สถิติ

71535811

"ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์" ยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.  

   "ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์" ยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.

  ขายIPOจำนวน109.30ล้านหุ้น-ลงทุนตปท.

                              

   "บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์" หรือ TFM ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เศรษฐกิจและผู้นำในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของคนไทย ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อ สำนักงาน ก.ล.ต.

   เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 109.30 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มุ่งนำความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ เดินหน้าเข้าลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำในต่างประเทศ

   เพื่อสร้างรากฐานการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในภูมิภาคเอเชียผ่านบริษัทย่อยในประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน และสนับสนุนการเติบโตในอนาคต โดยแต่งตั้งบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

   นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ TFM เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เศรษฐกิจและผู้นำในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของคนไทย

   ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและเป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ในการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำของกลุ่มบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU ผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก

   ซึ่งได้เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจอาหารสัตว์น้ำที่เติบโตตามความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และเป็นภาคอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจรวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนไทย

   โดย TFM มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมานานกว่า 20 ปี สั่งสมองค์ความรู้รวมถึงมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตสินค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ของ TFM คือ การเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพดีที่สุด เพื่อการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน

   ที่ผ่านมา TFM จึงมุ่งเน้นผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและมีความหลากหลาย ครอบคลุมการเพาะเลี้ยงตลอดวงจรชีวิตของสัตว์น้ำในราคาที่สามารถแข่งขันได้เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าในวงกว้าง

   ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเติบโตของลูกค้าเกษตรกรในประเทศไทยและการยกระดับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของไทย ภายใต้ระบบการผลิตที่ทันสมัยในโรงงานผลิตที่จังหวัดสมุทรสาครและสงขลา

   ด้วยกำลังการผลิตรวมในปัจจุบันทั้งหมดที่ 280,000 ตันต่อปี โดยผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าของ TFM ได้รับความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพในระดับสากล

   ทั้งนี้ TFM มีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักของบริษัท ได้แก่ โปรฟีด (PROFEED) นานามิ (NANAMI) อีโก้ฟีด (EGOFEED) แอคควาฟีด (AQUAFEED) และดี-โกรว์ (D-GROW) เป็นต้น ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่

  • ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารกุ้ง โดย TFM เป็นหนึ่งในผู้นำในกลุ่มตลาดอาหารกุ้ง มีส่วนแบ่งการตลาดอาหารกุ้ง ประมาณร้อยละ 17 ของปริมาณอาหารกุ้งไทย (ปี 2563)  
  • ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารปลา (รวมอาหารกบและอาหารปู) แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ (1) อาหารปลาทะเล เช่น อาหารปลากะพง และปลาเก๋า เป็นต้น (2) อาหารปลาน้ำจืด เช่น อาหารปลานิล และปลาดุก (3) อาหารสัตว์น้ำวัยอ่อน สำหรับการอนุบาลลูกปลา และ (4) อาหารกบ โดย TFM เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำในกลุ่มตลาดอาหารปลากระพง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารปลาที่มีราคาจำหน่ายและอัตรากำไรค่อนข้างสูงกว่าอาหารปลาประเภทอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาดอาหารปลากะพง ประมาณร้อยละ 24 ของปริมาณอาหารปลากระพงไทย (ปี 2563)
  • ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสัตว์บก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ (1) อาหารสุกร (2) อาหารสัตว์ปีก ได้แก่ อาหารไก่ อาหารเป็ด และอาหารนกกระทา โดยบริษัทได้เริ่มขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์บกในช่วงปลายปี 2561 และปริมาณการขายอาหารสัตว์บกของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีผลเป็นที่น่าพ่อใจ

   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมุ่งเน้นนำความเชี่ยวชาญ เทคนิคการผลิต และนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำใหม่ๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง เช่น เป็นผู้บุกเบิกการใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปในการเพาะเลี้ยงปลากะพง

   รวมถึงคิดค้นสูตรการผลิตใหม่ๆ เช่น สูตรการผลิตอาหารสัตว์น้ำที่ลดปริมาณการใช้ปลาป่นและน้ำมันปลา และสูตรการผลิตอาหารปลาสลิด อาหารปู เป็นต้น อย่างไรก็ตามธุรกิจของ TFM ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะตลาดในประเทศไทยเท่านั้น

   บริษัทได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศที่อุตสาหกรรมสัตว์น้ำมีศักยภาพในการเติบโต ในขณะที่บริษัทจะสามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและความพร้อมทางด้านบุคลากรและแหล่งเงินทุนของบริษัท

   และยังเป็นตัวแทนของประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตอาหารสัตว์เศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคเอเชีย โดยเริ่มจากประเทศอินเดีย และขยายไปยังปากีสถานและอินโดนีเซีย

   ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจและรับรู้รายได้ได้ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ และภายในสิ้นปีนี้ตามลำดับ ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไป TFM พร้อมก้าวไปอีกขั้นด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

                              

   นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)

   ปัจจุบัน TFM มีทุนจดทะเบียนจำนวน 1,000,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้วทั้งสิ้นจำนวน 820,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 410.0 ล้านหุ้น

   และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 109.3 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90.0 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) จำนวน 19.3 ล้านหุ้น

   รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 21.9 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน

   ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

26 กรกฎาคม 2564

ผู้ชม 687 ครั้ง

Engine by shopup.com