โควิด-19/สงครามราคาฉุด!รายได้ KEX ลด 13%
โควิด-19/สงครามราคาฉุด!รายได้ KEX ลด 13%
โควิด-19/สงครามราคาฉุด!รายได้ KEX ลด 13%
อัพ!แพลตฟอร์ม-ลดต้นทุน-ชิงแชร์ราคาประหยัด
บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “KEX” รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2564 สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2564 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
KEX สามารถกวาดรายได้ 4,188 ล้านบาท สร้างกำไรสุทธิ 303 ล้านบาทจากการจัดส่งพัสดุ B2C และ C2C แม้รายได้ลดลง 13% จากการทำราคาประหยัด
นอกจากนี้ในไตรมาส 1/2564 KEX เดินหน้ายกระดับแพลตฟอร์มและระบบการจัดส่งพัสดุ เพื่อคุณภาพการบริการและประสิทธิภาพเครือข่ายของบริษัทที่เหนือกว่าผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ
สำหรับปี 2564 เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาด KEX ได้เดินหน้ากลยุทธ์การกำหนดราคาเชิงรุกที่เข้มข้นขึ้น เพื่อตอบสนองการเติบโตของตลาดการจัดส่งพัสดุราคาประหยัด
และเป็นการขยายการให้บริการเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ KEX สามารถรุกเข้าสู่ตลาดการจัดส่งราคาประหยัดและลดต้นทุนได้ต่อไป
นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากผลประกอบการของบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส มีรายได้จากการขายและบริการ 4,188 ล้านบาท
และกำไรสุทธิ 303 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการจัดส่งพัสดุแบบธุรกิจส่งถึงบุคคล (B2C) และการจัดส่งพัสดุแบบบุคคลส่งถึงบุคคล (C2C) เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก
โดยมีสัดส่วน 47.3% และ 50.8% ของรายได้จากการขายและบริการตามลำดับ โดยรายได้ที่ลดลงประมาณ 13% นั้น มีปัจจัยหลักได้แก่ การปรับราคาต่อพัสดุเชิงรุกและการเจาะเข้าสู่กลุ่มตลาดการจัดส่งราคาประหยัด
ทั้งนี้ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบได้แก่ สถานการณ์ COVID–19 ที่ยืดเยื้อยังคงส่งผลกระทบทางลบต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคและกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ผู้ให้บริโภคมีความต้องการสั่งซื้อพัสดุที่มีมูลค่าและขนาดเล็กลง ประกอบกับมีการซื้อบริการเสริมน้อยลง นอกจากนี้วันทำการในไตรมาส 1/2564 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563
ทั้งนี้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดส่งพัสดุ ทั้งในด้านการใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่ และการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยวางเป้าหมายที่จะลดค่าใช้จ่ายลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 1/2564 เคอรี่ เอ็กซ์เพรสสามารถสร้างผลกำไรสุทธิอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเพิ่มอัตรา EBITDA (กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และ ภาษีเงินได้) เป็น 23.4% จาก 22.3% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อีกทั้งยังสามารถรักษาฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีทรัพย์สินรวม 18,032 ล้านบาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ในปริมาณมาก โดยมีอัตราส่วนสภาพคล่องที่ 2.95 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.62 เท่า
ทั้งนี้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จะยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความยืดหยุ่นและมีความคล่องตัวเพื่อรองรับทุกสถานการณ์ รวมถึงพร้อมที่จะแสวงหาและไขว่คว้าโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอ
ในขณะเดียวกันนอกจากการรุกเข้าสู่ตลาดการจัดส่งราคาประหยัดเพื่อส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น KEX ยังได้ปริมาณการจัดส่งจากลูกค้าภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสามารถรักษาฐานปริมาณพัสดุในปี 2564 ได้
นายอเล็กซ์ อึ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังคงมุ่งยกระดับแพลตฟอร์มการจัดส่งพัสดุเพื่อรองรับการบริการที่หลากหลายครอบคลุมทุกภาคส่วน เช่น การบริการเข้ารับพัสดุแบบ Door-to-Door และบริการกลุ่มตลาดราคาประหยัด เป็นต้น
รวมไปถึงปริมาณพัสดุที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากเครือข่ายที่มีอยู่ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยจุดให้บริการลูกค้า (customer touchpoints) และศูนย์กระจายพัสดุทั่วประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้นยังคงเดินหน้าขยายเครือข่าย “Kerry Express Everywhere” อาทิ การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการกระจายธุรกิจเพื่อเข้าสู่ธุรกิจในรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
13 พฤษภาคม 2564
ผู้ชม 306 ครั้ง