สถิติ

66630056

THRE รับกำไรขายหุ้น BVG192ล.  

   THRE รับกำไรขายหุ้น BVG192ล.

   อัพเป้ารายได้ใหม่ปี 66 โต 15-17%

                  

   THRE รับกำไรขายหุ้นไอพีโอ BVG บริษัทลูกเข้าตลาด mai 192 ล้านบาท อัพเป้ารายได้ใหม่ ปี 66 โต 15-17% จากเดิมตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 10%

   อานิสงส์ประกันภัยต่อขยายตัว และปัจจัย Hard market ปรับค่าเบี้ยสูงขึ้น ส่องแนวโน้มไตรมาส 2/66 ดี ชูกลยุทธ์การตลาด Conventional Reinsurance พร้อมลุยตลาดอาเซียน เพิ่มโอกาสขยายธุรกิจ

   นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) (THRE) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการนำบริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG บริษัทย่อยของ THRE เข้าตลาด mai แล้ว ทำให้ THRE มีกำไรจากการขายหุ้นสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายจากการขายหุ้นจำนวน 192 ล้านบาท 

   ทั้งนี้เชื่อว่าต่อจากนี้ BVG จะเป็นส่วนเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจภายใต้เครือ THRE เนื่องด้วย BVG เป็นหนึ่งในผู้นำด้านบริการเคลมของธุรกิจประกันภัยรถยนต์และสุขภาพ มีลูกค้าและเครือข่ายคู่ค้าประกันภัยที่มั่นคง มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 40%

   โดย BVG มีแผนนำเทคโนโลยี AI มาพลิกโฉมอุตสาหกรรมประกันเข้าสู่อินชัวร์เทคอย่างเต็มรูปแบบ และวางแผนขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนสู่ความยั่งยืนต่อไป

   ขณะที่ทิศทางตลาดประกันภัยต่อหลังโควิดบริษัทปรับขึ้นราคาเบี้ยไม่ต่ำกว่า 25-30% ตามตลาดต่างประเทศ ทำให้ปีนี้ต้นทุนบริษัทประกันภัยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การปรับราคาเบี้ยเป็นประโยชน์ต่อผู้รับประกันภัยต่อ และไม่กระทบลูกค้ารายย่อย

   ทั้งนี้บริษัทปรับเป้าหมายเติบโตเบี้ยประกันภัยต่อรับปี 66 ขึ้นเป็นเติบโต 15-17% จากเดิมตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 65 ที่มีเบี้ยราว 4,200 ล้านบาท จากแนวโน้มค่าเบี้ยประกันภัยต่อสูงขึ้น ประกอบกับบริษัทมีรายได้จากเงินลงทุนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

   รวมถึงจากเงินปันผลของการลงทุน อีกทั้งมีรายได้จากการให้บริการของกลุ่มบริษัทย่อยที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีรายได้ใหม่จากธุรกิจ AI โดยคาดว่าจะสามารถเติบโตสูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

   ขณะที่สัดส่วนรายได้จากเบี้ยประกันต่อรับของบริษัท แบ่งเป็น อุบัติเหตุและสุขภาพ 42% กลุ่มรถยนต์ 28% อสังหาริมทรัพย์ 17% ขนส่งสินค้าต่างประเทศ 2% และประกัน​ภัยประเภทอื่น​ 11%      

   โดยกลยุทธ์การตลาดในปี 66 บริษัทมุ่งเน้น Conventional Reinsurance มากขึ้น จากภาวะตลาด Hard market ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ THRE เติบโตในการทำกำไรได้ดีขึ้น โดยสัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อรับประเภท Conventional Reinsurance มีมากกว่า 55% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 45% ในปี 2564

   นอกจากนี้บริษัทวางแผนเชิงรุกเข้าไปขยายงานรับประกันภัยต่อที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบอาเซียน CLMV ทั้งกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ อีกทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่ THRE มองว่ามีศักยภาพที่สามารถขยายธุรกิจได้ในอนาคต

   “บริษัทมีกำไรจากการขายหุ้น  BVG สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายจากการขายหุ้นเป็นจำนวน 192 ล้านบาท ซึ่งแสดงเฉพาะในงบการเงินเฉพาะกิจการ ในส่วนของงบการเงินรวมได้ถูกนำไปแสดงในส่วนของผู้ถือหุ้น     

   ส่งผลให้งบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวมต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยไตรมาส 1/66 งบการเงินเฉพาะกิจการ กำไรสุทธิอยู่ที่ 148 ล้านบาท และงบการเงินรวม กำไรสุทธิอยู่ที่ 11 ล้านบาท” นายโอฬาร กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ด้านผลประกอบการไตรมาส 1/66 มีเบี้ยประกันภัยต่อรับ 1,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเบี้ยประกันภัยต่อรับ 1,024 ล้านบาท และพลิกมามีกำไรสุทธิ 11 ล้านบาท คิดเป็นเติบโต 106% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 184 ล้านบาท  

   ส่วนแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/66 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/66 เนื่องจากบริษัทตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญไว้เรียบร้อยแล้ว ประกอบกับบริษัทมีรายได้จากธุรกิจอื่นๆ ยังเติบโตได้ดี

   ตามการเติบโตของธุรกิจ Non-Conventional หรืองานบริการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับพันธมิตร ทั้งธุรกิจเทรนนิ่ง และบริการใหม่ด้วยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligent)

13 พฤษภาคม 2566

ผู้ชม 615 ครั้ง

Engine by shopup.com