สถิติ

66385418

LEO โชว์Q3/65 กำไรโต106% ดันออลไทม์ไฮ3ปีซ้อน

   LEO โชว์Q3/65 กำไรโต106% ดันออลไทม์ไฮ3ปีซ้อน

   ลั่น!ปี 66 เติบโตก้าวกระโดดจากกลยุทธ์New JV-M&A

                  

   LEO คำราม! งบไตรมาส 3/65 กำไรเพิ่มขึ้น 106% นิวไฮ 7 ไตรมาสติด ด้วยอานิสงส์ปริมาณการขนส่งทางเรือและทางอากาศพุ่ง บิ๊กบอส “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” มั่นใจจะสามารถสร้างตัวเลขผลประกอบการปี 2565 เป็นออลไทม์ไฮติดต่อกันเป็นปีที่ 3

   เนื่องจากปริมาณตู้สินค้าที่ส่งทางเรือและน้ำหนักของการขนส่งทางอากาศยังเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2565  และบริษัทยังมีความสามารถในการบริหารจัดการเชิงกลยุทธิ์ในการรักษาระดับอัตราการทำกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิได้อย่างดี

   เปิดฉากบุ๊กรายได้ขนส่งสินค้า จีน-ไทย จากพันธมิตร China Post/Tengun และจับมือพันธมิตรใหม่ “เบาไทย อินเด็กซ์ แอสโซซิเอท–ศรีตรังโลจิสติกส์” เสริมความแกร่งขนส่งสินค้าทางรถไฟ จีน-ลาว-ไทย ครบวงจร ดันการขนส่งทางรางปี 2566 สร้างรายได้ขั้นต่ำ 200 ล้านบาท

   นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 107.4 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 106% จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 52.2 ล้านบาท

   และมีรายได้รวม 1,022.9 ล้านบาท ลดลง 6% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีรายได้รวม 1,084.7 ล้านบาท อันเป็นผลจากอัตราค่าระวางเรือทั่วโลกมีการลดลงอย่างต่อเนื่อง

   แต่เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรแบบ End-to-End Global Logistics  และมีรายได้อื่นๆในการให้บริการนอกเหนือจากค่าระวาง  

   อีกทั้งบริษัทยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ทางบริษัทได้รับจากค่าบริหารจัดการและการให้บริการที่ครบวงจรได้อยู่ในระดับที่ดี จึงทำให้บริษัทได้รับผลกระทบที่จำกัดจากการลดลงของค่าระวางในตลาดโลก

   สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 297.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 121.9 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,009.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,118.2 ล้านบาท

   “ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 ทำสถิติกำไรสุทธิสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 7 ได้รับปัจจัยหนุนจากจำนวนตู้สินค้าจากปริมาณการขนส่งทางเรือที่เพิ่มขึ้น

   โดยมีปริมาณตู้สินค้าที่ขนส่งทางเรือในไตรมาส 3/2565 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 104 เมื่อเทียบกับปริมาณตู้สินค้าที่ขนส่งทางเรือในไตรมาส 2/2565 ในขณะที่รายได้จากการขนส่งสินค้าทางอากาศในไตรมาส 3/2565 ก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 107  

   และในรอบระยะเวลา 9 เดือนก็สูงกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 18 จากปัจจัยทั้งสอง และความสามารถในการบริหารจัดการเชิงกลยุทธิ์ที่มีการบริการและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย มีสายเดินเรือและสายการบินที่เป็นพันธมิตรเป็นจำนวนมาก

   และมี Overseas Network ที่อยู่ทั่วโลก ทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับอัตราการทำกำไรขั้นต้นและการทำไรสุทธิของบริษัทได้ในระดับที่ดี จึงทำให้บริษัทสามารถสร้างผลกำไรให้เติบโตได้ถึงแม้ค่าระวางจะลดลงทั่วโลก

   และทำให้อัตราการทำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 20% ขึ้นมาเป็น 23% และอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 7.5%  ขึ้นมาเป็น 10.7% ในไตรมาส 3/2565 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2565  ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของปี  2565 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 บริษัทฯคาดว่าจะยังมีการเติบโตทางด้านปริมาณการขนส่งทั้งทางเรือ อากาศ และจะมีรายได้จากการขนส่งสินค้าทางรถไฟเพิ่มขึ้นด้วย

   และมั่นใจว่าผลประกอบการของปี 2565 จะโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่บริษัทเข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกหนึ่งปัจจัยบวกสำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/2565

   ก็เพราะบริษัทได้เริ่มรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นธุรกิจ Self Storage เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้ลูกค้าในส่วนของ SME บริษัทออร์แกไนซอร์ และกลุ่มลูกค้าที่ซ่อมบ้าน เริ่มกลับมาใช้บริการมากขึ้น และยังมีลูกค้าที่นำเอาของใช้ส่วนตัวมาเก็บเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย 

   อีกทั้งบริษัทได้เปิด LEO Self Storage # Chinatown แฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกของประเทศไทยใจกลางย่านเยาวราช ที่เป็นแหล่งการค้าและที่อยู่อาศัยที่สำคัญ

   และมีพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ซึ่งมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และเริ่มมีการรับรู้รายได้จากสาขาที่ 2 เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ 

   และสำหรับแนวโน้มในปี 2566 บริษัทก็มั่นใจว่าจะเป็นปีที่บริษัทจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ JV และ M&A ใหม่ๆที่เกิดขึ้นในปีนี้และปีหน้าอีกหลายโครงการ 

   โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจ Non-Freight  และ Non Logistics ที่มีอัตรากำรขั้นต้นสูงถึง 30-50% เพื่อมาชดเชยกับอัดตาค่าระวางที่ลดลง  เช่นการเข้าร่วมลงทุนกับ ADVANTIS FREIGHT (PVT) LIMITED

   ซึ่งเป็นบริษัทระดับ Regional Player ในภูมิภาค Asia เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ในการดำเนินธุรกิจ Logistics & Distribution Center, ร่วมลงทุนกับ บริษัท เอสเค แอสเซ็ท แมเนจเม้นท์ จำกัด (SK Asset Management Company Limited.) 

   บริษัทในเครือ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA จัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่เพื่อดำเนินโครงการ Self-Storage แห่งที่ 3 เพื่อให้บริการพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า

   และพัฒนาธุรกิจคลังสินค้าและให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร (Self-Storage, Warehouse & Integrated Logistics Services Project) ต่อยอดในการขยายธุรกิจ Self-Storage และ Warehouse ของบริษัท 

   อีกทั้งยังจะจัดตั้งบริษัทใหม่ร่วมกับ บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT ในการดำเนินธุรกิจศูนย์ให้บริการโลจิสติกส์แบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics Center)

   และให้บริการธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร นอกจากนี้บริษัทยังมีการริเริ่มธุรกิจ Non-Logistics ด้วยการสนับสนุนโครงการเพาะพันธุ์ปลูกขายต้นกล้ากัญชา และพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อการแพทย์

   กับทางวิสาหกิจชุมชนสุขฤทัย เกษตรปลอดภัย ณ หุบป่าตาด อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งจะเริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนของโครงการและรายได้ในปี 2566  

   นอกจากนี้ในปี 2566 บริษัทฯก็จะเปิดดำเนินการ Self Storage แห่งที่ 4 และลานเก็บตู้ Container แห่งที่ 2 ภายในปี 2566 โดยบริษัทคาดว่าธุรกิจใหม่ๆ ทั้งหมดหล่านี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับทางบริษัทได้อย่างน้อยปีละ 200 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า

    และล่าสุด LEO ได้จับมือกับ บริษัท เบาไทย อินเด็กซ์ แอสโซซิเอท จำกัด และ บริษัท  ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด เพื่อมาร่วมผลักดันและส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางราง จากสาธารณรัฐประชาชนจีน (คุนหมิง)-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (เวียงจันทน์)–ประเทศไทย

   โดยร่วมมือในครั้งนี้ บริษัทจะสามารถขยายการให้บริการการขนส่งสินค้าทางรถไฟไปยังประเทศจีนได้มากขึ้น และทำให้ความร่วมมือในการพัฒนาการขนส่งสินค้าทางรถไฟร่วมกับทาง China Post และ Tengjun สามารถบริการได้คลอบคลุมประเทศจีนได้มากขึ้น

   นอกจากนี้บริษัทยังสามารถทำหน้าที่เป็น “One-Stop Service Provider” ให้กับผู้ส่งออกและนำเข้าของไทยในการส่งออกและนำเข้าสินค้ากับประเทศจีน รวมถึงการกระจายสินค้าไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก เนื่องจากบริษัทมีการจัดตั้งบริษัท Leo Sourcing & Supply Chain

   เพื่อทำการส่งสินค้าไปยัง e-Commerce Platform ของทาง China Post และ Tengjun รวมถึง e-Commerce Platform ของอีกหลายๆมณฑลในประเทศจีนที่เป็นพันธมิตรกับทางบริษัทมบริษัทเบาไทฯ  

   รวมถึงการนำเข้าสินค้าจกประเทศจีนมายังประเทศไทย และในที่ประชุมคณะกรรมการฯของบริษัท.ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ก็ได้อนุมัติให้ทางบริษัทจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับทางบริษัท เบาไทยฯ และศรีตรังฯ ในการให้บริการการขนส่งสินค้าทางรถไประหว่างประเทศไทย-ลาว-จีน

   โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการขนส่งสินค้าทางรถไฟในปีหน้าร่วมกับทางพันธมิตรของบริษัทเช่น  China Post/Tengjun เบาไทยฯและศรีไทยฯ ได้อย่างน้อย 200 ล้านบาทในปี 2566

   นอกจากนี้ทางบริษัทก็ยังมีโครงการ JV และ M&A ที่อยู่ในระหว่างการเจรจาและหาข้อสรุปอีก 3-4 โครงการ ซึ่งคิดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ภายในไตรมาส 4/2565 นี้ และบริษัทจะสามารถเริ่มบุ๊ครายได้จากโครงการต่างๆเหล่านี้ได้ภายในไตรมาส 3/2566 เป็นอย่างช้า

   บริษัทจึงเชื่อมั่นว่าปี 2566 จะเป็นปีที่บริษัทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในด้านของธุรกิจและผลประกอบการ และสามารถสร้างผลงานให้เป็นนิวไฮอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่

15 พฤศจิกายน 2565

ผู้ชม 322 ครั้ง

Engine by shopup.com