"UAC" เสิร์ฟข่าวดี โรงไฟฟ้าชุมชน
"UAC" เสิร์ฟข่าวดี โรงไฟฟ้าชุมชน
"UAC" เสิร์ฟข่าวดี โรงไฟฟ้าชุมชน
ขอนแก่น–มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด12 MW
บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) ปลื้มโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 4 โครงการ (ขอนแก่น 2 แห่ง-มหาสารคาม–ร้อยเอ็ด) กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 12 เมกะวัตต์ ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคฉลุย
ด้าน CEO “ชัชพล ประสพโชค” ลุ้นรอประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ อย่างเป็นทางการ วันที่ 23 กันยายน 64นี้ ประกาศมั่นใจศักยภาพ
ชูความพร้อมนวัตกรรม–การจัดหาแหล่งเชื้อเพลิง และฐานะทางการเงินครบสูตร จ่อเปิดกว้างรับพันธมิตรต่อยอดให้บริการ Consul Service หนุนธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด จากทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้พิจารณาอนุมัติคุณสมบัติและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค ของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง)พ.ศ. 2564 รับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบ ไม่เกิน 150 เมกะวัตต์
ทั้งนี้การพิจารณาการอนุมัติดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทย่อยของUAC ทั้ง 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ครอป พาวเวอร์ 3 จำกัด ที่ตั้งตำบลเมืองเปลือย อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด
และบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ครอป พาวเวอร์ 5 จำกัด ที่ตั้งตำบลซับสมบูรณ์ อำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น ได้รับพิจารณาอนุมัติเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ เป็นโครงการผลิตโรงไฟฟ้าประเภทชีวภาพ รวมเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 6 เมกะวัตต์
โดยก่อนหน้านี้โครงการของบริษัทผ่านคุณสมบัติและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิครอบแรกแล้วจำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย บริษัท ยูเอซี แอนด์ ทีพีที เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ที่ตั้ง ตำบล นาฝาย อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น
และ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ครอป พาวเวอร์ 4 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลหนองโก อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ส่งผลให้บริษัทผ่านพิจารณาอนุมัติ รวมทั้งหมด 4 โครงการ เป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 12 เมกะวัตต์
“ UAC ยื่นประมูลไปทั้งสิ้น 6 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 18 เมกะวัตต์ เฉลี่ยโครงการละ 3 เมกะวัตต์ และผ่านคุณสมบัติ 4 โครงการ ส่วนอีก 2 โครงการยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบสาเหตุตามที่ได้ยื่นอุทธรณ์ไปก่อนนี้” นายชัชพล กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
ทั้งนี้สำหรับขั้นตอนต่อไป บริษัทรอประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ อย่างเป็นทางการ ภายในวันที่ 23 กันยายน 2564 และกำหนดลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 120 วัน
นับจากวันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก หรือภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567
นายชัชพล กล่าวตอกย้ำว่า บริษัทมีความพร้อมด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงานจากก๊าซชีวภาพมากว่า 10 ปี และยังมีโรงไฟฟ้าต้นแบบอยู่ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่อง
พร้อมทั้งยังได้ร่วมมือกับทางวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ในการจัดหาเชื้อเพลิงจะต้องมีสัญญารับซื้อเชื้อเพลิงในราคาประกันกับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ตามเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนดไว้
ซึ่งจากศักยภาพดังกล่าวเป็นการการันตีได้กว่า UAC เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจในระดับฐานรากเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้จากความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการ Consul Service การออกแบบและสร้างโรงงาน Biogas โดยใช้พืชพลังงานเป็นเชื้อเพลิง ทำให้บริษัทมีแผนต่อยอดทางธุรกิจ
โดยแตกไลน์ธุรกิจในการเป็นที่ปรึกษา Consult Service ให้กับผู้ประกอบการ อย่าง บมจ.ซันสวีท (SUN ) ในการดำเนินการโครงการก่อสร้างระบบไบโอแก๊ส จากวัตถุดิบเหลือทิ้งจากขบวนการผลิตของโรงงาน (ซังข้าวโพด)
ซึ่งสามารถตอบโจทย์แนวทาง Green Energy สร้างสมดุลในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชนในระยะยาว ดังนั้นเพื่อเป็นการขยายไลน์ธุรกิจในการเป็นที่ปรึกษา
บริษัทจึงสบช่องทางธุรกิจโดยเปิดกว้างรับพันธมิตรที่สนใจก่อสร้างโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อมาต่อยอดให้บริการ Consult Service พร้อมให้คำปรึกษากับพันธมิตรทุกราย
“UAC มีศักยภาพและความพร้อม ทั้งเทคโนโลยี แหล่งเงินทุน รวมถึงด้านเชื้อเพลิง ที่สำคัญยังมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก
และยังมีเครือข่ายความร่วมมือจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ดังนั้นจึงเชื่อว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะช่วยต่อยอดและผลักดันภาพรวมธุรกิจของ UAC เติบโตอย่างยั่งยืน อย่างมีนัยสำคัญ” นายชัชพล กล่าวสรุป
13 กันยายน 2564
ผู้ชม 378 ครั้ง