"ฟิลลิปประกันชีวิต" ยกเครื่อง!ฝ่ายขาย-พอร์ตสินค้า  

   "ฟิลลิปประกันชีวิต" ยกเครื่อง!ฝ่ายขาย-พอร์ตสินค้า

   ปรับโครงสร้างผลประโยชน์ดันActve Agentแตะ30%

   นายธฤทธิ์ พรหมนารถ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างในช่องทางตัวแทนประกันชีวิต โดยได้มีการปรับโครงสร้างผลประโยชน์รวมทั้งระดับการบริหารงานตัวแทนใหม่

   เพื่อสนับสนุนและสร้างรายได้ให้กับตัวแทนที่มีประสิทธิภาพและสร้างผลงานเบี้ยประกันภัยหรือ Active Agent ให้กับบริษัทอย่างสม่ำเสมอเป็นสำคัญ ทั้งนี้เพราะปัจจุบันช่องทางตัวแทนของบริษัทยังมีประสิทธิภาพการทำงานหรือ Active Agent น้อยกว่าอุตสาหกรรมที่ 20% 

   ดังนั้นแผนงานหลังจากการปรับโครงสร้างผลประโยชน์ตัวแทนใหม่และรีครูทตัวแทนใหม่ในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2566 นี้คาดว่าจะส่งผลให้การทำงาน Active Agent ของตัวแทนบริษัทเพิ่มเป็น 30% หรือจำนวน 600 คนจากตัวแทนทั้งหมดจำนวน 2,000 คน

   รวมถึงผลักดันเบี้ยประกันภัยโดยเฉลี่ยจาก 20,000 บาทต่อราย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามลำดับตามผลงานของตัวแทนโดยที่ยังไม่ก้าวกระโดดแต่อย่างใด

   โดยที่ ฟิลลิปประกันชีวิต ยังคงเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยประกันภัยตามที่วางไว้ในปี 2566 นี้ตามเดิม แต่หลังจากปรับโครงสร้างตัวแทนเสร็จสิ้นและเปลี่ยนผ่านเรียบร้อยแล้วก็จะมีการมาวางเป้าหมายการเติบโตใหม่ในปี 2567

   รวมถึงสัดส่วนของช่องทางเบี้ยประกันภัยของบริษัทจากปัจจุบันอยู่ที่ตัวแทนประกันชีวิตกว่า 80% ก็วางแผนที่จะปรับให้มาเป็นช่องทางตัวแทน 40% ช่องทางโบรกเกอร์ 40% และช่องทางอื่นๆ อีก 20% ต่อไป

   ในขณะที่การทำงานของตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทก็จะมีความชัดเจนจากธุรกิจในกลุ่มโดยตัวแทนประกันชีวิตที่มีไลเซ่นส์นำเสนอขายยูนิต ลิงค์ ก็จะเรียกว่า Wealth Partner ส่วนทาง บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ก็จะมีช่องทางการนำเสนอขายผ่าน Phillip FA  Academy 

   ส่วนความแข็งแกร่งทางการเงินหรือ Car Ratio ของ ฟิลลิปประกันชีวิต ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 180% โดยที่ยังไม่มีแผนการเพิ่มทุนแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทได้ปรับพอร์ตการลงทุนโดยย้ายสินทรัพย์ที่ลงทุนต่างประเทศกลับมาลงทุนที่ประเทศไทยดังเดิม

   และจากการที่ปรับโครงสร้างตัวแทนเพื่อเพิ่ม Active Agent นั้นคาดว่าจะส่งผลให้ Car Ratio เพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่ง โดยตั้งเป้าว่าจะผลักดัน Car Ratio ให้อยู่ที่ระดับ 200% ต่อไป    

   นายปวินทวัฒน์ วีร์วรงค์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ/บริหาร สายงานการขาย(DCAO) บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เข้ามารับตำแหน่งได้เดือนกว่าก็ได้เดินหน้าภารกิจการสร้างความสัมพันธ์และรักษาตัวแทนเดิมที่มีอยู่ รวมถึงการรีครูทตัวแทนใหม่

   โดยตั้งเป้าว่าภายใน 6 เดือนข้างหน้จะเพิ่มจำนวนตัวแทนอีก 300 คน จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1,500 คน ตามวิสัยทัศน์ในปี 2566 ซึ่งเป็น “ปีแห่งการสร้างตัวแทน” พร้อมเป็นหัวเรือใหญ่ในการมุ่งสนับสนุนการพัฒนาตัวแทนฟิลลิปประกันชีวิต ให้สามารถเป็นที่ปรึกษาอย่างมืออาชีพที่ดี

   ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันชีวิตและสุขภาพที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังได้รับการฝึกฝนทักษะและได้รับความรู้ใหม่เพื่อยืนอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

   พร้อมมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบองค์รวมให้แก่ตัวแทน เร่งสร้างผู้นำยุคใหม่ให้กับอุตสาหกรรมประกัน เพื่อส่งมอบหลักประกันชีวิตที่มั่นคง อันเป็นการวางรากฐานสู่การสร้างสังคมประกันชีวิตให้เติบโตอย่างยั่งยืน หลังการเปลี่ยนผ่านและปรับโครงสร้างตัวแทนเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้

   และมุ่งสู่การสร้างคุณภาพธุรกิจในระยะยาวต่อไป รวมถึงการเดินหน้าผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจประกันชีวิต

   โดยที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตที่มีอยู่เดิม และเพิ่มเติมคนใหม่ด้วยการรีครูทตัวแทนใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอจุดแข็งของบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจทางการเงินครอบคลุมทั่วโลก และความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ที่มีอย่างหลากหลายโดยเฉพาะ "ตะกาฟุล" 

   นอกจากนั้นยังเดินหน้าสร้างกองกำลัง Pre-Manager และการเสริมทัพ Head Training ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 รวมถึงพัฒนาสำนักงานตัวแทนเพื่อยกระดับเป็น Investment Center การลงทุนทางการเงินที่ครบวงจร อีกทั้งยังให้ความสำคัญด้วยการมี Call Center Agent สำหรับช่องทางตัวแทนประกันชีวิตโดยเฉพาะด้วย

   ในขณะที่กลยุทธ์ทางการตลาดของผลิตภัณฑ์นั้นก็ได้มีการปรับใหม่เพียง 2 ประเภท โดยจะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็น Flagship ของช่องทางตัวแทนประกันชีวิตเพื่อเป็นเรือธงในการนำเสนอขายผ่านเฉพาะช่องทางตัวแทนประกันชีวิตเพียง 2-3 กรมธรรม์ ได้แก่ แบบระยะสั้น กลาง ยาว ส่วนอีกประเภทเป็นผลิตภัณฑ์ในเชิงกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า อาทิ กรมธรรม์ประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี เป็นต้น 

   "ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฟิลลิปประกันชีวิต ซึ่งผมจะนำเอาความรู้ ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนความเข้าใจในธุรกิจประกันชีวิตมาช่วยสานต่อแผนยุทธศาสตร์

   โดยตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน และยุทธศาสตร์สำคัญในการนำมาซึ่งการเติบโตของเบี้ยประกันภัยในช่องทางตัวแทนปีนี้ เน้นการขยายฐานตลาดให้เข้าถึงกลุ่มคนระดับวัยทำงานเพิ่มมากยิ่งขึ้น

   แนวคิดที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมเพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิตหลังเกษียณ โดยหากมีการเก็บออมตั้งแต่อายุยังน้อย จะมีระยะเวลาในการเก็บออมนาน

   อีกทั้งยังเน้นการสร้างและขยายทีมงานตัวแทนที่มีศักยภาพสูง แน่นอนว่านอกจากบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าแล้ว บริษัทยังต้องมีทีมงานฝ่ายขายที่มีศักยภาพสูงในการเข้าถึงฐานตลาดลูกค้าที่มีกำลังซื้อมุ่งเน้นการฝึกอบรมตัวแทนอย่างเข้มข้น

   ด้วยการเสริมสร้างความรู้และทักษะในการขาย เพื่อยกระดับขีดความสามารถและภาพลักษณ์ตัวแทนให้ก้าวสู่มืออาชีพ รวมทั้งโครงสร้าง หรือวัฒนธรรมการทำงาน

   และมอบผลตอบแทนให้อย่างเหมาะสม มีการจัดโครงสร้างผลประโยชน์ที่ดี สร้างโอกาสเติบโตได้ตลอดเวลาเพื่อเป็นกำลังใจสำหรับตัวแทนให้มีผลงานสม่ำเสมอ” นายปวินทวัฒน์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า 

   อนึ่ง นายปวินทวัฒน์ ประสบการณ์ในธุรกิจประกันชีวิตมากกว่า 20 ปี เชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์การบริหารงานสรรหาตัวแทน และพัฒนาขีดความสามารถและทักษะใหม่ๆ รองรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ

   ก่อนที่จะก้าวมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ/บริหาร สายงานการขายกับฟิลลิปประกันชีวิต ได้ดำรงตำแหน่งในบริษัทประกันชั้นนำหลายแห่ง อาทิ ตำแหน่งรองประธานบริหารงานขายช่องทางตัวแทน

   อีกทั้งยังเคยเข้าร่วมการอบรมด้านการพัฒนาความรู้ ทักษะความเป็นผู้นำ กับ Asia Leadership Foundation Program ซึ่งมูลนิธิเอเชีย (Asia Foundation) เป็นองค์กรพัฒนาระหว่างประเทศที่ไม่แสวงผลกำไร 

   ซึ่งมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตในภูมิภาคเอเชียที่มีการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว โปรแกรมนี้มุ่งสร้างความเป็นผู้นำที่ก้าวล้ำในเอเชีย โดยการเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จระดับสูงและศักยภาพที่โดดเด่นอย่างมืออาชีพ ผนวกกับการให้ความรู้ในเชิงลึกเกี่ยวกับความท้าทายในการพัฒนาที่สำคัญของเอเชีย