NV ลุย!พอร์ตรายได้ปี 65 โต 15-50% กำไร 2 ดิจิต
NV ลุย!พอร์ตรายได้ปี 65 โต 15-50% กำไร 2 ดิจิต
NV ลุย!พอร์ตรายได้ปี 65 โต 15-50% กำไร 2 ดิจิต
ผนึกพันธมิตรรุกOEM-ผุด!ถั่งเช่าผสมสารCBDตีตลาด
NV รุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เปิดตัว 3 พันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ OEM พร้อมเร่งเครื่องพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมพืชสมุนไพรไทย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ตอกย้ำผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย
หวังดันรายได้ปี 65 โต 15-20% และปั้นกำไรทะลุ 2 หลัก แย้ม!เตรียมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่กัญชงผสมถั่งเช่า ปลุกตลาดกลางปีนี้สร้างเซอร์ไพร้ส์ผลงานกลางปีนี้
นายนวพล จันทร์จุฑามาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (มหาชน) หรือ NV ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ DONUTT, LIVNEST รวมถึงแบรนด์อื่นๆ และรับจ้างผลิตแบบ OEM เปิดเผยว่า การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
ถือเป็นการเพิ่มมาตรฐานในการผลิตและการจัดจำหน่าย รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของบริษัท โดย NV จะนำเงินไปลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ เพื่อขยายและรองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต, การขยายช่องทางการจำหน่ายทางโทรศัพท์,
การปรับปรุงโรงงานเดิมเพื่อผลิตสินค้าประเภทสมุนไพรและโรงงานสกัด, การขยายธุรกิจ OEM และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสร้างการเติบโตและผลกำไรอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้หลังเกิดการระบาดของโควิด-19 แนวโน้มความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดบริษัทได้เร่งเดินหน้าขยายธุรกิจ OEM เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจนี้ โดยพันธมิตร 3 รายแรก ที่บริษัทจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ของพันธมิตรเอง ประกอบด้วย
- บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย นายอภิสิทธิ์ อ่อนนวล ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจัดซื้อแบรนด์ฟรายเดย์
- บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดย นายณวัตน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- บริษัท ออร่า เชพ จำกัด โดย นางสาวบุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณ หรือ ส้มเช้ง สามช่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ทั้งนี้บริษัทรับหน้าที่ในการคิดค้นสูตรและเป็นผู้ผลิตสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ของพันธมิตรเอง ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ รวมถึงเตรียมจับมือพันธมิตรใหม่ขยายธุรกิจเพิ่ม โดยตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มาจาก OEM ประมาณ 5% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
“พันธมิตรทั้ง 3 ราย นับว่ามีความโดดเด่นและสร้างความแตกต่างในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไทย ขณะที่ความร่วมมือกันในครั้งนี้ นับว่าเป็นการต่อยอดศักยภาพ
และสร้างการเติบโตของธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในระยะยาวได้อย่างชัดเจน โดยมั่นใจบริษัทจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตในธุรกิจ OEM ได้อย่างต่อเนื่อง” นายนวพล กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
สำหรับภาพรวมแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทมีแผนลงทุนขยายโรงงาน-คลังสินค้าอัจฉริยะแห่งใหม่มูลค่า 200 ล้านบาท สร้างเสร็จในปี 2566 สร้างสำนักงานแห่งใหม่รองรับ Telesales 500 ที่นั่ง มูลค่า 50 ล้านบาท แล้วเสร็จกลางปีนี้
พร้อมปรับปรุงโรงงานเดิมเพื่อผลิตสินค้าประเภทสมุนไพรและโรงงานสกัด เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนงบการตลาดปีนี้ตั้งไว้ที่ 200 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทก็ได้รับอนุมัติบัตรส่งเสริม จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI ในการผลิตสารสกัดจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ หรือการผลิตผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากวัตถุดิบทางธรรมชาติที่ต่อเนื่องในโครงการเดียวกัน และกิจการผลิตอาหารทางการแพทย์ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็น 3 รูปแบบ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์สารสกัดรูปแบบผง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทั้งนี้การได้รับอนุมัติบัตรส่งเสริม BOI ดังกล่าว จะทำให้บริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีอากรด้วย
พร้อมกันนี้บริษัทจะกลับมารุกตลาดผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนำสารสกัด CBD มาผสมถั่วเช่า ออกสู่ตลาดกลางปี 2565 นี้ และเชื่อมั่นว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าและสร้างจุดขายที่ดีให้กับบริษัท
ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศและขยายตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้เติบโตยิ่งขึ้น หวังดันรายได้ปี 2565 เติบโตอยู่ที่ 15-20% และกำไรอยู่ในระดับ 2 หลักในปีนี้นับเป็นแผนงานเชิงรุกในธุรกิจ เพื่อสานพันธกิจบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป
23 กุมภาพันธ์ 2565
ผู้ชม 1095 ครั้ง