 3% ยอดขายแตะ 1,000 ล้านบาท
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหชน) (SNNP) ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 มีกำไรสุทธิ 636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือ 23% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ส่วนรายได้รวม 6,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 445 ล้านบาท หรือ 8% เทียบงวดเดียวกันของ ปีก่อนมีรายได้รวม 5,604 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากแผนการตลาดที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงบริษัททยอยออกสินค้าใหม่วางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
และมีการวางกลยุทธ์ทางด้านการตลาด การปรับโฉมสินค้า รวมถึงการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ๆ เพื่อสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยใช้งบการตลาดที่ 3% ของยอดขาย
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค. 2567
กำหนดจ่ายวันที่ 24 พ.ค. 2567 ทั้งนี้บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.232 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.482 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP กล่าวต่อไปว่า สำหรับในปี 2567 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 2 หลักหรือรายได้ 7,000 ล้านบาท ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
โดยแนวโน้มการเติบโตของบริษัทมาจากแผนธุรกิจที่ทางบริษัทได้มีการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ นอกเหนือจากประเทศเวียดนามที่เป็นประเทศหลัก บริษัทยังมองเห็นโอกาสในการทำตลาดในประเทศอื่น เช่น ฟิลิปปินส์, เกาหลี และจีน เป็นต้น รวมถึงญี่ปุ่นและอินเดีย
และทางบริษัทยังคงเฟ้นหาตลาดเพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมให้บริษัทมีการเติบโตอย่างมีคุณภาพและอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยสนับสนุนการผลดำเนินงานของบริษัทให้เติบโตตามเป้าหมาย
ทั้งนี้เพราะบริษัทได้มีการปรับเป้าหมายรายได้จากเดิมที่ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาทในปี 2569 ก็คาดว่าจะได้ 12,000 ล้านบาท ในปี 2571 จากการเติบโตและขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 40% จากปัจจุบันที่ 23% ในขณะที่สัดส่วนรายได้จากขนมขบเคี้ยว(Snack) อยู่ที่ 57% และเครื่องดื่ม(Beverage) อยู่ที่ 43% โดยในปีนี้ได้รุกตลาดใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร(Supplementary) ด้วย
"ล่าสุด SNNP ได้เปิดเกมรุกเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Supplementary) ภายใต้แบรนด์ ”เจเล่ฟิตต์” (Jele Fitt) ในรูปแบบเยลลี่รสผลไม้ ที่ถูกพัฒนาเพื่อให้เหมาะกับคนละช่วงวัย
แบ่งเป็นสำหรับ วัย 20-29 ปี สำหรับวัย 30-39 ปี และสำหรับวัย 40-49 ปี ราคาซองละ 15 บาท (1 ซอง บรรจุ 27 กรัม) วางจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567
ซึ่งจากการวิจัย Jele Fitt จะชนะใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ในด้านแนวความคิดผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง ทั้งรสชาติสินค้าอร่อย บรรจุภัณฑ์ที่สะดวกพกพาง่าย รูปแบบดีไซน์ที่โดดเด่น ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของเจเล่ที่จะเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคอย่างแน่นอน
ซึ่งคาดว่าในปีแรกนี้จะสร้างส่วนแบ่งการตลาดได้กว่า 1% หรือจำนวน 200 ล้านบาท และวางแผนไว้ว่าภายใน 3-5 ปี จะสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดได้ในสัดส่วน 3% หรือสร้างยอดขายจำนวน 1,000 ล้านบาทต่อไป” นายวิโรจน์ กล่าวสรุป
21 กุมภาพันธ์ 2567
ผู้ชม 287 ครั้ง