สถิติ

66629228

JWD โชว์แผนขยายการลงทุน    

   JWD โชว์แผนขยายการลงทุน

   ดันรายได้แตะ10,000ล้านบาทปี68

                             

   บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังภาพรวมธุรกิจต้นไตรมาส 3 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ

   ส่งซิกธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ฟื้นตัวชัดเจนหลังได้รับงานจากผู้ผลิต
ยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจท่าเทียบเรือชายฝั่งขนส่งสินค้ามีปริมาณงานเพิ่มขึ้น

   พร้อมโชว์ความคืบหน้าขยายธุรกิจภายใต้แผนยุทธศาสตร์ทำรายได้แตะ 10,000 ล้านบาทภายในปี 2568 เป็นไปตามแผน และตอกย้ำแนวคิดการดำเนินธุรกิจภายใต้ DNAThink Everything Logistics”   

   นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า มีความมั่นใจว่าบริษัทจะทำผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปีนี้เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

   โดยภาพรวมการดำเนินงานเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาถึงปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับไตรมาส 2

   เนื่องจากได้รับงานให้บริการโลจิสติกส์แก่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ส่งผลดีต่อรายได้และกำไรขั้นต้นของธุรกิจดังกล่าว ส่วนธุรกิจบริหารท่าเทียบเรือชายฝั่งขนส่งสินค้า (Barge Terminal) สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่และมีปริมาณงานเฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่าครึ่งปีแรก หลังจากปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องจักรแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

   ส่วนธุรกิจคลังสินค้า ได้แก่ คลังสินค้าทั่วไปภายในพื้นที่เขตปลอดอาการท่าเรือแหลมฉบัง ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม และคลังสินค้าอันตรายคาดว่าจะมีรายได้สูงกว่าครึ่งปีแรกของปีนี้

   ขณะเดียวกันได้บริษัทยังรับรู้รายได้จากคลังสินค้าห้องเย็นแห่งใหม่ที่ทยอยเปิดบริการ ได้แก่ คลังสินค้าห้องเย็น PACM ที่ร่วมทุนกับบริษัท เอ็ม เอ็ม พี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พื้นที่รวม 10,800 ตารางเมตร จัดเก็บสินค้าได้ 20,000 พาเล็ต

   ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่เต็มหลังจากเปิดบริการเพียง 3-4 เดือน และคลังสินค้าห้องเย็น PACS จังหวัดสระบุรี ที่เปิดบริการเมื่อวันที่ 8 เดือน ที่ผ่านมา

   มีพื้นที่รวม 8,000 ตารางเมตร จัดเก็บสินค้าได้กว่า 11,000 พาเล็ต โดยติดตั้งระบบ Automated Storage & Retrieval System (ASRS) ในการจัดเก็บและบริหารสินค้า ช่วยลดการเพิ่มแรงงาน

   ส่วนธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า (Self-Storage) อยู่ระหว่างวางแผนขยายการลงทุนร่วมกับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ และ Fuze Post (ฟิ้วซ์ โพสต์) ธุรกิจให้บริการขนส่งด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิที่บริษัท ร่วมทุนกับไปรษณีย์ไทยและแฟลช เอ็กซ์เพรส คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

   นอกจากนี้ธุรกิจในต่างประเทศ เช่น ธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในประเทศไต้หวันสามารถทำกำไรในปีนี้อย่างต่อเนื่อง, ธุรกิจในกัมพูชาคาดว่าจะรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เป็นต้น

   ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาธุรกิจ คาดว่ามีโอกาสจะปิดดีลได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ พร้อมกันนี้ได้วางแผนรับมือผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยจะลงทุนรถขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิงจากพลังงานไฟฟ้าเฟสแรก 10 คัน

   อย่างไรก็ตามบริษัทมีเงื่อนไขปรับขึ้นค่าขนส่งกับคู่ค้าในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดสูงขึ้น ส่วนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากปัจจุบันบริษัทจ่ายค่าจ้างสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอัตราใหม่ จึงมั่นใจว่าจะทำรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15% จากปีก่อนได้ตามเป้าหมาย

   ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า แผนขยายธุรกิจภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (ปี 2564-2568) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตกว่าเท่าตัว

   และเพิ่มอัตรากำไรสุทธิเป็น 15% ปัจจุบันมีความคืบหน้าตามแผนงานที่วางไว้ภายใต้ 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1) การเข้าซื้อกิจการและขยายธุรกิจขนส่งสินค้า

   เพื่อก้าวเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบ Multimodal Transportation หรือการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบ เช่น การเข้าซื้อกิจการบริษัทวีเอ็นเอส ทรานสปอร์ต จำกัด (VNS) ในปีที่ผ่านมา

   (2) การขยายธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในจังหวัดที่มีศักยภาพ (3) การขยายธุรกิจต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นประเทศเวียดนาม กัมพูชาและอินโดนีเซีย ที่มีศักยภาพเติบโตสูง

   (4) การขยายธุรกิจแบบ B2C (Business to Customer) ได้แก่ ธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า, ธุรกิจ Order Fulfillment (การจัดการคลังสินค้าออนไลน์)

   เพื่อตอบสนองการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซ และการขยายธุรกิจ Last mile Delivery เพื่อให้บริการจัดส่งสินค้าจากคลังสินค้าไปถึงผู้รับปลายทาง

   และ (5) การขยายธุรกิจผ่านการร่วมทุน ได้แก่ การร่วมทุนกับ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น” เพื่อขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมแบบครบวงจร

   ปัจจุบันได้ร่วมกันพัฒนาคลังสินค้าห้องเย็นและคลังสินค้าทั่วไปที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิในย่านบางนา กม.22 และวางแผนขยายการลงทุนโครงการใหม่อีก 2 แห่งในย่านบางนา กม.19 และรังสิต

   ทั้งนี้มองว่าในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนจะแข่งขันกันที่ความหลากหลายของการให้บริการและความสามารถในการควบคุมต้นทุน ดังนั้นบริษัทจะขยายธุรกิจและการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับ JWD เป็น “Smart Green Logistics

   เช่น การลงทุนระบบโรโบติกส์ในธุรกิจคลังสินค้าและคลังสินค้าห้องเย็นเพื่อลดการเพิ่มแรงงานใหม่, การลงทุนด้านไอทีโซลูชั่นเพื่อจัดการข้อมูลระบบซัพพลายเชน, การลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

   “จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงศักยภาพการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับปัจจัยต่างๆ และการพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลาและบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

   โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นเทรนด์การเติบโต กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆ สอดคล้องกับ DNA ของบริษัทฯ ‘Think Everything Logistics’ ที่สื่อความหมายว่าทุกลมหายใจของพนักงานคือโลจิสติกส์ ภายใต้สโลแกนใหม่ เพราะโลจิสติกส์ไม่ใช่แค่คิด แต่มันคือชีวิตของเรา” นายชวนินทร์ กล่าวสรุป

01 ตุลาคม 2565

ผู้ชม 425 ครั้ง

Engine by shopup.com