สถิติ

70525849

ธนาคารกรุงเทพ จัดงาน "วันเกษตรก้าวหน้า ประจำปี 2566"  

หมวดหมู่: การเงิน

   ธนาคารกรุงเทพ จัดงาน "วันเกษตรก้าวหน้า ประจำปี 2566"

   ช้อปสินค้าเกษตร หนุนใช้จ่ายปลายปี สร้าง Smart Farming สู่สากล

 

   ธนาคารกรุงเทพ เดินหน้าจัดมหกรรมจำหน่ายสินค้าเกษตรส่งท้ายปี ในงาน “วันเกษตรก้าวหน้า ประจำปี 2566” คัดสรรสินค้าเกษตรไทยคุณภาพส่งออก ส่งตรงจาก 56 ร้านค้า ทั้งสินค้าเกษตรนวัตกรรม สินค้าชุมชน และสินค้าเกษตรปลอดภัยต่อสุขภาพ

   ให้เลือกช้อปหรือซื้อเป็นของขวัญแก่คนรัก เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเสริมเกราะความรู้เกษตรกรไทย ยกระดับสู่ Smart Farming ในงานสัมมนาพิเศษ “วันเกษตรก้าวหน้า’66” ณ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่สีลม

   นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ ได้จัดงานมหกรรมจำหน่ายสินค้าเกษตร “วันเกษตรก้าวหน้า ประจำปี 2566” ภายใต้แนวคิด “เทคโนโลยีนำสมัย การจัดการเหมาะสม สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

   ซึ่งปีนี้มีเกษตรกรและผู้ผลิตเข้าร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เป็น 56 ร้านค้า แบ่งเป็นโซนสินค้า เกษตรนวัตกรรม สินค้าชุมชน และสินค้าเกษตรปลอดภัยต่อสุขภาพ

   โดยเป็นสินค้าคุณภาพส่งออก นำมาจำหน่ายในราคาพิเศษ เช่น กล้วยไม้และไม้ประดับนานาพันธุ์,เครื่องประดับจากดอกกล้วยไม้, ผลิตภัณฑ์จากแมคคาเดเมีย, สตอร์เบอร์รี่สดและแปรรูป, ผักสลัดที่ปลูกจาก Plant Factory, ขนมปังผักเคล, ส้มสายน้ำผึ้ง, เมล่อน, น้ำผึ้งคุณภาพดี,

   มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองคุณภาพส่งออก, ส้มโอทับทิมสยาม, ส้มโอขาวน้ำผึ้ง, ส้มโอทองดี, ปลากะพงสองน้ำพร้อมรับประทาน, ไส้อั่วเผาเตาหลวง, ไข่ไก่คุณภาพคัดพิเศษ, เต้าหู้ผัก,

   ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันอะโวคาโด, ปลาส้ม, ผลิตภัณฑ์จากนมแพะ, ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์และผลไม้ รวมทั้งอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกว่า 2,000 คน มีเม็ดเงินสะพัดตลอดทั้งงานไม่ต่ำว่า 3 ล้านบาท  

   ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ ได้ดำเนินโครงการเกษตรก้าวหน้า ตั้งแต่ปี 2542 ในสมัย อดีตท่านประธานกรรมการบริหาร คุณโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ โดยมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับภาคการเกษตรของไทย

   โดยในยุคแรก ธนาคารมุ่งส่งเสริมองค์ความรู้โดยความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ของเกษตรกร รวมทั้งเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้ดีมากยิ่งขึ้น

   ยุคที่ 2 สนับสนุนการสร้างเครือข่าย ใน 2 ส่วนหลัก คือ เครือข่ายด้านการตลาด และ เครือข่ายด้านการผลิต โดยธนาคารยังทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการ Matching Business ระหว่างผู้ผลิตและผู้ส่งออก

   ทั้งในรูปแบบของการจัดนิทรรศการผลงาน และเปิดโอกาสให้เกษตรก้าวหน้า นำผลผลิตมาจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ในงาน “วันเกษตรก้าวหน้า” อีกด้วย

   และปัจจุบัน คือ ยุคที่ 3 โดยธนาคารยังคงมุ่งมั่นในการผลักดันให้เกษตรกรไทย ก้าวสู่การเป็น Smart Farming หรือ การทำเกษตรแนวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มคุณภาพ

   ปริมาณของผลิตผลทางการเกษตร และยังช่วยลดต้นทุนในระยะยาว ขณะเดียวกันยังเป็นการเสริมศักยภาพการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลกอีกด้วย   

   “ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม มีเกษตรกรกว่า 7.7 ล้านครัวเรือน เป็นพื้นฐานรายได้ที่สำคัญของไทย ดังนั้นภาคเกษตรไทยจำเป็นต้องเข้มแข็งและมีความยั่งยืน โดยตลอด 24 ปีที่ผ่านมาธนาคารกรุงเทพได้เล็งเห็นความสำคัญของภาคการเกษตร

   ไม่เพียงแต่บริการทางการเงิน แต่เรายังต้องการสนับสนุนให้ภาคเกษตรมีการปรับตัว และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

   ซึ่งปัจจุบันถือเป็นยุคที่ 3 หรือ ยุคของนวัตกรรม กระบวนการที่จะพัฒนาต่อไปขึ้นอยู่กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีค่อนข้างมาก ธนาคารกรุงเทพ ยังคงเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่อง และต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน

   เพื่อร่วมยกระดับเกษตรกรไทยให้เป็น Smart Farming  ก็ดี Precision Farming ก็ดี ตลอดจนถึงเรื่องของการใช้ผลผลิตทางการเกษตรอย่างครบวงจร (Zero Waste) ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นต้น” นายพิเชฐ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า 

   ทั้งนี้ภายในงาน ธนาคารกรุงเทพ ยังได้จัดพิธีมอบรางวัล “เกษตรก้าวหน้า พ.ศ. 2566” เพื่อเชิดชูเกียรติ และส่งเสริมให้เกษตรกรไทยปรับตัวและเกิดการพัฒนาโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพการผลิตมากขึ้น แบ่งเป็น 3 ประเภทรางวัล ประกอบด้วย 

  • รางวัลเกษตรกรผู้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลดีเด่น ได้แก่ นายสุวิทย์ ไตรโชค บริษัท นาวิต้าฟาร์ม จำกัด อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าของฟาร์มเมล่อน เกษตรกรเจ้าแรกๆ ที่คิดค้นพัฒนาเทคนิควิธีการปลูกเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่น ระดับสินค้าพรีเมียม ด้วยการปรับใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี IOT ควบคุมการผลิต จนสามารถส่งขายทั้งในและต่างประเทศตลอดปีแบบไร้โรงเรือน
  • รางวัลผู้บริหารซัพพลายทางการเกษตรดีเด่น ได้แก่ นายสุนทร ศรีทวี บริษัท บลู ริเวอร์ โปรดักส์ จำกัด อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผักและผลไม้สด เพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ วางโครงสร้างการจัดการห่วงโซ่การผลิตทางการเกษตร (Supply Chain) ไว้เป็นระบบอย่างเข้มแข็ง สามารถพัฒนาควบคุมคุณภาพได้ตั้งแต่ต้นทางการปลูกไปจนถึงส่งออก เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • รางวัลเกษตรรุ่นใหม่ดีเด่น ได้แก่ นายฐิติพงษ์ จงหมายลักษณ์ บริษัท เชียงใหม่ เฟรช โปรดักส์ จำกัด อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เกษตรกรรุ่นใหม่และทายาทธุรกิจรุ่น 2 ของสวนส้มจงลักษณ์  ต่อยอดธุรกิจครอบครัวพัฒนาคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุนการจัดการในแปลงด้วยเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ข้อมูล และพัฒนาช่องทางตลาดสมัยใหม่ ตอบสนองความต้องการสินค้าทั่วประเทศ

 

23 ธันวาคม 2566

ผู้ชม 236 ครั้ง

Engine by shopup.com