สถิติ

71470882

ซัคเซสมอร์(SCM) ชง!กลยุทธ์ปี65 ฝ่า!"โอมิครอน" โต 50%     

   ซัคเซสมอร์(SCM) ชง!กลยุทธ์ปี65 ฝ่า!"โอมิครอน" โต 50%   

   ทุ่ม!100ลบ.ยกระดับดิจิทัล-สยายปีก!ยุโรป-จับเทรนด์สุขภาพ        

  

   บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM ปักธงผลงานปี 65 ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 50% ภายใต้แผนกลยุทธ์ LEADING CHANGE ชูศักยภาพการบริหารงาน

   ภายใต้ 4 แนวทาง มุ่งขับเคลื่อนด้วยพลังแบรนด์ การตลาดดิจิทัล ระบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจของลูกค้า รุกสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ

   เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 7-8 ผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับกระแสเทรนด์รักสุขภาพเติบโตต่อเนื่อง เล็งผนึกพันธมิตรสร้าง Wellness Center ครบวงจร

   นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร กล่าวว่า ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในรูปแบบเครือข่าย หรือ Multi-Level Marketing (MLM)

   โดยแบ่งได้เป็น 3 ธุรกิจหลักได้แก่ 1. ธุรกิจเครือข่ายเพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันมีสมาชิกทุกประเทศ 1.3 ล้านราย โดยเป็นสมาชิกในไทยที่ Active 120,000 ราย และ Active ทุกประเทศรวม 250,000 ราย

   2. ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจเครือข่ายและรับจัดงานสัมมนา และ 3. ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และโรงงานผลิตสินค้า ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในลักษณะเครือข่ายขายตรง (Multi-level Marketing หรือ MLM)

   โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท และปัจจุบันมีบริษัทย่อย ทั้งหมด 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ แล็บบอราทอรี่ จำกัด (SML) บริษัท ซัคเซส สปิริต จำกัด (SPT) และ SCM Spirit (Myanmar) Co., Ltd. (SPM)

   ดำเนินธุรกิจใน 3 ธุรกิจ ได้แก่ธุรกิจแบบเครือข่าย ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจเครือข่าย การรับจัดงานสัมมนา และธุรกิจโรงงานผลิตสินค้า

   ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในการดูแลสุขภาพ จึงตระหนักถึงปัญหาเรื่องสุขภาพของคนไทย ที่จะทำอย่างไรให้คนไทยหันมาดูแลและใส่ใจในเรื่องสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ

   จากแนวโน้มของตลาดผลิตภัณฑ์ในภาพรวมของบริษัทที่เติบโตมากขึ้น ซัคเซสมอร์ จึงวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นหลากหลายจากโรงงานที่ร่วมทุนกับพันธมิตรส่งผลให้สามารถลดต้นทุนได้กว่า 30%

   โดยผลิตภัณฑ์ในไตรมาตร 3 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันไป โดยกลยุทธ์หลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะเน้นในเรื่องนวัตกรรมและคุณภาพของสินค้าทีมีผลลัพธ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างชัดเจนได้แก่

  1. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Hy Pro Next ด้วยสารสกัดที่มาจากโปรตีนพืช มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมีกรดอะมิโนจําเป็นหลายชนิด ดูดซึมง่าย ให้พลังงานและแคลอรี่ต่ำปราศจากคอเลสเตอรอล ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพหลักที่พบในวัย 40+ ที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสุขภาพให้แข็งแรงประกอบด้วยโปรตีนพืช 4 ชนิด ที่สามารถดูดซึมได้เร็ว
  2. ผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์ เซ็ท S MONE’ HEMP SEED OIL ประกอบด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ น้ำตบ เซรั่ม ครีม ซึ่งใช้สารสกัดหลักจาก HEMP SEED OIL (น้ำมันจากเมล็ดกัญชง) ประกอบด้วยสาร CBD (Cannabidiol) ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันโอเมก้า 3, 6, 9 และวิตามินอี บี บี1 บี2 ที่มีประโยชน์ต่อผิว มีคุณสมบัติหลักช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์
  3. ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร Transform soil เป็นผลิตภัณฑ์ปรับปรุงดิน ช่วยฟื้นฟูดินเสีย ปรับสภาพดิน เพิ่มธาตุอาหารในดิน พืชดูดซึมได้ดี ออแกนิค 100% สูตรเข้มข้น ปลอดภัย ไร้สารพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ โดยแตกไลน์สินค้าเพิ่มเติมจากสินค้าที่มีอยู่แล้ว 2 รายการ คือผลิตภัณฑ์ Transform Plus ธาตุอาหารรองเสริมพืชที่ใช้ในการฉีดพ่นทางใบ เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรแบบครบวงจร

   และในเดือนธันวาคม 2564 นี้ มีผลิตภัณฑ์อีก 2 รายการ ที่จะเปิดตัวเพิ่มอีก ซึ่ง เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

  • Nutriga Canza (เสริมอาหารป้องกันมะเร็ง)
  • Nutriga Su-rin (เสริมอาหารป้องกันเบาหวาน)

                              

   ผลิตภัณฑ์ 2 รายการนี้ จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ โภชนบำบัด หรือ นูทราซูคิคอล (Nutrition + Pharmaceuticals) คือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากอาหารที่ผ่านการสกัดหรือแยกเป็นสารบริสุทธิ์ ที่มีสรรพคุณคล้ายยา ช่วยป้องกันโรค ฟื้นฟูโรค และชะลอความชรา

   และกำลังเป็นกระแสสุขภาพใหม่ของโลก เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมาก และมีผลงานวิจัยหลายงานวิจัยรองรับ ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยสนับสนุนยอดขายในไตรมาส 4 นี้และปี 2565 

   ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเน้นกลุ่มผู้บริโภครายใหม่ในด้านการดูแลสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

   ในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทสามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถกระตุ้นการบริโภคของลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

   อีกทั้งการเติบโตของรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ ทั้งประเทศกัมพูชาและสิงคโปร์มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่กัมพูชามียอดขายเติบโตจากการที่ตราสินค้าของบริษัทเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น 

   นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและการบริการรวม 873.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.90 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

   โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านนักธุรกิจ 791.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 85.3 และรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย 68.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.4

   ทั้งนี้เป็นผลจากยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และเป็นผลเติบโตในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทางการเกษตรที่เติบโตถึงร้อยละ 191 

   ขณะที่กำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 ทำได้อยู่ที่ 149.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 299.2 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.5 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ดีขึ้น คาดว่าปีนี้ยอดขายจะอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท

   และในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 50% หรือยอดขายจำนวน 1,800 ล้านบาท ภายใต้ธีม LEADING CHANGE 2022 การนำสู่การเปลี่ยนแปลง

   ซึ่งมุ่งเน้นในการขับเคลื่อนด้วยพลังแบรนด์ การตลาดดิจิทัล ระบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจของลูกค้าด้วยงบการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ผ่านการเติบโตในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการเปิดตลาดในทวีปยุโรป

   โดยคาดว่าในปี 2565 สัดส่วนรายได้ในประเทศจะอยู่ที่ 80% และต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 20% จากเดิมที่อยู่ที่ 15% ด้วยกลยุทธ์สร้างการเติบโต 4 กลยุทธ์ด้วยกัน คือ

   1.Leverage Brand Energy การยกระดับพลังแบรนด์องค์กรและสินค้าให้สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายได้กว้างและลึกขึ้น ตลอดจนการสร้างแบรนด์เลิฟเวอร์อย่างต่อเนื่อง

   โดยวางเป้าขยายฐานสมาชิกแตะระดับ 150,000 ราย จากปัจจุบัน 120,000 ราย และหากรวมดีลเลอร์จากต่างประเทศ ทำให้ยอดรวมขึ้นสู่ 250,000 ราย

   2.Driving Digital การขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลในทุกๆ ฝ่ายงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการทำงานและเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการขยายตลาด Leading Change 2022

   3.Create Online & Offline Breakthrough System การสร้างและผสมผสานระบบ Online และ Offline ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อรองรับและเติมเต็มจุดอ่อนจุดแข็งของ ทั้ง 2 ระบบ

   ด้วยการยกธุรกิจมาไว้ในมือถือ ผ่านแอปพลิเคชั่น SCM CONNEXT เพื่อเชื่อมต่อสายงานที่มาพร้อมกับฟังก์ชันในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่มีระบบซื้อขายออนไลน์ 100%

   มาพร้อมกับ Payment Gateway & Tracking order New Register & Sponsor link ฟังก์ชันที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ขยายธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ 100%

   4.Customer Experience Management การบริหารจัดการและร่วมสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ของลูกค้า

   นายนพกฤษฏิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในตลาดต่างประเทศปัจจุบัน ประเทศที่มีโมเมนตัมดีคือ ประเทศกัมพูชา เติบโตกว่า 100% และตามมาด้วยประเทศสิงคโปร์และมาเลเชีย เติบโตกว่า 50%

   พร้อมกันนี้บริษัทวางแผนขยายไปในโซนยุโรปอย่างต่อเนื่องภายในปี 2565 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการขยายตลาด รองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค โดยใช้จุดแข็งของไทยตอบรับ เทรนด์สุขภาพของโลก พร้อมปรับกลยุทธ์ในตลาดต่างประเทศนั้นใช้กลยุทธ์ Local Marketing

   โดยการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและการแข่งขันในตลาดแต่ละประเทศที่เชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกัน พร้อมผลักดัน สินค้า Flagship และพัฒนา digital platform และระบบบริหารฐานข้อมูลครบวงจร เสริมด้วยโปรโมชั่นที่จูงใจพร้อมการสื่อสารควบคู่กันไป

   “ซัคเซสมอร์ฯ มีวิสัยทัศน์ที่สำคัญคือการเป็นเครือข่ายแห่งการสร้างความสำเร็จ ความสุข และการบรรลุจุดมุ่งหมายแห่งตน ซึ่งปัจจัยความสำเร็จในปี 65 มาจากความสามารถของบุคลากรภายในและนักธุรกิจที่ยกระดับขึ้นจนสามารถแข่งขันได้

   รวมถึงการยกระดับเทคโนโลยีที่ช่วยในการบริหารงาน การให้บริการลูกค้าและการมีเครื่องมือดิจิทัลและบริหารการตลาดดิจิทัลที่ช่วยขยายตลาดได้ และการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ได้ผลทั่วทั้งองค์กร

   ซึ่งรวมถึงทีมนักธุรกิจด้วยพลังคุณค่าของแบรนด์ที่ชัดเจนและการสื่อสารแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ ยอมรับและสนับสนุนจากกลุ่มคนที่อยู่ในตำแหน่งวางของแบรนด์

   จนถึงขั้นเกิดแบรนด์และโปรดักส์เลิฟเวอร์จำนวนมาก พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้แก่นักธุรกิจและลูกค้าได้อย่างคงเส้นคงวาในทุกๆ จุดสัมผัสกับแบรนด์” นายนพกฤษฏิ์ กล่าวสรุป

         

08 ธันวาคม 2564

ผู้ชม 2291 ครั้ง

Engine by shopup.com