สถิติ

66384946

CHAYO สุดปัง! งบโค้งแรกกำไรนิวไฮทุบสถิติใหม่  

   CHAYO สุดปัง! งบโค้งแรกกำไรนิวไฮทุบสถิติใหม่

   กำไรโต55%-พอร์ตบริหารหนี้พุ่ง-ธุรกิจใหม่เสริมรายได้

                   

   บมจ. ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO โชว์ผลงาน Q1/66 ทำกำไรนิวไฮทุบสถิติใหม่ กำไรนิวไฮโต 55.20% แตะ 118.28 ลบ. รายได้รวมทะยานโต 66.68% แตะ 369.63 ลบ.

   ด้านบอสใหญ่ "สุขสันต์ ยศะสินธุ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุโค้งแรกปีนี้ กำไรเติบโตโดดเด่น มาจากยอดจัดเก็บที่ทำได้ดี และพอร์ตใหม่ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

   ส่งผลรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทั้งจากเงินให้สินเชื่อแก่หนี้ด้อยคุณภาพ และจากการปล่อยกู้ พร้อมรายได้เสริม จากธุรกิจบริการจัดหาคนให้กับโรงงานต่างๆ  

   นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า บริษัท    รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2566  (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566)  มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 118.28 ล้านบาท (กำไรทุบสถิติใหม่ทำนิวไฮ) กำไรเติบโต 55.20 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 76.21 ล้านบาท

   โดยสาเหตุการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ของกำไรสุทธิเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่หนี้ด้อยคุณภาพและการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืม

   และนับเป็นกำไรสุทธิสูงสุดรายไตรมาสเท่าที่ได้ดำเนินการมา ทั้งนี้บริษัทมีกำไรขั้นต้นจำนวน 293.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79.5% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2565 จำนวน 124.21 ล้านบาท

   สอดคล้องกับรายได้รวมจากการดำเนินงานของบริษัทประจำไตรมาส 1/2566 มีจำนวน 369.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.68% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ที่มีรายได้อยู่ที่ 221.75 ล้านบาท

   โดยสาเหตุการเพิ่มขึ้นของรายได้ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพและรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมจำนวน 116.00 ล้านบาท และ 8.50 ล้านบาท ตามลำดับ

   นอกจากนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจเพิ่มเติม คือ ธุรกิจบริการจัดหาคนอีกจำนวน 22.50 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการที่กลุ่ม บริษัทมีการหาช่องทางในการทำธุรกิจใหม่เพิ่มเติม คือ การให้บริการจัดหาพนักงานให้กับโรงงานต่างๆ  

   ขณะที่ในงวดไตรมาส 1/2566 บริษัทมียอดจัดเก็บจากหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและยอดรายได้จากการขายหลักประกันของหนี้ด้อยคุณภาพจำนวน 105.10 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าไตรมาส1/2565 อยู่จำนวน 33.82 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 47.45%

   โดยที่ยอดจัดเก็บหนี้ชนิดไม่มีหลักประกันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากในช่วงปลายปี 2564 ตลอดจนปี 2565 นั้น บริษัทได้มีการซื้อพอรต์หนี้ด้อยคุณภาพชนิดไม่มีหลักประกันมาบริหารเพิ่มเติมมากขึ้น จึงส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

   ขณะเดียวกันบริษัทมีรายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สิน จำนวน 8.83 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 10.96% จากไตรมาส1/2565 โดยมีสาเหตุจากปริมาณการว่าจ้างติดตามทวงถามมากขึ้น

   นายสุขสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2566 บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือไม่น้อยกว่า 25% บริษัทได้เข้าประมูลและ/หรือเจรจาซื้อพอร์ตหนี้จากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

   โดยในปีนี้บริษัทเชื่อว่าน่าจะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งในการซื้อหนี้เสียมาบริหาร โดยบริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้อยู่ที่ 1,500–2,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มเติม ทั้งนี้ไม่รวมโอกาสจากการ JV ที่จะจัดตั้งกับสถานบันการเงินตามนโยบายของ ธปท.

   โดยแหล่งเงินทุนมาจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ในเดือนมีนาคม 2566 วงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท และอีกราว 1,000 ล้านบาท เป็นเงินจาก Chayo JV ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายจะซื้อมูลหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารให้พอร์ตเพิ่มประมาณ 10,000-16,000 ล้านบาท

   ส่งผลให้พอร์ตรวม ณ สิ้นปี 2566 น่าจะใกล้ 100,000 ล้านบาท โดย ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/2566 พอร์ตหนี้คงค้างอยู่ที่ 85,853 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้มีหลักประกันจำนวน 20,651 ล้านบาทหรือ 24.05% และไม่มีหลักประกันจำนวน 65,202 ล้านบาทหรือ 79.95%

   นอกจากนี้ธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างการปล่อยสินเชื่อมีรายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อในไตรมาสแรกจำนวน 21.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.95% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565

   โดยเป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันเพิ่มมากขึ้น โดยยอดลูกหนี้เงินให้กู้ยืม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 และ 2565 อยู่ที่  668.56 ล้านบาท และ 387.22 ล้านบาท ตามลำดับ

   ถือเป็นทิศทางที่ดี โดยวางเป้าหมายทั้งปี 2566 ปล่อยสินเชื่อเพิ่มอีก 600-800 ล้านบาท สนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปีจะเพิ่มเป็นกว่า 1,000 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ที่ 600 ล้านบาท

16 พฤษภาคม 2566

ผู้ชม 230 ครั้ง

Engine by shopup.com