สถิติ

71157915

CHEWA โชว์แผนปี 67 รุกสร้างรายได้ 2,000 ล้านบาท  

   CHEWA โชว์แผนปี 67 รุกสร้างรายได้ 2,000 ล้านบาท

   ลุย! 4 โครงการ 3,700 ลบ.-พันธมิตรJV-เทคฯคอนโดฯ-ซื้อที่ดิน

                                                   

   ชีวาทัย ตั้งเป้ารุกตลาดอสังหาฯ ทั้งแนวราบ และแนวสูงแบบครบวงจร ส่ง 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,700 ล้านบาท ลุยตลาดในปี 67 นี้ พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำอย่าง NSKRE และ Uwork

   เสริมความแข็งแกร่งผลิตสินค้าคุณภาพเข้าสู่ตลาด ทั้ง กทม. และโซนตะวันออก มั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเคย ด้วยสินค้าและบริการหลังจากขายที่มีคุณภาพ

   นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังเผชิญปัจจัยลบมากมาย ทั้ง GDP ของประเทศไทยที่คาดว่าจะโตเพียง 3.2% ในปี 2567 ,ระดับหนี้ครัวเรือนสูง แตะ 90% ,

   ระดับความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำในทุกภาคส่วน ,อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูง ,นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เพียงพอ ประกอบกับการเติบโตหยุดชะงักจากสงครามยูเครนและตะวันออกกลางที่กำลังดำเนินอยู่

   ปัจจัยทั้งหมดทำให้ความเข้มงวดของธนาคารในการปล่อยกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพราะเกณฑ์การจัดหาเงินทุนเพื่อลงทุนในโครงการใหม่มีความเข้มงวดมากขึ้น

   รวมถึงปัจจัยอื่นๆของตลาดที่อยู่อาศัย ในภาพรวมสะท้อนว่า กำลังซื้อตามไม่ทันปริมาณสินค้าใหม่ที่เกิดขึ้น ตลาดในกลุ่มทาวน์โฮมมีสินค้าเข้าสู่ตลาดมากกว่าความต้องการ จนทำให้เกิดสงครามราคาต่อเนื่องเพื่อลดสต๊อกสินค้าลง

   ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่กระทบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น แต่บริษัทยังเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดบ้านในช่วงราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท และตลาดของคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ในทำเลคุณภาพที่ราคาไม่แพง

   ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเสมอมา บริษัทยังคงค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และเปิดรับการร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

   บริษัทมีแผนการลงทุนและเปิดโครงการใหม่ เริ่มจากการเปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ชีวารมย์ 1 โครงการ คือโครงการ ชีวารมย์ นิว ราชพฤกษ์ อยู่บริเวณถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ (ถนนหมายเลข 346) มูลค่าโครงการประมาณ 687 ล้านบาท ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้แล้วในช่วงไตรมาสที่4 /2566 

   และกำลังจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม “ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา” อยู่บริเวณถนนนวลจันทร์ ส่วนเชื่อมต่อถนนรัชดา-รามอินทรา มูลค่าโครงการ 1,014 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2025

   นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มเติม ตามเป้าหมาย 4 โครงการ ภายในปี 2567 มูลค่าโครงการรวม 3,700 ล้านบาท โดยเตรียมวงเงินค่าที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ ประมาณ 600 ล้านบาท หลังจากที่ไม่ได้มีการซื้อที่ดินเพิ่มมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา

   เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ทั้ง 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวแบรนด์ชีวารมย์ 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท

   โดยในปี 2567 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้ 1,900 ล้านบาท จากโครงการเดิมที่ยังมี Backlog จำนวน 1,200 ล้านบาททยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแผนงานในการลดต้นทุนทางการเงินจากหุ้นกู้ลงไป 5% หรือจำนวน 100 ล้านบาท จากที่มีอยู่กว่า 1,900 ล้านบาท

   นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้บริษัทยังคงค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และเปิดรับการร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

   โดยหลังจากที่บริษัทได้ขายโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า จำนวน 10 โรงงาน ที่นิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ จ.ระยอง ไปก่อนหน้านี้ พร้อมสิทธิ์ในการบริหารดูแลต่อ ซึ่งสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง

   ในตอนนี้บริษัทได้ลุยโครงการร่วมทุนในโรงงานให้เช่าอีกครั้ง โดยได้พันธมิตรที่สร้างโครงการให้ชีวาทัยมามากมายอย่างบริษัท ยูเวิร์ค 999 จำกัด หรือ U work มาเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน ด้วยแนวคิดที่ตรงกันว่า ธุรกิจโรงงานให้เช่ามีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

   โดยทางชีวาทัย จะทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบงานด้านการจัดหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ ,การตลาด, การขาย, การให้เช่า และดูแลการบริหารจัดการให้กับบริษัทร่วมทุน ส่วนทางยูเวิร์ค จะเป็นผู้รับผิดชอบพัฒนาโครงการ ในการก่อสร้าง ให้คำปรึกษา และ ให้บริการวิศวกรรมโครงสร้าง

   ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมประปา วิศวกรรมโยธา และนักตกแต่งภายใน ซึ่งเป็นการใช้จุดแข็งของทั้งสองบริษัทมาต่อยอดธุรกิจร่วมกัน

   โครงการมีการเริ่มต้นก่อสร้างแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในโครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง จำนวน 4 โรงงาน มูลค่าโครงการ 210 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ในไตรมาสที่3 ของปี 2567 พร้อมมีผู้เช่าเต็มจำนวนในปี 2568

   นอกจากนี้บริษัทได้ตกลงทำความร่วมมือขยายธุรกิจเพื่อต่อยอดแผนการลงทุน ภายใต้การร่วมทุนกับบริษัทนิปปอน สตีล โควะ เรียล เอสเตท จำกัด (NIPPON STEEL KOWA REAL ESTATE) หรือ NSKRE

   ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยรวมถึงอาคารสำนักงานชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีประวัติยาวนานถึง 70 ปี

   เป็นการรวมตัวของโควะ เรียล เอสเตท หน่วยงานด้านอสังหาริมทรัพย์ของมิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และ นิปปอน สตีล ผู้นำด้านธุรกิจเหล็กของโลก

   โดยบริษัท ถือหุ้น51% และนิปปอน สตีล โควะ เรียล เอสเตท ถือหุ้น49% เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน โดยโครงการแรกเป็นคอนโดมิเนียม “ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา” เป็นห้องพักจำนวน 413 ยูนิต และอาคารพาณิชย์ 2 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,014 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2025

   และนอกจากโปรเจคนี้ ทาง NSKRE ยังทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการร่วมทุนในโครงการทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวต้องการที่จะต่อยอดไปไกลกว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัย และมีส่วนร่วมในการพัฒนาในด้านอื่นๆ อีกในอนาคต

   รวมถึงการเตรียมงบลงทุนเพื่อดำเนินกลยุทธ์การเทคโอเวอร์คอนโดมิเนียมที่ชีวาทัยมีความชำนาญทางด้านนี้ เพื่อรองรับกับผนการตลาดอสังหาฯแนวสูงของบริษัทที่คาดว่าจะทยอยขายและหมดสต็อกลงในปีนี้

   "ด้านบริการหลังการขายและการดูแลลูกค้า ยังคงยึดมั่นด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย จาก “ชีวาแคร์” ยึดมั่นเป้าหมายขึ้นที่ 1 ในใจลูกค้าด้านคุณภาพและบริการ สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ช่วงรายได้ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท

   และยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ Zero Defect ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการกับชีวาทัย ได้สิ่งที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่บริการก่อนการขายตลอดจนถึงบริการหลังการขาย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดสู่ลูกค้าทุกคน” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าวสรุป

17 กุมภาพันธ์ 2567

ผู้ชม 133 ครั้ง

Engine by shopup.com