สถิติ

74042525

"ไทยวา"กางแผนปี65 ปั้นรายได้แตะ10,000ล้านบาท  

   "ไทยวา"กางแผนปี65 ปั้นรายได้แตะ10,000ล้านบาท

   ทุ่มงบ2,000ลบ.-รุกไบโอพลาสติก/M&Aโตปีละ2หลัก

 

   บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC หนึ่งในบริษัทแป้งมัน และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทางด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ประกาศความสำเร็จในปี 2564 ด้วยยอดขายกว่า 9,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากปี 2563 ซึ่งมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกตลาด
   โดยในปี
2565 บริษัทตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องด้วยเลขสองหลัก รวมถึงมีอีบิทด้า (EBITDA) เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 จาก 571 ล้านบาทเป็น 969 ล้านบาท ส่งผลให้คณะกรรมการได้อนุมัติเงินปันผลในอัตรา 0.2159 บาทต่อหุ้น

   รวมมูลค่าทั้งหมด 190 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 จากปี 2563 ซึ่งจะนำเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในอีก 2–3 ปีข้างหน้า

   โดย นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนางอรอนงค์ วิชชุชาญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน 

   นางสาวหทัยกานต์ กมลศิริสกุล Senior Director, Strategy and Farm และนายธนะชาติ เหล่าศิริพงศ์ AVP, Specialty Business 

   ร่วมให้ข้อมูลความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในปี 2564 และทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2565 ด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน ที่โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ห้องบอลรูม ชั้น 10

              

   นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ทุกอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับความท้าทายและต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้ 

   ในส่วนของไทยวาก็เผชิญกับความท้าทายเช่นกัน แต่ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทในปี 2564 ถือว่าแข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับใช้นวัตกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การบริหารการขายและการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

   ส่งผลให้บริษัทมียอดขายรวมอยู่ที่ 9,105 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 4,422 ล้านบาท หรือร้อยละ 49 รายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) 2,910 ล้านบาท หรือร้อยละ 32  และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,767 ล้านบาท หรือร้อยละ 19

   โดยมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศคิดเป็นร้อยละ 83 และรายได้จากต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 17 โดยยังคงมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับลูกค้าทั้งในรูปแบบ B2B และ B2C ทั่วโลก ผ่านแบรนด์ มังกรคู่ กิเลนคู่ และโรส อย่างต่อเนื่อง

   “สำหรับการทำตลาดในต่างประเทศ ปัจจุบันไทยวาได้ทำการส่งออกสินค้าไปแล้วทั่วโลก โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศไทย 9 แห่ง ประเทศเวียดนาม 3 แห่ง

   และยังมีสำนักงานตั้งอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศกัมพูชา และประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป้าหมายของบริษัท คือการก้าวเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 10,000 ล้านบาทในปี 2565

   เนื่องจากในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 บริษัทได้ลงทุนในเรื่องการพัฒนาความสามารถของบุคคลากรในสาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย

   ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งคาดว่าแนวโน้มการส่งออกในปีนี้จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถขยายฐานลูกค้าส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ นอกจากจีนและไต้หวันได้ เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปนายโฮ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

                                            

   ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 จะมุ่งเน้นไปในการขับเคลื่อนธุรกิจที่มีความยั่งยืน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าที่ทางบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ระดับสากล

   นอกจากนี้บริษัทมีการต่อยอดธุรกิจใหม่ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ หรือไบโอพลาสติก ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งผลิตมาจากแป้งมันสำปะหลัง

   และสามารถนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ เช่น ภาชนะบรรจุอาหาร บรรจุภัณฑ์ พลาสติกคลุมดิน ฯลฯ โดยในปีนี้มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่เพิ่มอีก 8-10 รายการ เช่นผลิตภัณฑ์ส่วนผสมที่ปราศจากกลูเตน (gluten free) และโซลูชั่นด้านอาหาร โดยตั้งเป้า 3 ปีมีรายได้ 1,000 ล้านบาท

 

   นอกจากนั้นในปีนี้บริษัทยังมุ่งขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ผ่านไทยวาเวนเจอร์ (Thai Wah Ventures) จุดประสงค์เพื่อลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัป หรือธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เพื่อต่อยอดและพัฒนาสินค้าเกษตร ที่สามารถช่วยเสริมการเติบโตของธุรกิจหลักได้

   ครอบคลุมทั้ง 4 ด้านที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นวัตกรรมด้านฟาร์มและเทคโนโลยีการเกษตร การวิเคราะห์ข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานสำหรับธุรกิจในรูปแบบ B2B พลาสติกชีวภาพและการจัดการของเสียจากกระบวนการผลิต และส่วนผสมในอาหารและเทคโนโลยีการแปรรูปแบบใหม่ๆ

   ซึ่งบริษัทได้เตรียมเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจใหม่ผ่านการควบรวมกิจการ ภายในอีก 2–3 ปีข้างหน้า โดย 1,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนในธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่

   ส่วนอีก 1,000 ล้านบาท เป็นการควบรวมกิจการผ่านไทยวาเวนเจอร์ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เพื่อสร้างการเติบโตปีละ 2 หลักหรือยอดขายโต 10-15% ต่อปี

   ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้ธุรกิจในเครือของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยไทยวาเวนเจอร์ มุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมเกษตรและอาหารสำหรับลูกค้าในรูปแบบ B2B เจ้าแรก

   ที่เชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และในปี 2565 บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังเวียดนาม กัมพูชา และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

 

01 มีนาคม 2565

ผู้ชม 1510 ครั้ง

Engine by shopup.com