สถิติ

66716277

"DOD" ควงบริษัทลูก "SH" ลุยธุรกิจสายเขียวเต็มสูบ  

   "DOD" ควงบริษัทลูก "SH" ลุยธุรกิจสายเขียวเต็มสูบ

   ออเดอร์สินค้าเสริมอาหารCBDคึก จ่อผลิตCBDการแพทย์

                   

   บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค “DOD” ควงบริษัทลูก “สยาม เฮอเบิล เทค” (“SH)เดินเกมรุก บุกธุรกิจสายเขียวแบบครบวงจรเต็มสูบ ล่าสุด “DOD” จ่อดีลออเดอร์ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีส่วนผสมCBD ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาสูตรแล้ววกว่า 30-40 SKU มั่นใจดีลดันพร้อมทยอยส่งมอบต้นปี 2566

   ขณะที่“SH”ฟอร์มเด่น หลังคว้าใบอนุญาตในการผลิตยาจากอย. ผงาดขึ้นแท่นบริษัทเอกชนรายแรกที่ผลิต CBD ทางการแพทย์ ภายใต้มาตรฐานPIC/S ซึ่งเป็นมาตรฐานโรงงานผลิตยาตามมาตรฐานสากล

   พร้อมใส่เกียร์รับออเดอร์สกัด CBD เต็มสตรีม ล่าสุดเตรียมผลิตผลิตภัณฑ์ยา สำหรับใช้ทางการแพทย์ที่มีส่วนผสมCBD ให้กลุ่มทางการแพทย์แล้ว สามารถจ่อทยอยส่งมอบส่งท้ายปี  

   นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ “DOD เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศฉบับที่ 439 พ.ศ. 2565 เรื่องผลิตภัณฑ์อาหารที่มีสารสกัดแคนนาบิไดออล เป็นส่วนประกอบ (ฉบับที่ 2)

   มีสาระสำคัญคือเพิ่มเติมรายละเอียดข้อกำหนดกรณีสารสกัด CBD ที่ผสมกับวัตถุอื่น เพื่อช่วยในกระบวนการผลิต หรือเพื่อปรับแต่งคุณสมบัติการละลายน้ำของสารสกัด CBD ให้เหมาะสมต่อการนำไปใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร

   และปรับแก้ไขข้อกำหนดรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและปริมาณสารสกัด CBD สูงสุดที่อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้เหมาะสมมากขึ้นนั้น ถือเป็นโอกาสในเปิดรับออเดอร์ในผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารสกัด CBD เพิ่มมากขึ้น

   โดยล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการวิจัยและร่วมพัฒนาสูตร เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในรูปแบบ ซอฟเจล ชงดื่ม แคปซูล เยลลี่ ให้กับกลุ่มลูกค้าที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯและกลุ่มลูกค้าทั่วไปกว่า 30 ราย หรือประมาณ 30-40 SKU

   ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะทยอยสรุปดีลและทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าได้ ตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เป็นต้นไป บริษัทจึงคาดว่าภายหลังจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมจากสารสกัด CBD

   เริ่มมีการวางจำหน่ายจากกลุ่มลูกค้าแล้ว คาดว่าจะมียอดออเดอร์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้ามาเฉลี่ยที่ประมาณ 15 ล้านบาทต่อเดือน 

   ขณะที่บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด” (“SH) บริษัทย่อยของ “DOD” ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชา พืชกระท่อม และพืชสมุนไพรไทย โดยมีทุนจดทะเบียน 260 ล้านบาทนั้น

   ขณะนี้ “SH” ได้ใบอนุญาตในการผลิตยา ภายใต้มาตรฐาน GMP / Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme (PIC/S)ซึ่งเป็นมาตรฐานโรงงานผลิตยา

   ตามมาตรฐานสากล จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทเอกชนรายแรกที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ CBD ทางการแพทย์ ภายใต้มาตรฐานPIC/S   

   ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นโรงสกัดที่มีความพร้อมด้านการผลิตในทุกๆมิติ และที่สำคัญเป็นโรงสกัดที่ได้มาตรฐานสูง สามารถผลิตยาส่งออกต่างประเทศได้ตามมาตรฐานสากล และยังถือว่าเป็นโรงสกัดที่ได้มาตรฐานสากลเชิงพาณิชย์อย่างถูกกฎหมายเป็นรายแรกของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

   ปัจจุบัน “SH” ได้เริ่มดำเนินการสกัดสาร CBD เพื่อจำหน่ายให้กับหน่วยงานราชการทางการแพทย์ รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการบริษัทเอกชน เพื่อให้ลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวสามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆในขั้นตอนต่อไป

   นายธนิน กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่ผ่านมา “SH” ได้มีการเซ็นบันทึกข้อตกลงร่วมกับ กลุ่มบริษัทในเครือ อย่างบริษัท แปซิฟิค แคนโนเวชั่น จำกัด (Pacific Cannovation) ร่วมถึงโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี เพื่อร่วมกันวิจัย พัฒนา และผลิตยาจากสาร CBD (Cannabidiol) เพื่อการค้า

   โดยมุ่งหวังที่จะยกระดับการดูแลผู้ป่วยต่อไป ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์นโยบายของภาครัฐที่สนับสนุนให้กัญชง-กัญชา เป็นยารักษาในทางการแพทย์และสุขภาพ

   โดยโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี จะเป็นผู้แนะแนวทางในการนำสาร CBD ไปพัฒนาเป็นเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการทางการแพทย์

   สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแรกที่จะมีการผลิต ได้แก่ น้ำมันกัญชาชนิดหยด ใช้สำหรับผู้ป่วยลมชัก, ผู้ป่วยพาร์กินสัน, ผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับ และผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กินอาหารไม่ได้ เป็นต้น

   โดยบริษัทฯจะจำหน่ายให้กับลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลเป็นหลัก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะต้องใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีการเจรจากับกลุ่มแพทย์ เพื่อดึงเข้าสู่ระบบ เก็บข้อมูลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

   ขณะเดียวกันบริษัทฯมีการศึกษาขยายตลาดไปในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดย “SH” คาดว่าจะทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเพื่อจำหน่ายทางการแพทย์ได้ภายในสิ้นปีนี้

   นายธนิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2566 “สยาม เฮอเบิล เทค”(“SH”) จะมีความโดดเด่นมาก เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่สามารถผลิตสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชาได้ทุกประเภท ทั้ง CBD และ THC ประกอบกับโรงงานสกัดได้รับมาตรฐานโรงงานยา

   ซึ่งเป็นรายใหญ่และรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานครบ โดยจะเห็นได้จากปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก ทั้งในกลุ่มผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้กระบวนการผลิตของ “DOD” และกลุ่มผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับทางการแพทย์ ภายใต้กระบวนการผลิต “SH”

   ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ออเดอร์จะเข้ามาอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส1/2566 เป็นต้นไป ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมผลของ “กลุ่มบริษัท DOD” ในปี2566 กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง และที่สำคัญจะผลักดัน “กลุ่มบริษัทDOD” ก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจสายเขียวรายใหญ่ที่ครบวงจร

   และยังเป็นบริษัทเอกชนรายแรกที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ CBD ทางการแพทย์ ภายใต้มาตรฐานPIC/S ซึ่งเป็นมาตรฐานโรงงานผลิตยา ตามมาตรฐานสากล จากสำนักงานอย.

12 พฤศจิกายน 2565

ผู้ชม 106 ครั้ง

Engine by shopup.com