ซีคอน ชูกลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ปี 67 โต 10-15%
ซีคอน ชูกลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ปี 67 โต 10-15%
ซีคอน ชูกลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ปี 67 โต 10-15%
ขยายโรงงานผลิตแห่งที่2-ร่วมทุนPartner Brand"นายณ์ เอสเตท"
"ซีคอน" สานต่อความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านที่ได้รับความนิยมสูงสุดของไทยมากว่า 63 ปี ดึงแนวคิด ESG เข้ามาใช้สร้างสรรค์แผนธุรกิจในปี 2567 เพื่อปูทางสู่ความยั่งยืน
ประกาศพลิกโฉมธุรกิจด้วยกลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ให้เป็นได้ยิ่งกว่าธุรกิจรับสร้างบ้านแบบ Beyond Thinking ติดปีกต่อยอดเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตกว่าตลาดอย่างมั่นคงและยั่งยืน หนุนปี 67 โต 10-15%
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ที่ซีคอนจะให้เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจในปีนี้นั้น ผสานไปด้วยมิติต่างๆ ที่จะนำสู่ความสำเร็จ
ได้แก่ มิติการขับเคลื่อยองค์กรสู่ความยั่งยืนด้วยแนวคิด E-S-G มิติการนำความเชี่ยวชาญในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยมาต่อยอดสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด
และมิติในการพัฒนาศักยภาพทีมซีคอนให้พร้อมสู่การขับเคลื่อนองค์กรที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ให้พร้อมส่งมอบบริการอันเป็นเลิศแก่ลูกค้า ซึ่งทุกมิติจะถูกดำเนินการไปพร้อมๆ กัน
เพื่อสร้างให้ ซีคอน เป็นได้มากกว่าบริษัทรับสร้างบ้าน สอดรับกับบริบทของสังคมและความต้องการของผู้บริโภคทั้งกลุ่ม B2C และ B2B ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ซีคอน ยังคงยึด 3 กลยุทธ์หลักเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2567 ประกอบด้วย กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน (Sustainability) ภายใต้แนวคิด E-S-G, กลยุทธ์การแสวงหาฐานลูกค้ากลุ่มใหม่รวมทั้งพัฒนาโปรดักส์ใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
และกลยุทธ์ด้านการตลาดยุคใหม่ที่ผสานความสมดุลระหว่างออนไลน์และออฟไลน์อย่างลงตัว เพื่อคงฐานลูกค้ากลุ่มเก่าไว้ในขณะเดียวกับก็สามารถเจาะเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน
โดยทั้ง 3 กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ ซีคอน ได้เริ่มใช้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่องค์กรได้อย่างแท้จริง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายเชื่อว่าอยู่ในช่วงขาลง แต่ ซีคอน ก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างดี โดยสร้างยอดขายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
นายมนู กล่าวต่อไปว่า ในปี 2567 ซีคอน ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ประมาณ 10-15% ซึ่งปัจจัยแรกที่ทำให้เติบโตคือการเพิ่มความเข้มข้นในเรื่องการพัฒนาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของธุรกิจ (Business Sustainability)
ด้วยกลยุทธ์ ESG ที่องค์กรต้องคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (E-Environment) และสังคม (S-Social) รวมถึงการวางระบบกำกับกิจการที่ดี (G-Governance) ตลอดจนการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
โดยคำนึงถึงการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ แบบองค์รวม
ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความไว้ใจ และความสามารถในการประกอบการกิจการในฐานะที่เป็นบริษัทผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านรายแรกของประเทศไทย พร้อมกับประสบการณ์ที่มีมากกว่า 63 ปี สร้างบ้านมากกว่า 25,000 หลัง
ทั้งยังเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายเดียวที่ยืน 1 ในเรื่องของการสร้างบ้านที่มีคุณภาพมาโดยตลอด อีกทั้งยังสร้างบ้านจากความฝันของลูกค้าให้กลายมาเป็นบ้านจริงที่สมบูรณ์แบบได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นการสร้างความมั่นใจในเรื่องของ branding ได้เป็นอย่างดี
ปัจจัยที่ 2 คือ การผสานการตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างสมดุล ปัจจุบันฐานลูกค้าในออนไลน์ของ ซีคอน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในทุกปีและสามารถแปลงมาเป็นยอดขายได้เป็นอย่างน่าพอใจ
สอดคล้องกับการเติบโตของยอดขายในกลุ่มตลาดออฟไลน์ ที่ซีคอนได้จัดกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายเพื่อเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพโดยตรง
ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2567 ซีคอนจะร่วมออกบูธใน 2 งานใหญ่ ประกอบด้วย งานรับสร้างบ้าน และวัสดุ Focus 2024 จัดขึ้นในวันที่ 17–25 กุมภาพันธ์ 2567 ที่อิมแพ็ค ฮออล์ 8 เมืองทองธานี และงานบ้านและสวน Select 2024 จัดขึ้นในวันที่ 23–31 มีนาคม 2567 ที่ไบเทค บางนา
และปัจจัยสุดท้ายคือการนำความเชี่ยวชาญในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยมาต่อยอดสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด
นำร่องในปี 2567 ด้วยการประกาศสร้างโรงงานผลิตโครงสร้างชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปแห่งที่ 2 ที่ลำลูกกา คลอง 12 บนเนื้อที่กว่า 26 ไร่ ยังเป็นธงสำคัญในการขยายตัว และขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องแบบ Fast Forward มีกำลังการผลิตได้สูงถึง 120,000 ชิ้นต่อปี
นอกจากโรงงานแห่งที่ 2 จะสามารถรองรับลูกค้าที่จองสร้างบ้านกับซีคอน และ ซีคอน ไอดี แล้ว โรงงานดังกล่าวยังสามารถรองรับลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ลูกค้าบ้านเดี่ยว ลูกค้ากลุ่มธุรกิจรีสอร์ทหรืออพาร์ทเม้นท์ ฯลฯ ได้อีกด้วย
ตามมาด้วยการประกาศร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ด้วยการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจรับสร้างบ้านมาสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า
และสุดท้ายกับการเปิดตัว 6 แบบบ้านใหม่ที่พัฒนาแบบภายใต้แนวคิด Greenery SEACON ด้วยหัวใจหลักของการพัฒนาที่เน้นการนำธรรมชาติมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ปัจจุบันมีพื้นที่จำกัดท่ามกลางมลภาวะรอบด้านของเมืองในปัจจุบัน
ผ่านทาง courtyard หรือลานกลางบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวเอเชีย ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์และจินตาการของเจ้าของบ้านเองปิดกั้นจากความวุ่นวายภายนอก
นอกจากจะให้ความสงบบริเวณใจกลางบ้านแล้ว ลานดังกล่าวยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่ถ่ายเทอากาศและรับแสงธรรมชาติ ทั้งยังเป็นจุด view point ของห้องสำคัญทุกห้องภายในบ้านอีกด้วย
โดยแบบบ้านใหม่ในซีรีย์ Greenery SEACON ประกอบด้วย 1. แบบบ้าน GREENERY 255 สไตล์ Modern มีกลิ่นอายความเป็น Tropical ออกแบบเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่มีการจัดฟังก์ชันได้อย่างลงตัว
แยกกันเป็นสัดส่วน มาพร้อมห้องนอนขนาดใหญ่ ห้องแต่งตัวและห้องน้ำในตัวทุกห้อง และในทุกฟังก์ชันของตัวบ้านสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวคอร์ทกลางบ้าน ทำให้ตัวบ้านรู้สึกโล่งและได้รับแสง ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Facade ระแนงหน้าบ้านที่ทำให้บ้านดูมีความโดดเด่น
และยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยจากสายตาคนภายนอก ซึ่งแบบบ้านหลังนี้ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน 2. แบบบ้าน GREENERY 255 สไตล์ Modern
มีกลิ่นอายความเป็น Tropical ออกแบบเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่มีการจัดฟังก์ชันได้อย่างลงตัว แยกกันเป็นสัดส่วนมาพร้อมห้องนอนขนาดใหญ่ ห้องแต่งตัวและห้องน้ำในตัวทุกห้อง
และในทุกฟังก์ชันของตัวบ้าน สามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวคอร์ทกลางบ้าน ทำให้ตัวบ้านรู้สึกโล่ง และได้รับแสง ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Facade ระแนงหน้าบ้าน
ที่ทำให้บ้านดูมีความโดดเด่น และยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยจากสายตาคนภายนอก ซึ่งแบบบ้านหลังนี้ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
3. แบบบ้าน GREENERY 470 แบบบ้าน 3 ชั้นสไตล์ MODERN มีลักษณะเป็นบ้านหน้าแคบแต่ฟังก์ชันภายในยังดูโปร่ง โดดเด่นเรื่องการใช้คอร์ท กลางบ้าน ที่สามารถเข้าถึงธรรมชาติได้เกือบทุกฟังก์ชัน
ในส่วนพื้นที่พักผ่อนและทานอาหารใช้ DOUBLE VOLUME ทำให้ดูโปร่ง อีกทั้งยังสามารถใช้คอร์ทเพื่อเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ซึ่งแบบบ้านประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 5ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
4. แบบบ้าน GREENERY 486 บ้านสไตล์ Modern มีกลิ่นอายความเป็นยุโรป ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่ฟังก์ชันภายในยังรู้สึกโล่งด้วย DOUBLE VOLUME การออกแบบพื้นที่ห้องพักผ่อนและทานอาหารต่อเนื่องเป็นสัดส่วน
พร้อมคอร์ทกลางบ้าน เพื่อให้ประโยชน์เรื่องแสง การระบายอากาศของตัวบ้าน ที่เป็นข้อจำกัดของที่ดิน ซึ่งทุกฟังชันหลักในบ้านสามารถสัมผัสกับคอร์ท ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ แบบบ้านนี้ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน
5. แบบบ้าน GREENERY 638 แบบบ้านสไตล์ Modern ถูกออกแบบมาเพื่อให้บ้านได้รับแสงและพื้นที่สีเขียวเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างทั่วถึง คอร์ทกลางบ้านและหลังบ้านช่วยให้ภายในบ้านรู้สึกโปร่งและเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างลงตัว
ทำให้รู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ไม่รู้สึกอึดอัด และยังสามารถเข้าถึงได้ในเกือบทุกๆ ฟังก์ชันอีกด้วย แบบบ้านมีฟังก์ชันห้อง ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน
และ 6. แบบบ้าน GREENERY 970 แบบบ้าน 3 ชั้น สไตล์ Modern โดดเด่นด้วย กรอบ Façade ที่ทำให้บ้านมีเอกลักษณ์มากขึ้น มาพร้อมกับคอร์ทกลางที่เกือบทุกห้องสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวที่ช่วยให้ผ่อนคลายและยังช่วยให้บ้านได้รับแสงธรรมชาติ ทำให้บ้านไม่รู้สึกอึดอัด
พร้อมกับ Double space ในส่วนของห้องนั่งเล่นและทานอาหาร ทำให้รู้สึกโล่งสบาย สามารถเข้าถึงสวนได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับของครอบครัวขนาดใหญ่ โดยมีขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4 คัน
09 กุมภาพันธ์ 2567
ผู้ชม 111 ครั้ง