CMO ปรับโครงสร้างธุรกิจสู่ EXPERIENCE-TECH CREATOR

   CMO ปรับโครงสร้างธุรกิจสู่ EXPERIENCE-TECH CREATOR

   รุก!M&AดันMarket Capพุ่งหมื่นลบ.-ปี66รายได้TECHแตะ60%

   ซีเอ็มโอ (CMO) ยกเครื่ององค์กรครั้งใหญ่ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 จัดทัพผู้บริหารพร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจขึ้นแท่นผู้นำ "EXPERIENCE-TECH CREATOR” รุก! M&A ก้าวสู่การสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อครอบคลุมทุกโซลูชั่นธุรกิจแห่งอนาคต

   เปิดแผน 5 Elements (5E) พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดด มั่นใจรายได้กว่า 2,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี มาร์เก็ตแค็ปแตะหมื่นล้านบาท ปี 66 พลิกโฉมสู่ TECH COMPANY ดันรายได้ Tech แตะ 60% 

   นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่เข้มแข็งและการปรับตัวที่รวดเร็ว ทำให้ CMO ยังคงมีรายได้หลักหลายร้อยล้านบาท และเคยพุ่งสูงกว่า 1,300 ล้านบาท ในปี 2562 

   เดิมเคยมีรายได้จากการจัดงานกิจกรรมหรือ Event หรือกว่า 1,000 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้ CMO จึงเป็นองค์กรที่มีฐานที่มั่นคง เมื่อเทียบกับธุรกิจเดียวกันในตลาด 

   และจากการเข้ามาของผู้บริหารชุดใหม่ ที่เน้นเติมเต็มธุรกิจเทคโนโลยี พร้อมการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดย CMO ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี จากเดิมที่เป็นผู้นำในโลก 1.0 เข้าสู่การขยายธุรกิจดิจิตัล (Web 2.0) และประสบการณ์ในโลก Blockchain และ Metaverse (Web 3.0)

   ด้วยกลยุทธ์ 5 Elements (5E) ซึ่งเป็นแผนธุรกิจใหม่ของ CMO ประกอบด้วย Event, Equipment, Entertainment, End-to-End 2.0 และ Experience 3.0 ซึ่งจะส่งผลให้ในปี 2565 นี้ CMO จะมีรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท และมาร์เก็ตแค็ประดับ 10,000 ล้านบาท

   โดยเป็นสัดส่วนรายได้จาก Event 70% Entertainment 20% หรือจำนวน 500-800 ล้านบาท และ Tech 10% หรือจำนวน 400-500 ล้านบาท แต่จากการที่ CMO ตั้งเป้าพลิกโฉมบริษัทสู่การเป็น TECH COMPANY จากกลยุทธ์ 5E ดังกล่าว 

   ดังนั้นทาง CMO จึงใช้กลยุทธ์ M&A ในการเติบโตตามเป้าหมายนี้ ด้วยการควบรวมบริษัทเทคโนโลยีที่มีรายได้ 100-300 ล้านบาท กำไรระดับ 20 ล้านบาท ผ่านการเข้าไปถือหุ้น 40-60% หรือสว็อปหุ้นเป็นหลัก อย่างน้อย 6 บริษัทในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ในปี 2566 ทาง CMO มีรายได้จาก Tech ที่สัดส่วน 60% 

   นายอริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า CMO จากเดิมที่เป็น Event Organizer สิ่งที่จะมอบให้ลูกค้า (B2B และ B2C) เป็น Total Solution

   ประกอบด้วย Creativity และ Technology เพื่อเป็น Experience ในยุคใหม่ จึงเป็นที่มาของนิยาม “EXPERIENCE-TECH CREATOR” ภายใต้โครงสร้าง 5E

   ได้แก่ ธุรกิจหลักเดิม อย่าง EVENT กับ EQUIPMENT ซึ่งเป็นฐานรายได้หลัก และกลุ่มธุรกิจใหม่ ได้แก่ ENTERTAINMENT, END-TO-END 2.0 และ EXPERIENCE 3.0 ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับ CMO NEW GEN

   EVENT มีแผนเติบโตด้วย Homegrown Experience Brand และจับมือกับพันธมิตรธุรกิจเพื่อสร้างงานระดับ World-class Experience ในประเทศไทย ดึงดูดนักเดินทางจากต่างประเทศ และ Scale Up เพื่อส่งออกแบรนด์ได้ในอนาคต

   EQUIPMENT จะยกระดับอุปกรณ์แสง เสียง ภาพ ให้ครอบคลุมทุกรูปแบบกิจกรรม ตั้งแต่อีเวนต์ สตูดิโอ และคอนเสิร์ตระดับโลก ด้วยการร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ 

   ENTERTAINMENT ตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่งด้าน In-bound Live Entertainment Experience พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงเต็มตัว เพื่อสร้างความบันเทิงเต็มรูปแบบทั้งระดับเอเชียและระดับโลก พร้อมดึงงานระดับ World Festival เข้ามาในประเทศไทย และยังมีแผนสร้าง Original Content ในนาม CM Entertainment

   END-TO-END 2.0 เป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการตลาดครบวงจรที่ควบรวมเข้ามาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ได้แก่ Digital Agency, Social Listening, Influencer Platform, Employee Engagement Platform และ CRM

   EXPERIENCE 3.0 เป็นกลุ่มธุรกิจดิจิทัลที่ตอบโจทย์ธุรกิจแห่งอนาคต ประกอบด้วย Metaverse Studio ซึ่ง CMO ได้ร่วมมือกับบริษัท Blockchain ระดับโลก รวมถึงการสร้าง Digital Assets ที่มาเชื่อมโยงกับธุรกิจบันเทิง และ Decentralized commerce เป็นต้น 

   โดยการจับมือกับ Strategic Tech Partner 6 ราย เพื่อเป็นกลไกที่สำคัญในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวจะพา CMO ก้าวไปสู่การทำธุรกิจระดับเอเชีย และระดับโลกต่อไปประกอบด้วย  

• Transformational-Digital Transformation
• Brand Baker-Digital Agency
• Redex-Employee Engagement Platform
• Social Listening Partner
• Shopgenix-Affiliate Commerce
• WeLink-Loyalty Platform