ออมรอน เฮลธแคร์ ชูกลยุทธ์สินค้า-เครือข่ายปั้นรายได้โตเท่าตัวใน 5 ปี
ออมรอน เฮลธแคร์ ชูกลยุทธ์สินค้า-เครือข่ายปั้นรายได้โตเท่าตัวใน 5 ปี
ออมรอน เฮลธแคร์ ชูกลยุทธ์สินค้า-เครือข่ายปั้นรายได้โตเท่าตัวใน 5 ปี
รุก!ออนไลน์ผ่านแบบประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองบนเว็บไซต์
ออมรอน เฮลธแคร์ (OMRON Healthcare) บริษัทสาขาในประเทศไทยภายใต้บริษัทแม่ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์การตรวจวัดความดันโลหิตที่บ้าน กางแผนปั้นรายได้โตเท่าตัวใน 5 ปี
ผ่านกลยุทธ์สินค้าราคาเข้าถึงได้เพื่อดูแลสุขภาพคนไทยเฉพาะโรค ขยายเครือข่ายร้านขายยาในตลาดต่างจังหวัด ควบคู่ช่องทางออนไลน์และโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ พร้อมการปูพรมความรู้และตระหนักถึงความเสี่ยงจากโรคและการดูแลสุขภาพ
สบช่อง!นำเสนอแบบประเมิน คำนวณความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Risk Calculator) บนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเครื่องมือออนไลน์อัน ออกแบบมาเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองรายบุคคลโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
โครงการส่งเสริมสุขภาพ ผ่านแบบประเมินความเสี่ยง เกิดจากความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมองกว่า 300 คนจาก 102 ประเทศ จึงนับเป็นความร่วมมือทางการแพทย์ระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในสาขานี้
แบบประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ถูกนำเสนอบนเว็บไซต์ของออมรอน เฮลธแคร์ ภายใต้แคมเปญ “Sleeves Up, Stroke Risk Down” เพื่อตอกย้ำความสำคัญของการเฝ้าสังเกตระดับความดันโลหิตและช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง
เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้คนเข้าใจถึงความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและส่งเสริมให้ทำการตรวจวัดความดันโลหิตที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ การศึกษาของออมรอน (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงตุลาคม 2565) พบว่า การตรวจวัดความดันโลหิตที่บ้านเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงได้ถึง 54%
โครงการนี้ยังสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและสอดรับต่อแคมเปญ World Stroke Day ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ทั่วโลกถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมองเป็นภาวะโรครุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายล้านคนทั่วโลก ซึ่งมักนำไปสู่ผลเสียที่ร้ายแรงในภายหลัง โรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นเมื่อการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองเกิดการติดขัด ส่งผลให้เซลล์สมองตาย
โดยอาจมีสาเหตจากการอุดตันของหลอดเลือด (หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน) หรือการแตกของหลอดเลือด (ภาวะหลอดเลือดสมองแตก) โดยรายงานล่าสุดของ Lancet Commission ระบุว่าโรคหลอดเลือดสมองอาจคร่าชีวิตผู้คนกว่า 10 ล้านคนต่อปีภายในปี 2593 โดยเพิ่มขึ้น 50% ในอีก 30 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ยังแนะนำให้เห็นถึงความสำคัญของการควบคุมปัจจัยการใช้ชีวิตอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เนื่องจากความพิการหลังเกิดโรคหลอดเลือดสมอง มีผลกระทบต่อสุขภาพที่หนักหนาสาหัสมาก
การไปพบแพทย์อย่างทันท่วงทันทีจึงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อเกิดโรคหลอดเลือดสมอง เพราะการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะสามารถลดความเสียหายต่อสมองและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้มากขึ้น
โรคหลอดเลือดสมองเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เปิดเผยถึงแนวโน้มที่น่าวิตกกังวลถึงอุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดสมอง
ที่สูงขึ้นจาก 278.49 ต่อประชากรแสนคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปในปี 2560 เพิ่มขึ้นเป็น 330.72 ต่อประชากรแสนคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปในปี 2565 ความชุกของโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในประเทศไทย
ยังคงมีระดับค่อนข้างคงที่ที่ประมาณ 4% ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2561 ซึ่งรายงานของ Statista ในปี 2564 ระบุว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยความดันโลหิตสูงประมาณ 2,300 ต่อประชากรแสนคนหรือคิดเป็นประมาณ 12.3 ล้านคน
โรคความดันโลหิตสูง (ภาวะความดันโลหิตสูงผิดปกติ) ซึ่งมักถูกเรียกว่า “นักฆ่าเงียบ” ยังคงเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงระดับสูงของโรคหลอดเลือดสมอง รายงานของ Lancet ยังระบุว่า การให้ความสำคัญต่อการตรวจและควบคุมความดันโลหิตสูงตั้งแต่เนิ่นๆ ถือเป็นสิ่งที่แนะนำอย่างยิ่ง ให้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองทั้งในระดับปฐมภูมิและทุติยภูมิ
คุณยูซุเกะ คาโตะ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ออมรอน เฮลธแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ออมรอน เฮลธแคร์ ดำเนินการเชิงรุกเพื่อรับมือกับ “นักฆ่าเงียบ” รายนี้ ด้วยการนำเสนอแบบประเมินความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองของตนเองได้ในอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า
การประเมินจะอ้างอิงจากชุดคำถามที่ผ่านการทดสอบทางวิทยาศาสตร์โดยครอบคลุมแง่มุมต่างๆ ของสุขภาพและการดำเนินชีวิต และเนื่องจากรูปแบบการรับประทานอาหาร กิจวัตร และการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างมาก
ดังนั้นการทำความเข้าใจความเสี่ยง และตรวจวัดความดันโลหิตที่บ้านอย่างสม่ำเสมอสามารถนำไปสู่การดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันให้ดีขึ้น และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพได้
ดังที่มักพูดกันบ่อยๆ ว่า "One small squeeze a day keeps the BIG stroke away!" เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างมาก ระหว่างการใช้ชีวิต ความดันโลหิตสูง และความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง
การวัดความดันโลหิตที่บ้านและการประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและการดูแลค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลอย่างได้มีประสิทธิภาพ
คุณยูซุเกะ คาโตะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนการเติบโตของ ออมรอน เฮลธแคร์ (ประเทศไทย) นั้นได้วางแผนสร้างรายได้โตเป็นเท่าตัวในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยกลยุทธ์สำคัญคือการส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีราคาเข้าถึงได้กับคนไทยในการดูแลสุขภาพ
โดยอาจจะเป็นระดับ 1,000 บาทขึ้นไป แต่ทั้งนี้คุณสมบัติจะเป็นการตรวจเฉพาะโรคเท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันโดยเฉพาะเครื่องวัดความดันที่มีระดับราคาตั้งแต่ 2,500-3,000 บาท
นอกจากนั้นยังวางแผนขยายเครือข่ายและช่องทางการตลาดหลักคือ ร้านขายยาในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วยเพื่อเข้าถึงคนไทย รวมถึงช่องทางออนไลน์และโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมและร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้ความรู้คนไทยตระหนักในการดูแลสุขภาพด้วย
สำหรับการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และเครื่องวัดความดันในประเทศไทยนั้นถือว่ามีอยู่สูง เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในตลาดเพื่อเป็นทางเลือกของคนไทย แต่ทั้งนี้ ออมรอน เฮลธแคร์ (ประเทศไทย) มีจุดแข็งที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือจากแพทย์ในโรงพยาบาลทั่วไปอยุ่แล้ว
คุณอรุชา พรหมยานนท์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออมรอน เฮลธแคร์ สิงคโปร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฟีเจอร์การคำนวณความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองนี้ทำงานได้รวดเร็วและใช้ง่ายมาก หลังจากตอบคำถาม 20 ข้อสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 90 ปีขึ้นไป
ก็สามารถดูความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 3 นาที นอกจากนี้ ฟีเจอร์ ยังให้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับวิธีการลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วย
เพราะโรคนี้สามารถเกิดได้กับผู้คนทุกช่วงอายุและทุกเวลา แม้แต่ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลางก็ตาม ดังนั้นการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงและการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
ทั้งนี้ผู้สนใจต้องการคำนวณความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง สามารถใช้งานได้ที่ https://www.omronhealthcare-ap.com/th/how-lower-blood-pressure-can-prevent-stroke
นอกจากนั้นบริษัทยังได้มีการทำโปรแกรม CRM เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผ่านโปรโมชั่นต่างๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน ซึ่งปัจจบันยังมีสัดส่วนเล็กน้อยเพียง 5-10% จากจำนวนลูกค้าที่มีผลิตภัณฑ์ของบริษัททั้งหมดในไทย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สุรพันธ์ สิทธิสุข สังกัด หน่วยโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญในการตรวจวัดความดันโลหิตเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองว่า ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจาก ทำให้ผนังหลอดเลือดแดงหนาตัวขึ้น
เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและรูของหลอดเลือดแดงตีบแคบลง ก้อนไขมันที่ผนังหลอดเลือดเกิดการปริแตก เลือดไหลผ่านไม่สะดวกทำให้สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื้อสมองตาย หรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงมีเลือดออกในสมองซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้นการตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำจะช่วยให้บุคคลสามารถตรวจพบความผิดปกติ และใช้แนวทางที่เหมาะสมเพื่อรักษาให้มีระดับความดันในช่วงที่ดีต่อสุขภาพได้ ขั้นตอนที่เรียบง่ายแต่สำคัญนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
30 ตุลาคม 2566
ผู้ชม 438 ครั้ง