"GUNKUL" ผนึกกำลัง "ORI" ตั้งบริษัทร่วมทุน
"GUNKUL" ผนึกกำลัง "ORI" ตั้งบริษัทร่วมทุน
"GUNKUL" ผนึกกำลัง "ORI" ตั้งบริษัทร่วมทุน
ปั้นโปรเจกต์Solar Energyรับเมกะเทรนด์Q3/64
บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง “GUNKUL” จับมือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ “ORI” ตั้งบริษัทร่วมทุน “ออริจิ้น กันกุล เอ็นเนอร์ยี จำกัด” สร้างบริการด้านพลังงานตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย
ภายใต้แนวคิด Energy x Urban Living Solution ผ่าน 3 บริการ ลงทุนโครงการสัญญาซื้อขายพลังงาน Private PPA ในคอนโดมิเนียม ยกระดับความสามารถในการกำหนดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของครัวเรือน
ด้วยแอปพลิเคชัน PARITY และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ด้วยพลังงานสะอาดกับ EV Charging Station เตรียมนำร่องลุยโปรเจ็กต์แรกภายในไตรมาส 3/64
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทเพื่อร่วมลงนามสัญญาการร่วมทุน (Joint Venture Agreement:JVA)
กับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เพื่อเตรียมจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ บริษัท ออริจิ้น กันกุล เอ็นเนอร์ยี จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทน/พลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัย
โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) เพื่อเตรียมพัฒนาบริการด้านพลังงานหรือ Energy-as-a-Service ต่อยอดคุณภาพความเป็นอยู่ให้แก่โครงการที่อยู่อาศัยในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
ซึ่งถือเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่ารวมสะสมกว่า 134,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการร่วมทุน 50:50 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอจดทะเบียนจัดตั้ง คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3/2564
ทั้งนี้การร่วมทุนดังกล่าวกันกุลเอ็นจิเนียริ่งจะร่วมดำเนินกิจการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ใน 3 โครงการ โดยเริ่มจากบริการผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Private PPA (Power Purchase Agreement)
บริษัทจะเป็นผู้ให้บริการออกแบบและวางระบบ Private PPA รวมถึงการดูแลการจำหน่ายไฟตลอดระยะสัญญา เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ได้ใช้พลังงานสะอาดในอัตราค่าไฟฟ้าที่ถูกลงกว่าอัตราค่าบริการไฟฟ้าทั่วไป
นอกจากนี้บริษัทและออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้จะร่วมกันศึกษาการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ภายในโครงการที่อยู่อาศัย ได้แก่ บริการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าระหว่างกันผ่านแอปพลิเคชัน PARITY
ภายในโครงการประเภทหมู่บ้านจัดสรร หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยสร้างการตระหนักรู้ (Energy Awareness) ในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักของครัวเรือนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
และบริการติดตั้ง EV Charging Station ช่วยให้ลูกบ้านเข้าถึงจุดชาร์จรถไฟฟ้าในโครงการคอนโดมิเนียมได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจสำหรับไลฟ์สไตล์ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในยุคใหม่
“การร่วมมือทางธุรกิจกับ ORI ในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับคุณภาพการอยู่อาศัยที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ด้วยบริการด้านพลังงานที่ไร้ข้อจำกัด และจะต่อยอดผลลัพธ์ที่ได้จากการศึกษานี้ไปยังโครงการในลักษณะอื่นๆ ต่อไปในอนาคต
ซึ่งจุดเริ่มต้นของบริษัทจากแนวคิด Not only the ENERGY, we care ทำให้ GUNKUL มีการศึกษาแนวทางในการขยายวิสัยทัศน์ให้เติบโต พร้อมสร้างบริการที่จะช่วยตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้ไฟได้อย่างแท้จริงมาโดยตลอดกว่า 40 ปีในฐานะผู้ให้บริการด้านพลังงานแบบครบวงจร
จึงอยากจะสร้างการรับรู้ในมุมมองใหม่ๆ ให้กับคนไทยได้เห็นว่าพลังงานสามารถเป็นตัวแปรที่ผู้ใช้สามารถจัดการเพื่อให้เหมาะกับตัวคุณและครอบครัวของคุณได้ อย่าง Energy-as-a-Service ซึ่งมีจุดเด่นในแง่ที่ GUNKUL เป็นผู้ลงทุนเบื้องต้นและดูแลการก่อสร้างจนถึงการผลิตพลังงานจำหน่าย
โดยที่ผ่านมา GUNKUL ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายอุตสาหกรรมให้ดูแลโครงการสัญญาซื้อขายพลังงาน (Private PPA) มากกว่า 70 เมกะวัตต์ เรามองว่า GUNKUL จะเติบโตไปได้อีกและเข้าถึงระดับ End Consumer หรือผู้ใช้ไฟได้จริงๆ” ดร.สมบูรณ์ กล่าวย้ำ
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า การร่วมลงนามสัญญาร่วมทุนกับ GUNKUL เพื่อดำเนินกิจการด้านพลังงานทดแทน-พลังงานสะอาดโดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) ในโครงการที่อยู่อาศัยเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ครั้งนี้
เป็นการเดินหน้าแผน ORIGIN NEXT LEVEL ในกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เพิ่มเติมจากที่ประกาศแผนงานไว้เมื่อช่วงต้นปี ตอบโจทย์ทั้งแกน Next Level of Business Expansion และแกน Next Level of Living Solutions สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ
อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านเข้าถึงแหล่งพลังงานสะอาดง่ายขึ้น และช่วยปลดภาระความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของลูกบ้านเมื่อจำเป็นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ทำกิจกรรมภายในที่อยู่อาศัย
ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุค Now Normal ไปจนถึง Next Normal ทั้งยังช่วยสร้างคุณค่าและการตระหนักรู้ต่อการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน สอดรับเมกะเทรนด์ของโลก
“ทิศทางของโลกในอนาคตจะหันมาใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น แต่ในเซ็กเตอร์อสังหาริมทรัพย์ของไทยเราเอง ตอนนี้ยังไม่มีใครที่ลุกขึ้นมาขานรับเมกะเทรนด์นี้เพื่อผู้บริโภคอย่างจริงจัง
จึงมองหาพันธมิตรที่แข็งแกร่งด้านพลังงานสะอาด และมีวิสัยทัศน์สอดคล้องกันอย่างกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง เพื่อก้าวเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่ต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานสะอาดในที่อยู่อาศัย
ให้สอดรับเมกะเทรนด์ด้านความยั่งยืน สร้างมูลค่าเพิ่ม หรือ Value Added ให้ทรัพย์สินในอนาคต ควบคู่กับการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ลูกบ้านในระยะยาว” นายพีระพงศ์ กล่าวสรุป
16 กรกฎาคม 2564
ผู้ชม 455 ครั้ง