สถิติ

71539324

ไทยยูเนี่ยน ปลื้ม!ความสำเร็จการออกหุ้นกู้

   ไทยยูเนี่ยน ปลื้ม!ความสำเร็จการออกหุ้นกู้

   ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งแรกในประเทศไทย
                   

   บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย มูลค่า 5,000 ล้านบาท

   ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.47 % ต่อปี ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

   การออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังจากที่ไทยยูเนี่ยน ได้ออกสินเชื่อส่งเสริมความยั่งยืนเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วยเช่นกันในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

   แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Blue Finance (การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อมหาสมุทร–และอุตสาหกรรมอาหารทะเลโดยรวม)

   บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนนี้ อยู่ที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่” เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ซึ่งแสดงถึงสถานะทางการตลาดที่เข้มแข็งของไทยยูเนี่ยนในฐานะผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูปชั้นนำของโลกที่มีสถานะการเงินและธุรกิจที่แข็งแกร่งและมั่นคง

   โดยมี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และเป็นที่ปรึกษาด้านโครงสร้างหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนร่วมกับ MUFG Securities Asia Limited หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ของกลุ่ม Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. (MUFG)

   การเสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัทในครั้งนี้ มีจำนวนยอดจองซื้อมากกว่า 8,900 ล้านบาท หรือ มากกว่า 2.23 เท่า ทำให้บริษัทพิจารณาเพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้จากที่วางแผนไว้ที่ 4,000 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท

   ผลการตอบรับจากนักลงทุนที่ดีในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของไทยยูเนี่ยน รวมถึงความตั้งใจที่จะลงทุนในด้านความยั่งยืน

   สำหรับหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนไม่เพียงแต่จะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยแต่ยังเป็นครั้งแรกของโลก ที่มีลักษณะทางการเงินแบบ Step up/ Step down ซึ่งเป็นโครงสร้างแรกที่มีอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการดำเนินงานสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน

   โดยมีการเชื่อมโยงอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้กับเป้าหมายด้านความยั่งยืน (Sustainability Performance Targets หรือ SPTs)  ตาม 3 ประการหลัก ในปี 2566 และ ปี 2569

   ประกอบด้วย SPT 1 คือ การขึ้นทะเบียนใน DJSI Emerging Markets และ ได้รับการจัดอันดับเป็น 10 บริษัทแรก (Top 10 companies) ของ DJSI Food Products Industry Index  

   SPT 2 คือ การลดความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (Scope 1) และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Scope 2) ให้ได้ร้อยละ 4 ต่อปี

   และ SPT 3 คือ การเพิ่มการตรวจสอบด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือ มีผู้สังเกตการณ์ตรวจสอบบนเรือประมงปลาทูน่า โดยผู้ลงทุนในหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัทในครั้งนี้จะมีโอกาสได้รับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ในปี 2566 และ ปี 2569

   ทั้งนี้บริษัทได้จัดให้มีการสอบทานจากภายนอกสำหรับการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน โดย Sustainalytics ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการอิสระ (Second Party Opinion)

   เพื่อทำการสอบทานและรับรองว่ากรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท (Thai Union’s Sustainability-Linked Financing Framework) เป็นไปตามมาตรฐานสากล

   นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับการทำงานด้านความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด

   ซึ่งการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของนโยบายของบริษัท Healthy Living, Healthy Oceans ในการที่จะดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนและความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล 

   ซึ่ง Blue Finance ครั้งนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าเราสามารถร่วมกับภาคการเงินในการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้เราสามารถอนุรักษ์ท้องทะเลได้อย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมกับการผลิตสินค้าอาหารที่ดีมีคุณค่าต่อสุขภาพให้กับผู้บริโภคทั่วโลกไปพร้อมกัน

   “นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้กำหนดกรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Financing Framework) ขึ้นเป็นครั้งแรก ตอกย้ำความมุ่งมั่นของไทยยูเนี่ยนในการขับเคลื่อนสู่การเป็น Blue Finance

   หรือการบริหารการเงินที่เกี่ยวข้องกับโครงการอนุรักษ์มหาสมุทรและเชื่อว่าการทำงานด้านความยั่งยืนจะต้องนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมโดยรวม”นายธีรพงศ์ กล่าวย้ำ

   ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุน​บำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. กล่าวว่า กบข. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ลงทุนในหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนที่ออกครั้งแรกในประเทศไทยโดยบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

   กบข. ได้ตระหนักถึงกิจกรรมและการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนของ ไทยยูเนี่ยน มาโดยตลอด และมีความยินดีที่จะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งให้กับไทยยูเนี่ยน

   การลงทุนในครั้งนี้ตอกย้ำเป้าหมายของกบข. ในการเป็นผู้นำการลงทุนและส่งเสริมริเริ่มการลงทุนโดยคำนึงถึงปัจจัย ESG ในประเทศไทย กบข. เชื่อมั่นในปรัชญาความยั่งยืนและมีเป้าหมายที่จะเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับสมาชิก รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคม

   “การลงทุนอย่างรับผิดชอบโดยให้ความสำคัญกับปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance Issues: ESG) เป็นกลยุทธ์ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานของ กบข.

   ทั้งนี้ในฐานะกองทุนบำเหน็จบำนาญ การลงทุนมีระยะเวลายาวเพียงพอที่จะสร้างทั้งคุณค่าทางสังคมและมูลค่าเพิ่มทางการเงิน การสร้างคุณค่าทางสังคมไม่ใช่ทางเลือก

   แต่เป็นหน้าที่ของกบข. ซึ่ง กบข. มุ่งมั่นที่จะแนะนำแนวทางให้นักลงทุนในประเทศไทยสามารถนำกลยุทธ์การลงทุนอย่างยั่งยืนนี้มาใช้กันมากขึ้น” ดร.ศรีกัญญา กล่าวย้ำ

   นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิต มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนในหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งแรกในประเทศไทยของไทยยูเนี่ยนในครั้งนี้ 

   อีกทั้งยังเป็นเครื่องสะท้อนสำคัญถึงพันธกิจหลักขององค์กร ที่มีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว พร้อมทั้งการเดินหน้านโยบายต่าง ๆ ด้วยความตั้งใจในการส่งมอบความสุข

   โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ได้แก่ ลูกค้า พนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ถือหุ้น และสังคมในทุกด้าน เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ ช่องทางการขายที่หลากหลาย

   ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงการดูแลสังคมเพื่อสร้างความยั่งยืนในด้านต่าง ๆ อย่างรอบด้าน

   “ทั้งนี้บริษัทยังได้ดำเนินการลงทุนโดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) เพื่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะธุรกิจประกันชีวิตที่มีความรับผิดชอบและภาระผูกพันในระยะยาวต่อผู้ถือกรมธรรม์

   ขณะเดียวกันก็ต้องตอบสนองด้านความยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงได้ใช้แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืนในการพิจารณาลงทุนตามความเหมาะสมแล้วจัดสรรเงินลงทุนเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่สนับสนุนด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง” นายสาระ กล่าวย้ำ

   นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญบนเส้นทางสู่การธนาคารที่ยั่งยืนของกรุงศรี

   ความสำเร็จในการนำหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนออกสู่ตลาดทุนไทยตอกย้ำพันธกิจด้าน ESG และความมุ่งมั่นของธนาคารในการตอบสนองความต้องการทางการเงินของลูกค้า ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาหุ้นกู้ให้เป็นสินทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย ด้วยการริเริ่มนวัตกรรมทางการเงินนี้

   ไทยยูเนี่ยนสามารถตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินเพื่อสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจ พร้อมไปกับการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมายในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

   “หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการผสานพลังความร่วมมืออันแข็งแกร่งของกรุงศรีและ MUFG อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ศักยภาพความพร้อมของทั้งสองสถาบันในการสนับสนุนและเชื่อมโยงทุกความต้องการของลูกค้าให้บรรลุเป้าหมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ” นายเซอิจิโระ อาคิตะ กล่าวย้ำ

   นายริชาร์ด ยอร์ค กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายลูกค้าบรรษัทและวาณิชธนกิจ เอเชียแปซิฟิก ธนาคาร เอ็มยูเอฟจี จำกัด (MUFG Bank) กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการร่วมงานกับไทยยูเนี่ยนอีกครั้ง ในการขับเคลื่อนธุรกิจระดับโลกสู่ความยั่งยืน

   การเสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่ MUFG ได้ยกระดับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการเงินในด้าน ESG สนับสนุนไทยยูเนี่ยน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ MUFG เพื่อนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าและชุมชนของเรา”

   “การออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนที่ประสบความสำเร็จนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถเข้าใจในลูกค้า ซึ่งเมื่อรวมกับความเชี่ยวชาญในเรื่อง ESG ของเครือข่าย MUFG และเครือข่ายการจัดจำหน่ายอันแข็งแกร่งทั้งในประเทศไทยและ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแล้ว

   สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ MUFG เพิ่มมูลค่าที่สำคัญให้กับความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนได้ ขอแสดงความยินดีกับไทยยูเนี่ยนอีกครั้งสำหรับความสำเร็จครั้งนี้” นายริชาร์ด ยอร์ค ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับภูมิภาคส่วนงานตลาดทุนใน MUFG Securities Asia กล่าวสรุป

 

21 กรกฎาคม 2564

ผู้ชม 577 ครั้ง

Engine by shopup.com