สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กางแผนสู้!เศรษฐกิฐกิจโตพลิกบวก  

   สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กางแผนสู้!เศรษฐกิฐกิจโตพลิกบวก

   ชูมาตรฐาน/ราคา-รุกต่างจังหวัด-โฟกัส!ระดับราคา3-5ล้านบาท

   นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA)  เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาธุรกิจแม้ธุรกิจติดลบ 5-6% แต่มีสัญญาณฟื้นตัวในไตรมาส 2 และคาดว่าช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการตัดสินใจสร้างบ้านจะช่วยดันยอดปี 2568 นี้ให้เติบโนในระดับทรงตัวเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา

   ทั้งนี้ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกเกือบ 80 บริษัททั่วประเทศ และยังคงเดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจต่อผู้บริโภคในต่างจังหวัดให้เห็นถึงข้อแตกต่างระหว่าง “รับเหมาก่อสร้าง” กับ “ธุรกิจรับสร้างบ้าน”

   ที่เน้นบริการครบวงจรตั้งแต่แบบบ้านจนถึงบริการหลังการขาย ซึ่งส่งผลให้ในช่วง 5-6 ปีหลัง สมาคมฯ สามารถขยายฐานสมาชิกในต่างจังหวัดได้เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็นกว่า 35%

   ทั้งนี้เพราะในต่างจังหวัดมีดีมานด์สร้างบ้านจริงจำนวนมาก โดยเฉพาะบ้านระดับ 3-5 ล้านบาท ซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า หากเปรียบเทียบระหว่างผู้รับเหมากับธุรกิจรับสร้างบ้านแล้ว ส่วนต่างราคาไม่เกิน 10-15% โดยที่ได้รับมาตรฐาน การบริการ ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพงานที่ดีกว่า

   ขณะที่ตลาดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% และการแข่งขันสูงจึงเน้นที่การออกแบบ คุณภาพ และบริการ มากกว่าราคา

   สำหรับปัจจัยที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจสร้างบ้านนอกจากราคาวัสดุและค่าแรงที่ยังทรงตัว คือความพร้อมของผู้ซื้อ และความคาดหวังต่อคุณภาพบ้าน ซึ่งแตกต่างกันไปตามเซ็กเมนต์

   โดยบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า บ้านระดับ 5-10 ล้านบาท เน้นคุณภาพการก่อสร้าง ขณะที่บ้านระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไป เน้นดีไซน์เฉพาะตัวและสะท้อนรสนิยมเจ้าของบ้าน

   อย่างไรก็ตามจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้กลุ่มบ้านระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไปชะลอการตัดสินใจสร้างบ้าน เนื่องจากไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจและการเมือง

   ในขณะที่กลุ่มที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ยังคงมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะเป็นการขอสินเชื่อจากธนาคารเป็นหลัก และยังเป็นกลุ่มที่ยังมีหนี้เสียหรือ NPL ที่ยังต่ำอยู่

   นายอนันต์กร กล่าวต่อไว่า ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ทางสมาคมฯ จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริษัทสมาชิกด้วยการจัดอบรม ถ่ายทอดกระบวนการบริหารงานตั้งแต่ตอกเข็มจนถึงส่งมอบบ้าน พร้อมขยายการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น TikTok, Facebook และ YouTube ให้เข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น

   นอกจากนั้นเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งเป็นไฮซีซั่นทางสมาคมฯ ก็เตรียมจัดงานใหญ่ประจำปีในไตรมาส 3 นี้ โดยปีนี้จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนที่เมืองทองธานี โดยมีบริษัทรับสร้างบ้านร่วมออกบูทกว่า 40 บริษัท และวัสดุก่อสร้างอีกกว่า 20 ราย รวมถึงธนาคารที่มาให้คำปรึกษาและจัดโปรโมชั่นสินเชื่อครบวงจร