สถิติ

71457763

"A5" ชูวิชั่นสู่แบรนด์อสังหาฯตลาดนิชมาร์เก็ต  

   "A5" ชูวิชั่นสู่แบรนด์อสังหาฯตลาดนิชมาร์เก็ต
   เตรียมนำหุ้นเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

                 

   “A5” ชูวิชั่นเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งในตลาดนิชมาร์เก็ต มุ่งพัฒนาโครงการที่แตกต่างด้วยแนวคิด
Asset For Infinite Valuable Experiences”

   ตอบสนอง 5 Values of Life ตั้งเป้าหมายรับรู้รายได้ปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท วางแผนเปิดตัวบ้านหรูโครงการใหม่ช่วงปลายปี เตรียมนำหุ้นเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาสนี้หลังได้รับอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

   นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า  บริษัทมีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 8 ปี โดยมีความเชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่มุ่งเน้นจับตลาดเฉพาะกลุ่ม (นิชมาร์เก็ต)

   และมุ่งสร้างความแตกต่างในการพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “Asset For Infinite Valuable Experiences” หรือทรัพย์สินที่สร้างประสบการณ์ที่มีมูลค่าไม่สิ้นสุด และสามารถตอบสนอง 5 Values of Life ซึ่งถือเป็น DNA ในการพัฒนาโครงการของ A5 ได้แก่

   (1) ASSET ต้องเป็น Good Asset ของลูกค้า ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต สะท้อนมาจากการเลือกทำเลที่มีศักยภาพต่อการพัฒนา และมีการเติบโตเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต

   (2) LEGACY ต้องพัฒนาโครงการให้มีคุณค่า ผสมการดีไซน์ที่สวยงามเหนือกาลเวลาเสมือนของสะสมที่มีคุณค่าและสามารถส่งต่อเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่นได้

   (3) FREEDOM ต้องเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์อิสระในการใช้ชีวิตและเปิดกว้างรองรับจินตนาการของผู้อยู่อาศัย จากการพัฒนาตัวบ้านให้พื้นที่ใช้สอยมากเพียงพอและปรับให้ตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้
   (
4) FAMILY เพราะสังคมที่ดีเริ่มต้นที่บ้าน การพัฒนาโครงการจึงเน้นความปลอดภัย รวมถึงการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อการสร้างความทรงจำที่มีความหมายของครอบครัว

   (5) ASPIRATION บ้านคือสถานที่ใช้ชีวิตมากที่สุด จึงต้องเป็นสถานที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตหรือความสร้างสรรค์ในการทำงานได้ ซึ่งสามารถสะท้อนไปสู่ความสำเร็จของผู้อยู่อาศัย

   “แม้ว่าส่วนตัวเติบโตมาในครอบครัวปัญจทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกโครงการอสังหาริมทรัพย์ยุคแรกๆ ในประเทศไทย และได้ซึมซับการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากครอบครัว

   อย่างไรก็ตาม A5 มีแนวคิดพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่แตกต่าง โดยให้ความสำคัญกับการศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในทำเลที่จะพัฒนาโครงการอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำมาพัฒนาโปรดักต์ที่แตกต่าง

   ภายใต้กลยุทธ์มุ่งเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม และมีวิชั่นที่จะยกระดับ A5 เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของตลาดอสังหาฯ นิชมาร์เก็ตในอนาคต หากนึกถึงโครงการที่โดดเด่น คุ้มค่า สามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานต่อไป อยากให้นึกถึง A5” นายศุภโชค กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมแล้ว รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9–ศรีนครินทร์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท  

   2) โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม มูลค่าโครงการกว่า 2,800 ล้านบาท 3) คอนโดมิเนียมไวโอ แคราย 1 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่าโครงการกว่า 300 ล้านบาท

   4) โครงการคอนโดมิเนียมไวโอ แคราย 2 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท 5) โครงการบ้านรชยา บ้านช้าง อุดรธานี มูลค่าโครงการกว่า 250 ล้านบาท  

   6) โครงการบ้านรชยา บ้านช้าง 2 อุดรธานี มูลค่าโครงการกว่า 400 ล้านบาท 7) โครงการบ้านรชยา วงแหวนนาดี อุดรธานี มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท   

   โครงการที่มุ่งจับนิชมาร์เก็ตและถือเป็นมาสเตอร์พีซคือ โครงการ “วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9–ศรีนครินทร์” ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น โครงการแรกๆ ที่เปิดตัวในย่านถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 3 เจเนอเรชั่น 

   โดดเด่นในเรื่องของการให้ Space พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า และ Function การใช้งานในบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในปัจจุบันที่เป็นยุค Work From Home (WFH)

   ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดขายบ้านเฟสสุดท้าย (Private Zone) เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ขนาด 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 492 ตารางเมตร จอดรถ 4 คัน ราคาเริ่มต้นยูนิตละ35–50 ล้านบาท ซึ่งเป็นแบบบ้านหลังใหญ่ที่สุดในโครงการ คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปี 2565

   ส่วนอีกโครงการคือ “ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์” เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ สูง 29 ชั้น จำนวน 80 ยูนิต แบบ 1–2 ห้องนอน และเพนต์เฮาส์ พื้นที่ใช้สอย 57–387.5 ตารางเมตร

   พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ อาทิ สระว่ายน้ำลอยฟ้า ลิฟต์ส่วนตัว ระบบจอดรถอัตโนมัติ ฯลฯ ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 21–40 ล้านบาท ไปจนถึงห้องแบบพิเศษ Penthouse ระดับ 150 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 80% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ภายในต้นปี 2566

            ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทฯ วางเป้าหมายยอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ 1,000 ล้านบาท โดยยอดรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งจะมาจากการขายและโอนบ้านพร้อมอยู่เฟสสุดท้ายในโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 - ศรีนครินทร์ และวางแผนเปิดตัวบ้านหรูเพิ่มขึ้นอีก 1 โครงการในช่วงปลายปีนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแก่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ขณะที่ปี 2566 คาดว่าจะเป็นปีที่บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการคอนโดฯ ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์

   ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติในขั้นตอนสุดท้ายจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้สามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “A5

   คาดว่าจะเริ่มซื้อขายหุ้นได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565 นี้เป็นต้นไป โดยพร้อมนำบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่เป็นผู้นำในตลาดนิชมาร์เก็ตตามวิชั่นที่วางไว้

07 กุมภาพันธ์ 2565

ผู้ชม 364 ครั้ง

Engine by shopup.com