สถิติ

70520544

"วราวุธ" รมว.พม. ชี้!นายกฯ ให้ความสำคัญงบปี2567 พัฒนาสังคม

หมวดหมู่: ตลาด/ไอที

   "วราวุธ" รมว.พม. ชี้!นายกฯ ให้ความสำคัญงบปี2567 พัฒนาสังคม

   แจงขึ้นเบี้ยผู้สูงอายุถ้วนหน้า 1,000 บาท ขึ้นกับงบประมาณรัฐบาล

                          

   นายวราวุธ  ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า พอใจการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

   ซึ่งในส่วนของงบประมาณกระทรวง พม. และขอบคุณฝ่ายค้านที่ได้ตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสังคมที่ทางกระทรวง พม. ได้ดูแลอยู่ ซึ่งข้อสังเกตเหล่านั้นจะนำไปปรับปรุงและเร่งรัดการทำงานต่อไป

   และต้องขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่มีความเป็นห่วงเป็นใยความเป็นอยู่กลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก ซึ่งข้อมูลล่าสุดที่ตนเพิ่งได้มาของเดือนธันวาคม 2566 ประเทศไทย พบว่า มีจำนวนผู้สูงอายุเกินร้อยละ 20 ของประเทศ

   ประมาณร้อยละ 20.1-20.2 เมื่อเทียบตามกติกาของสากลร้อยละ 7-14 หมายถึงสังคมผู้สูงอายุ ส่วนร้อยละ 14-20 เป็นสังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์แบบ และถ้าเกินร้อยละ 20 เป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด ตอนนี้ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด เท่ากับประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

   ดังนั้นต้องทำความเข้าใจว่าการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำ แต่ศักยภาพในการดูแลเมื่อเทียบกับจำนวนเด็กเกิดใหม่ทั้งหมด ในปี 2565 มี 400,000 กว่าคนเท่านั้น

   ซึ่งหมายความว่า จากนี้ไปจำนวนประชาชากร Gen Y-Gen Z หรือในอนาคตจะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อที่จะมีสวัสดิการให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่นับวันยิ่งมีมากขึ้น

   นายวราวุธ กล่าวว่า หัวใจสำคัญ นอกจากการดูแลผู้สูงอายุให้ทั่วถึงแล้ว รัฐบาลจำเป็นต้องดึงเอาศักยภาพของคนทุกกลุ่มในประเทศไทยช่วงระยะเวลาสั้นออกมา เพราะทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนพิการไม่ได้แปลว่าไม่มีศักยภาพในการทำงาน

   เพราะทุกคนล้วนเป็นบุคลากร และเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของสังคมไทย จึงต้องดึงเอาศักยภาพ และเสริมศักยภาพของคนกลุ่มนี้ เข้ามาเป็นโปรดักทิวิตี้ (Productivity) เพื่อให้เกิดรายได้ และพลังขับเคลื่อนของสังคม

   เพราะไม่เช่นนั้นนับวันจะมีผู้สูงอายุมากขึ้นและคนต้องใช้เงินสวัสดิการมากขึ้น ซึ่งสวนทางกับคนที่มีกำลังทำงานที่มีปริมาณน้อยลง จะทำให้คน Gen Y และ Gen Z เป็นคนแบก

   และไม่อยากให้กลุ่มคนเหล่านี้ถอดใจและเกษียณก่อนวัยอันควรที่ไม่อยากจะแบกรับสวัสดิการเหล่านั้น จึงเป็นเวลาที่สังคมไทยต้องมาเสริมสร้างกลุ่มที่เปราะบางเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง และเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไทยได้

   นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายอยากให้มีการปรับเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือนเท่ากันทุกช่วงวัยนั้น ตนเห็นว่าการขอไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า การจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุปัจจุบันที่เป็นขั้นบันได 600 บาท 700 บาท 800 บาท ต่อเดือนนั้น ใช้เงินปีละประมาณ 100,000 ล้านบาท

   ดังนั้นถ้าจะปรับให้เป็น 1,000 บาทถ้วนหน้า ต้องใช้เงินมากขึ้นถึง 60,000 ล้านบาท ทั้งนี้หากสำนักงบประมาณและรัฐบาลมีเงินพอก็เชื่อว่าอยากจะให้อยู่แล้ว แต่ปี 2565 ประเทศไทยมีคนเสียภาษีจริงๆ 4 ล้านกว่าคน

   และมีเงินภาษีกับบริษัทห้างร้าน และสรรพสามิต ซึ่งไม่ถึงร้อยละ 10 ของประชากรคนไทย หรือมีคนเสียภาษีไม่ถึง 5 ล้านคน ทำให้เงินขาเข้ามีน้อย แต่ทุกคนอยากให้มีถ้วนหน้า

   ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเน้นกลุ่มเปราะบาง และคนที่เดือดร้อนมากที่สุดก่อน แล้วค่อยๆดูแลตามลำดับความสำคัญ ซึ่งส่วนตัวอยากจะให้ดูแลสังคมให้ถ้วนหน้าได้จริงๆ อย่างที่ถูกอภิปราย แต่เห็นใจกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณที่มีรายได้น้อยและจำกัด

   ซึ่งกระทรวง พม. ไม่อยากให้งบประมาณกลายเป็นงบขาดดุลทุกปีๆ ซึ่งปีนี้กู้มาอีกหลายแสนล้าน และถ้าต้องการถ้วนหน้าจริงจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับสำนักงบประมาณอีก แต่ถ้างบประมาณเพียงพอ ตนคิดว่าไม่ใช่แค่ 1,000 บาท แต่ 3,000 บาท หรือกี่พันบาทก็อยากให้ แต่วันนี้รายจ่ายและรายรับไม่สมดุลกัน

   นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนไม่อยากให้มองว่าผู้สูงอายุจะต้องเป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียว เพราะสังคมผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไปนั้น หลายคนมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ซึ่งเกิดจากระบบสาธารณสุขของไทยที่มีการพัฒนา

   ดังนั้นจึงมองว่า สังคมไทยควรให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้ เพราะสามารถทำงานเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศไทยได้ ทั้งนี้หากกลุ่มผู้สูงอายุทำงานได้ ประเทศชาติจะได้เงินภาษีเพิ่มขึ้น และสามารถทำให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมทำหลังวันเกษียณ ซึ่งจะเป็นผลดีที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง

   ทั้งนี้การอภิปรายที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับงบประมาณปี 2567 เพื่อการพัฒนาสังคมนั้น ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาทุกมิติ เพราะหลายประเด็นที่นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงทั้งเรื่องความรุนแรงของสตรี และความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งถือเป็นกำลังใจให้กับกระทรวง พม.

   #ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #งบประมาณปี2567 #กลุ่มเปราะบาง #เบี้ยผู้สูงอายุ #อภิปราย

05 มกราคม 2567

ผู้ชม 75 ครั้ง

Engine by shopup.com