อาร์เอส กรุ๊ป" ปักธง! 3 ปี ดันมาร์เก็ต แคปแตะ 100,000 ล้านบาท
อาร์เอส กรุ๊ป" ปักธง! 3 ปี ดันมาร์เก็ต แคปแตะ 100,000 ล้านบาท
"อาร์เอส กรุ๊ป" ปักธง! 3 ปี ดันมาร์เก็ต แคปแตะ 100,000 ล้านบาท
ยกเครื่อง!องค์กร-Spin-Offบริษัทเข้าเทรด-ฟื้นชีพ!ธุรกิจเพลงปั้นกำไร
บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป ประกาศก้าวสู่ความท้าทายใหม่ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่แบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจหลัก
ตั้งเป้า 3 ปี ผลักดันบริษํทในเครือ 5 กลุ่มธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยฯ ดันมาร์เก็ต แคป กลุ่มอาร์เอสแตะ 100,000 ล้านบาท ด้วยเป้าหมายเติบโตปีละ 30-40%
โดยตั้งเป้าเป็น "Life Enriching" ที่ไม่ใช่แค่การเติมเต็มความสุขและความต้องการของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น แต่จะ “ยกระดับในทุกมิติการใช้ชีวิต” ของลูกค้า
พร้อมเปิดแผนกลับมารุกกลุ่มธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์กลับมาปัดฝุ่น!ธุรกิจเพลงอีกครั้งทั้งศิลปินเก่าและใหม่ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ในรอบ 10 กว่าปี
ด้วยการร่วมทุนกับพันธมิตรรับยุคดิจิทัลที่ต้นทุนลดลงส่งผลให้กำไรธุรกิจเพลงมีกว่า 30-40% คาดอีก 3 ปีสามารถกลับมาสร้างรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาทได้เหมือนยุคก่อนลดน้ำหนักธุรกิจและขาดทุนจากธุรกิจ
พร้อมปั้นธุรกิจน้องใหม่ RS Pet All รับเทรนด์ Petconomy ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ส่วน ULife ชง 2 โมเดลธุรกิจใหม่ พร้อมสรรหาพันธมิตรใหม่ใน RS Mall ในขณะที่ช่อง 8 ชูธง! ภูธร มาร์เก็ตติ้ง
พร้อมตั้งสายงานใหม่ MSM หรือ Media Sales & Marketing กางแผนควบรวมกิจการอีก 2-3 ดีล ไซส์ 300-600 ล้านบาท ซึ่งจะผลักดันรายได้ปี 2566 สู่เป้าหมาย 5,500 ล้านบาท
คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผ่านมา 3 ปีแล้วที่ อาร์เอส กรุ๊ป ประกาศรีแบรนด์ และสามารถทรานฟอร์มองค์กร ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ได้สำเร็จ จนเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำที่ได้รับการยกย่องให้เป็นกรณีศึกษาในการทรานฟอร์มธุรกิจ
ถึงแม้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ทั้งโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ แต่อาร์เอส กรุ๊ป ก็ปรับตัวอย่างรวดเร็วและมองหาโอกาสในวิกฤติอยู่เสมอ จนสามารถยืนหยัดพาองค์กรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับความท้าทายในปีนี้ อาร์ เอส กรุ๊ป ได้ตั้งเป้าเป็น "Life Enriching" มุ่งมั่นในการยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ พร้อมจัดโครงสร้างองค์กรใหม่โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจ
เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งในแนวตั้ง และจะขยายธุรกิจใหม่ๆ ในแนวราบ นับเป็นการสร้างอีโคซิสเต็มของ อาร์เอส กรุ๊ป ให้เติบโตยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
และเตรียมความพร้อมของ อาร์เอส กรุ๊ป เพื่อ Spin-Off บริษัทในเครือเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์รวม 5 ธุรกิจ ยกเว้นธุรกิจ R Alliance ที่จะโฟกัสเรื่องการลงทุน
ทั้งนี้เพื่อทำให้มาร์เก็ต แคป ของ อาร์เอส กรุ๊ป สูงขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะสามารถเติบโตได้ปีละ 30-40% จากที่เมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้กลุ่มอาร์ เอส มี มาร์เก็ต แคป ที่ 30,000 ล้านบาท
สำหรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ของ อาร์เอส กรุ๊ป แบ่งได้เป็น 6 กลุ่มหลัก ดังนี้
- RS Multimedia ซึ่งประกอบด้วย ช่อง 8 และ COOLfahrenheit
- RS Music ซึ่งประกอบด้วยค่ายเพลง RSIAM, kamikaze, RoseSound และบริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล
- RS LiveWell ซึ่งประกอบด้วย RS Mall และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ well u, Vitanature+, Lifemate และ Camu C
- RS Connect ซึ่งประกอบด้วย ULife และ De Beste
- RS Pet All ธุรกิจใหม่ที่ประกอบธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยง
- R Alliance ดูแลด้านการลงทุน ตามกลยุทธ์ M&A และ JV โดยเตรียมนำ CHASE เข้า IPO ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเข้าจดทะเบียนได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2566 นี้
คุณสุรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2566 นี้ กลุ่มอาร์ เอส จะกลับมารุกธุรกิจเพลง หรือ RS Music อีกครั้ง ทั้งศิลปินเดิมที่มีอยู่และศิลปินใหม่ควบคู่กันไป หลังจากที่ได้ลดบทบาททางธุรกิจนี้ไปมากกว่า 10 ปีและมีการขาดทุนมาจากธุรกิจนี้กว่า 5 ปี ในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยจะมีโมเดลใหม่ที่เป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้เพราะปัจจุบันมองเห็นโอกาสเนื่องจากเป็นยุคดิจิทัลที่ธุรกิจเพลงไม่มีต้นทุนในเรื่องซีดีเหมือนก่อนหน้านี้จึงเป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้กว่า 30-40% ดังนั้นหลังการปรับตัวและกลับมารุกธุรกิจเพลงอีกครั้งคาดวาในอีก 3 ปีจะสามารถกลับมาสร้างรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาทได้อีกครั้ง
ด้าน คุณวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน เปิดเผยว่า สำหรับไฮไลท์ในปี 2565 ที่ผ่านมา อาร์เอส กรุ๊ป สามารถสร้างผลงานเป็นที่โดดเด่น ทั้งการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ หรือ ยูไลฟ์ (ULife) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจขายตรงของยูนิลีเวอร์ Popcoin
ประกาศลิสต์เข้าสู่กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของโลกอย่าง XT.COM ขณะที่แบรนด์ Lifemate สามารถขยายความหลากหลายของอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสัตว์เลี้ยงได้มากถึง 81 SKUs และเพิ่มเครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศเกือบกว่า 600 แห่ง
ทั้งนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
และยังจัดตั้งบริษัท เพ็ท ออล จำกัด เพื่อลงทุนในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง (Petconomy) ผ่านการสร้างธุรกิจสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ Ecosystem ของอาร์เอส กรุ๊ป ขยายตัวกว้างขึ้น และสามารถดึงศักยภาพของแต่ละธุรกิจมาสนับสนุนซึ่งกันและกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนในปี 2566 นี้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังคงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยโมเดล Entertainmerce ที่แข็งแกร่ง พร้อมมุ่งสู่การเป็น Life Enriching โดยโฟกัสที่การเจาะตลาด Mass และเพิ่ม Accessibility การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นด้วยช่องทางการจำหน่ายและพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย
ซึ่งคาดว่าจะผลักดันรายได้ปี 2566 ให้ไปสู่เป้าหมายที่ 5,500 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจคอมเมิร์ซ 3,100 ล้านบาท และธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ 2,400 ล้านบาท
สำหรับความเคลื่อนไหวของธุรกิจคอมเมิร์ซในเครืออาร์เอส กรุ๊ป ปี 2566 มีความน่าสนใจ ดังนี้
บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด
- แบรนด์ well u และ Vitanature+ ปีนี้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 19 SKUs ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว
- แบรนด์ Lifemate ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 22 SKUs ในหมวดอาหารกลุ่ม Specialty Food, สแน็คสำหรับสุนัขและแมว และผลิตภัณฑ์ดูแลทำความสะอาด นอกจากนี้ยังเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายไปยัง Modern Trade และตลาดต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้สินค้าบางส่วนในเครือ อาร์เอส ลิฟเวลล์ ยังได้จับมือพันธมิตร เพื่อขยายช่องทางไปสู่ Specialty Store และ Duty Free เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย
ในขณะที่ RS Mall แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามก็จับมือกับพันธมิตรหลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ สถาบันการเงิน โรงพยาบาล คลินิก และบริษัทประกันชั้นนำ เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ รวมไปถึงการสร้างระบบ CRM ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
บริษัท อาร์เอส คอนเน็ค จำกัด ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจและเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ ได้แก่
- "ULife" ธุรกิจขายตรงยุคใหม่ที่แตกไลน์โมเดลธุรกิจเพิ่ม โดยแบ่งเป็น "ปิ่นโต" ธุรกิจโมเดลใหม่สำหรับจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพแบบ Subscription และโมเดลธุรกิจ "PROMPT" เพื่อจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มพันธมิตรที่น่าสนใจผ่านช่องทางออนไลน์
- De Beste (เดอร์ เบสส์เต) ผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับชาวเอเชีย เน้นการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์-โซเชียลคอมเมิร์ซ และเปิดระบบตัวแทนออนไลน์ (Online Marketing)
โดยในปีนี้ ULife ยังวางแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 4 SKUs ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและความงาม ภายใต้แบรนด์ aviance และ beyonde ส่วน De Beste ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 SKUs ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ในหมวดสบู่ ผลิตภัณฑ์กันแดด และผลิตภัณฑ์บิวตี้ดีท็อกซ์
นอกจากนี้ ULife ยังได้สร้าง ULife space คอมมูนิตี้สำหรับ Business Partners และตั้ง R&D Creation Center ที่มีพันธมิตรเป็นสถาบันวิจัยและ Supplier ชั้นนำกว่า 100 แห่งทั่วโลก
บริษัท อาร์เอส เพ็ท ออล จำกัด เป็นธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่ประกอบด้วยโรงงานผลิตอาหารสัตว์ รีเทลสัตว์เลี้ยง สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงธุรกิจเวลเนสสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย
ในขณะที่ความเคลื่อนไหวของธุรกิจธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในเครืออาร์เอส กรุ๊ป ปี 2566 ก็เน้นที่การสร้างบิ๊กอิมแพ็คโดยจะมีทั้งโมเดลธุรกิจเพลงที่แตกต่างไม่เหมือนใคร
รวมถึงนำเสนอคอนเทนต์และประสบการณ์ทั้งออนไลน์-ออนกราวด์ ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ครบทุกกลุ่ม ทั้ง Gen X, Gen Y และ Gen Z รวมไปถึงการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการหาพาร์ทเนอร์ และการทำ M&A โดยแบ่งความน่าสนใจตามธุรกิจได้ดังนี้
บริษัท อาร์เอส มัลติมีเดีย จำกัด
- ช่อง 8 จัดเต็มแบบครบเครื่อง เข้มข้น โดยโฟกัสที่การตลาดรูปแบบ “ภูธรมาร์เก็ตติ้ง” ในขณะที่คอนเทนต์ต่างๆ อาทิ ละคร จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ครบรสยิ่งขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ “ช่อง 8 สุดทุกจอ” กับคอนเซปต์ “ละครช่อง 8 ดูก่อนใคร สนุกก่อนใคร” จัดหนักขนทัพนักแสดงชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และเหล่าคนดังในโลกออนไลน์มากมาย มามอบความสุขสนุกถึงหน้าจอทั้งไทยและเอเชียน นอกจากนี้ ยังตอกย้ำการเป็น King of Fighting Sports ด้วย 4 รายการมวยเด็ด และคอนเทนต์ออนไลน์มากมาย ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม และสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ผ่านผู้ให้บริการ OTT ที่หลากหลาย ทั้ง iQIYI, Viu, WeTV, AIS PLAY, POPS.TV และ TrueID
- COOLfahrenheit คลื่นวิทยุที่มีผู้ฟังสูงสุดมาอย่างยาวนาน จะเพิ่มคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมมุ่งเน้นรักษาฐานผู้ฟัง โดยผู้ฟังสามารถเข้าถึง COOLfahrenheit ได้หลากหลายช่องทางทั้งคลื่น FM 93, แอปพลิเคชัน COOLISM และผ่านสตรีมมิง เช่น Joox, Siri, Apple Music, Google Home และ Google Assistant นอกจากนี้ ยังมีด้วยกิจกรรมโดนใจ อาทิ COOL Outing และ อิ๊งค์ Eat All Around ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับการต้อนรับมาด้วยดีมาโดยตลอด ด้าน COOLive วางแผนจัด 4 คอนเสิร์ตใหญ่ ได้แก่ RS HITS JOURNEY 2023, D2B 22nd Anniversary Concert 2023, kamikaze party reunion และ RS MEETING HITS MARATHON CONCERT 2023 และ 4 เฟสติวัล ได้แก่ COOL Summer Fest, COOL Rainy Fest, COOL URBAN Fest และ COOL Winter Fest ตลอดทั้งปี
RS Music (อาร์เอส มิวสิค) เรียกว่าเป็นปีที่น่าจับตา เพราะ อาร์เอส จะกลับมาลุยธุรกิจเพลงอีกครั้ง และเชื่อว่าการกลับมาครั้งนี้ถูกที่ถูกเวลา ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน พาร์เนอร์ใหม่ที่แข็งแกร่ง และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง
ภายใต้ 3 ค่ายเพลง RSIAM, kamikaze และ RoseSound ด้วยโปรเจกต์ RS Homecoming และ RS Newcomers เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงในเร็วๆ นี้
ขณะที่ โฟร์ท แอปเปิ้ล พร้อมลุยโปรเจกต์ VIBE VERSE โดยแบ่งกิจกรรมใหญ่ออกเป็น "VIBE HOUSE" เวทีออดิชันคัดเลือกศิลปิน T-Pop เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้าสู่วงการ
และ "VIBE SQUARE" เป็นโชว์เคสพิเศษจากศิลปินไทยที่มีคอนเซปต์แตกต่างจากการจัดโชว์แสดงดนตรีทั่วไป เน้นการโรดโชว์ไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ชายหาดริมทะเล และสวนสาธารณะ เป็นต้น เพื่อให้แฟนคลับได้รับประสบการณ์สุดพิเศษร่วมกับศิลปินที่ชื่นชอบ
ธุรกิจด้านการลงทุน บริษัท อาร์ อัลไลแอนซ์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นใน เชฎฐ์ เอเชีย บริษัทบริหารหนี้สินครบวงจร ในปีนี้ เชฎฐ์ เอเชีย(CHASE) พร้อมแล้วที่จะ IPO ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 นี้
“ทั้งนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังเพิ่มอีกหนึ่งสายงานขึ้นมาภายใต้ชื่อสายงานการตลาดและขายสื่อโฆษณา (Media sales and Marketing) ดูแลการซื้อสื่อและการทำการตลาดแบบ one stop service ครอบคลุมและเชื่อมโยงสื่อและบันเทิงในทุกธุรกิจของ อาร์เอส กรุ๊ป เข้าไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร
ช่วยให้การซื้อสื่อโฆษณาและการทำการตลาดของลูกค้ามีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด สามารถเข้าถึงตลาด Mass และเพิ่ม Accessibility ได้อย่างครบวงจร
นอกจากนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังคงให้ความสำคัญกับการหาพารท์เนอร์ทางธุรกิจจากการทำ M&A อีก 2-3 ดีล มูลค่าสินทรัพย์แต่ละดีลอยู่ที่ 300-600 ล้านบาท เพื่อต่อยอดโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ซึ่งการปรับโครงสร้างธุรกิจและปรับ กลยุทธ์ให้เข้ากับเป้าหมายใหม่ของบริษัทฯ จะช่วยให้ อาร์เอส กรุ๊ป เติบโตขึ้นทั้งแนวตั้งและแนวราบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าของแต่ละธุรกิจและ Spin-Off ได้อย่างรวดเร็ว” คุณวิทวัส กล่าวปิดท้าย
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ อาร์เอส กรุ๊ป ได้ทาง www.rs.co.th และ https://www.facebook.com/RSGROUPOFFICIAL
18 มกราคม 2566
ผู้ชม 1323 ครั้ง