SECURE โชว์ฟอร์ม ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้
SECURE โชว์ฟอร์ม ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้
SECURE โชว์ฟอร์ม ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้
แย้มดีลงานตปท.-ซื้อกิจการ-ดันรายได้โต15%
บมจ.เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว “SECURE” ส่งซิกงบไตรมาส 2/64 สัญญาณดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ตามความต้องการสินค้ากลุ่ม Network Security และสินค้ากลุ่มให้บริการที่เกี่ยวข้องกับ Work From Home
ด้าน “นักรบ เนียมนามธรรม” ส่งสัญญาณต่อจากนี้ไป SECURE จะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ตามความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการด้าน Cyber security ที่เพิ่มขึ้นจากองค์กรภาครัฐ-เอกชน หนุนผลงานทั้งปีโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%
นายนักรบ เนียมนามธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) (SECURE) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 ของบริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไรสุทธิ
เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากความต้องการสินค้ากลุ่ม Network Security และสินค้ากลุ่มการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับ Work From Home (WFH) เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย
อีกทั้งเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นในยุค 5G จึงทำให้มั่นใจรายได้ปี 2564 จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15% หรือแตะ 800 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 639 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการด้าน Cyber security ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย ทั้งจากองค์กรภาครัฐ และเอกชน, การบังคับใช้พระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ PDPA จะทำให้องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องลงทุนในซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจของ SECURE โดยบริษัทได้เตรียมพัฒนาซอฟท์แวร์ของตนเองขึ้น ได้แก่ UCP และ PDPA Pro เพื่อรองรับความต้องการทั้งองค์กรขนาดใหญ่และ SMEs ในประเทศ,
การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งจากเจ้าของผลิตภัณฑ์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง รวมถึงมีโอกาสในการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเจ้าของผลิตภัณฑ์รายใหม่ และการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาสัญญาเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้รายใหญ่จากต่างประเทศในเร็วๆ นี้ และอยู่ระหว่างพิจารณาการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อที่จะเข้ามาเสริมความแข็งและการเติบโตของบริษัทในอนาคต
“บริษัทยังมีโอกาสอีกมากในการรับงานใหม่ๆ เพิ่ม ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่คาดว่าจะต้องลงทุนเพิ่มในส่วนระบบบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล
เมื่อ พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย เริ่มมีผลบังคับใช้กลางปี 2565 จึงประเมินว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตอย่างมีศักยภาพ และก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
โดยเป้าหมายของบริษัท คือ จะดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อสร้างฐานกำไรให้เติบโตอย่างมีศักยภาพในระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้น” นายนักรบ กล่าวสรุป
13 กรกฎาคม 2564
ผู้ชม 287 ครั้ง