"PRAPAT" รับอานิสงส์ "ศบศ." ดัน!ยอดขาย
"PRAPAT" รับอานิสงส์ "ศบศ." ดัน!ยอดขาย
"PRAPAT" รับอานิสงส์ "ศบศ." ดัน!ยอดขาย
นำร่อง!เมืองท่องเที่ยว-ต่อยอดซักรีดครบวงจร
นายวีระพงค์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำยาซักรีด น้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสำหรับภาคอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. เห็นชอบหลักการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว
โดยเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 พร้อมนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตก่อน ภายใต้โมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หลังจากนั้นเมื่อเที่ยวในภูเก็ตครบ 7 วันจะสามารถเดินทางออกนอกภูเก็ตได้
อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 เมษายน 2564 จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ท่องเที่ยวหลักอย่าง จังหวัดภูเก็ต, กระบี่, พังงา, สมุย, พัทยา และเชียงใหม่ ได้ก่อน แต่ให้กักตัวในโรงแรม 7 วันก่อนที่จะออกเที่ยวในจังหวัดนั้นๆได้
ขณะที่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 จะขยายพื้นที่รับต่างชาติแบบไม่กักตัวไปยังพื้นที่อื่นๆ อย่าง กระบี่, พังงา สมุย, พัทยา และเชียงใหม่ โดยใช้แอพลิเคชั่นติดตามตัว ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติดังกล่าวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ
โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวหลัก จะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศปรับตัวดีขึ้น รวมถึงส่งผลดีให้กับบริษัทในแง่ยอดขายในจังหวัดนำร่องนั้นปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งบริษัทมีศูนย์ธุรกิจใหญ่อยู่ ซึ่งคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อเข้ามาในบริษัทรวมถึงบริษัทในเครือ
อย่าง บริษัท ไทยสจ็วต เซอร์วิสเซ็ส จำกัด หรือTSS ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจให้เช่าและจัดจำหน่ายเครื่องล้างภาชนะ และบริษัท มิสเตอร์พูล จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการจำหน่ายและให้บริการติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์สำหรับสระว่ายน้ำ เป็นต้น
“ปัจจุบันตลาดภูเก็ต ถือว่า มียอดขายใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ เป็นยอดขายที่มาจากธุรกิจซักรีดในโรงแรม และกลุ่มครัว โดยบริษัทมีฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มโรงแรมจังหวัดภูเก็ตขนาด 3-4 ดาว กว่า 100 แห่ง และยังมีตลาดร้านอาหารอีกมากมายที่ใช้บริการเครื่องล้างจานบริษัทฯ ขณะนี้ก็เริ่มมีคำสั่งซื้อในกลุ่มครัวเข้ามาบ้างแล้ว” นายวีระพงค์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
สำหรับแผนการทำตลาดเพื่อรองรับการกลับมาของตลาดท่องเที่ยวในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนที่จะนำโปรเจกต์ One Ton Laundry ธุรกิจให้บริการซักรีดแบบครบวงจร ที่บริษัทจะจัดหาอุปกรณ์ซักรีดและผลิตภัณฑ์ด้านซักรีดให้บริการแก่กลุ่มคู่ค้าภาคธุรกิจด้านโรงแรมและรีสอร์ท
ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าสนใจและอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมทำโปรเจกต์ One Ton Laundry จำนวน 10 ราย โดยเชื่อว่าหลังจากที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศที่ชัดเจนคาดว่าจะมีลูกค้าจะตัดสินใจร่วมโปรเจกต์ One Ton Laundry มากขึ้น
สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ บริษัทยังวางเป้าประมาณการอยู่ที่กว่า 900 ล้านบาท โดยผลของการเปิดบางพื้นที่ท่องเที่ยวประเทศไทยในครั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้บริษัทมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
30 มีนาคม 2564
ผู้ชม 269 ครั้ง