สถิติ

70561855

BKI ทุ่ม 700 ลบ. ลงทุนเทคโนโลยีตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล  

หมวดหมู่: ประกันภัย

   BKI ทุ่ม 700 ลบ. ลงทุนเทคโนโลยีตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล

   ยกเครื่อง!บริการครบวงจร-ผนึก!สตาร์ทอัป-ป้องกันภัยไซเบอร์

  

   ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า จากการที่ กรุงเทพประกันภัย ได้กำหนดแผนการดำเนินงานปี 2566 “Year of Resilience towards Sustainable Growth” ปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 30,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 12.5

   พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในทุกมิติด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่าง นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้มากกว่าและพิเศษยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

   ดังนั้นในปี 2566 นี้บริษัทจึงได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยีรวมถึงสตาร์ทอัปเพื่อยกระดับการบริการลูกค้าในยุคดิจิทัลมากขึ้น โดยใช้งบประมาณในการลงทุนทางด้านนี้อย่างครบวงจรทั้งระบบกว่า 700 ล้านบาท ที่สำคัญได้แก่

  • API Platform เชื่อมต่อกับ Partners

   โดยบริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ พัฒนาปรับปรุงระบบ Web Partner สำหรับตัวแทน เพื่อขยายช่องทางการประกันภัยไปสู่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมขยายธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ด้วยการเชื่อมต่อเทคโนโลยี API ผ่านระบบ BKI Digital Platform ให้มากยิ่งขึ้น

   ประกอบกับในปัจจุบัน “กลุ่มสตาร์ทอัป” (Startup) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจประกันภัยมากขึ้น ทั้งในส่วนการขายกรมธรรม์และบริการที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย

   บริษัทจึงมีแผนที่จะสนับสนุนสตาร์ทอัปให้เป็นช่องทางใหม่ที่ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ กรุงเทพประกันภัย ได้ทางดิจิทัล พร้อมเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและคู่ค้าต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับระบบประกันภัยเพื่อนำเสนอประกันภัยให้แก่ลูกค้าได้ทันที

   ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ถูกออกแบบให้ครอบคลุมประกันภัยประเภทต่างๆ เช่น บริษัทส่งพัสดุที่ให้บริการประกันภัยขนส่งสินค้าแบบรายเที่ยว, บริษัททัวร์ต่างประเทศ

   ที่ให้บริการประกันภัยท่องเที่ยวแก่ลูกค้า และบริษัทให้บริการรถเช่าในการประกันภัยรถยนต์ให้แก่ผู้เช่า เป็นต้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงประกันภัยได้ง่ายยิ่งขึ้น 

  • Cloud Claims Contact Center

   ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาบริการและเพิ่มขีดความสามารถให้รองรับและดูแลลูกค้าให้หลากหลายและครอบคลุมทุกบริการมากยิ่งขึ้น บริษัทจึงมีแผนดำเนินงานเพื่อยกระดับคุณภาพงานด้านสินไหมรถยนต์

   โดยใช้เทคโนโลยี Cloud Contact Center เข้ามาช่วย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ สามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบออนไลน์ เพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณงานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

  • บริการ Self Service Notification สำหรับการเคลมประกันภัยรถยนต์

   ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่นิยมทำธุรกรรมต่างๆ ให้ครบจบทีเดียวบนโลกออนไลน์ ประกอบกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงานสินไหมทดแทนให้มีประสิทธิภาพ

   เพื่อนำเสนอเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า ให้สามารถเลือกได้ทั้งการเเจ้งอุบัติเหตุ เหตุฉุกเฉินเเละเเจ้งเคลมประกันภัย แบบ Self Service ด้วยตนเอง หรือเลือกติดต่อแจ้งอุบัติเหตุกับเจ้าหน้าที่ Call Center โดยตรงได้ทันที ตามความสะดวกใจของลูกค้า

   สำหรับระบบ Self Service ดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าของ กรุงเทพประกันภัย ที่เกิดเหตุฉุกเฉินและต้องการแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ เพียงกดสายด่วนกรุงเทพประกันภัย 1620 และเลือกช่องทางแจ้งเคลมอุบัติเหตุด้วยตนเอง

   จากนั้นระบบจะส่ง SMS เพื่อให้ลูกค้ากรอกข้อมูลเบื้องต้น เช่น เลขที่กรมธรรม์ ทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น โดยจะมีการประมวลผลและส่งพิกัดจุดเกิดเหตุ เข้าระบบ e-Surveyor เพื่อออกเลขเคลมโดยอัตโนมัติ และจ่ายงานให้เจ้าหน้าที่สำรวจภัยออกไปบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ

   พร้อมพัฒนาระบบ Location Tracking ให้ลูกค้ามองเห็นความเคลื่อนไหวของทีมเจ้าหน้าที่สำรวจภัยได้เเบบ Real-Time ซึ่งลูกค้าไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมใดๆ

มุ่งยกระดับด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ต่อยอดการเป็น

Data-Driven Organization ด้วยระบบความปลอดภัยสูงสุด

   กรุงเทพประกันภัยมุ่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการประกันภัยที่ทันสมัยและมีคุณภาพ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุกสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลอย่างไร้ขีดจำกัด 

  • ต่อยอด Data-Driven Organization

   บริษัทให้ความสำคัญกับการเป็น Data-Driven Organization ที่ใช้ฐานข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า โดยเน้นให้ผู้บริหารและพนักงานนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจทั้งในงานด้านการรับประกันภัย สินไหมทดแทน

   และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป้าหมายเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เช่น การออกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคนด้วยการคาดการณ์ความต้องการลูกค้า และนำเสนอสิ่งที่ใกล้เคียงกับความต้องการลูกค้ามากที่สุด

   ซึ่งปัจจุบันบริษัทกำลังสร้างฐานข้อมูลใหม่แบบองค์รวมบน High-End Technology เพื่อให้มีข้อมูลสำหรับใช้ในการวิเคราะห์อย่างละเอียดครบถ้วนทุกมิติ โดยได้นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนหลายด้าน เช่น Self Service BI Visualization (Information on Demand)

   และยังมี Customer Data Platform (CDP) ที่เชื่อมต่อกับระบบเว็บไซต์ เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์รวบรวมข้อมูลภายในองค์กร ส่งต่อไปสู่การคิดแคมเปญส่งเสริมการขายแบบ Personalized Marketing 

  • สร้างความเชื่อมั่นด้วยระบบ Cyber Security ที่เเข็งแกร่ง

   จากภัยคุกคามและการโจมตีต่างๆ ทางไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้การเฝ้าระวังเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีมาตรฐาน บริษัทมีแผนจะเพิ่มระดับการป้องกันความปลอดภัยผ่านการติดตั้ง Endpoint Detection and Response (EDR)

   ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการตรวจสอบและตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัยที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบ Real-Time พร้อมเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอื่นๆ อย่าง Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

   นอกจากนี้บริษัทได้จัดจ้างศูนย์เฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ Security Operation Center (SOC) ซึ่งหากมีเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัย (Security Incident) เกิดขึ้น

   เช่น เหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหล ระบบถูกบุกรุก หรืออื่นๆ ทางทีมผู้เชี่ยวชาญของ SOC จะมีการแจ้งเตือน พร้อมให้คำแนะนำในการแก้ไขเพื่อลดความเสี่ยง ผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

   นับเป็นการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมเฝ้าระวังและปกป้องข้อมูลของลูกค้าทุกคนอย่างเต็มความสามารถ โดยบริษัทได้ลงทุนทางด้าน Cyber Security อย่างเต็มที่ เพื่อการบริหารจัดการด้านความเสี่ยง

   การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ และมุ่งมั่นดูแลความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ป้องกันการโจรกรรมข้อมูล
   การรั่วไหลของข้อมูล รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล 
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

มุ่งสู่ธุรกิจประกันภัยอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

  บริษัทตั้งเป้าหมายเป็นบริษัทประกันภัยที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างความสมดุลด้วยการมีเสถียรภาพและความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม

   ดูแลใส่ใจครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มผ่านการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนงานด้านการรับประกันภัย และงานสินไหมทดแทนที่เน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์อย่างรอบด้าน พัฒนาการทำงานอย่างมีคุณภาพเคียงคู่กับคุณธรรม

   และให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พนักงาน ดูแลทั้งสุขภาพกายและใจ เพื่อให้ทำงานอย่างมีความสุข มั่นคง และปลอดภัย พร้อมเปิดพื้นที่ความสร้างสรรค์

   เพิ่มทักษะต่างๆ ให้ทันโลกยุคใหม่ และสนับสนุนกิจกรรมทางสังคม เพื่อช่วยเหลือและดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ

   ช่วงเวลาแห่ง Year of Resilience สะท้อนกลับไปสู่เป้าหมายที่ไกลกว่า นับเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญของกรุงเทพประกันภัยที่จะเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรเเละดูแลสังคมตามปรัชญาการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาลที่ยึดมั่นมายาวนานกว่า 7 ทศวรรษ

26 มีนาคม 2566

ผู้ชม 866 ครั้ง

Engine by shopup.com