สถิติ

74668654

กรมธนารักษ์ จับมือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์    

หมวดหมู่: การเงิน

   กรมธนารักษ์ จับมือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   แลกเปลี่ยนข้อมูลราคาประเมินทรัพย์สิน สร้างความแม่นยำ ตามมาตรฐาน   

   กรมธนารักษ์จัดพิธีลงนามความร่วมมือว่าด้วยการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประเมินราคาทรัพย์สินระหว่าง กรมธนารักษ์ โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์

   ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ และธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดย นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคาร 72 ปี กรมธนารักษ์

   โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และบูรณาการฐานข้อมูลราคาประเมินทรัพย์สินร่วมกัน เสริมให้กระบวนการประเมินราคาทรัพย์สินมีประสิทธิภาพ แม่นยำ รวดเร็ว และเป็นธรรม มากยิ่งขึ้น

   นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบประเมินราคาทรัพย์สินและการพิจารณาสินเชื่อของประเทศ ซึ่งการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงินจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชน

   โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประเมินราคาทรัพย์สินและการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาน และความร่วมมือนี้จะเป็นต้นแบบที่ดีในการพัฒนาระบบข้อมูลและการให้บริการของภาครัฐและภาคการเงินในอนาคต

   นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า การลงนาม MOU เป็นการบูรณาการความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลง ของทั้ง 3 หน่วยงาน คือ กรมธนารักษ์ ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์

   ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการภาครัฐในการประเมินราคาที่ดินให้มีความแม่นยำ โปร่งใส และช่วยลดขั้นตอนในการสืบค้นราคาประเมิน อีกทั้งภาคธนาคารก็จะมีฐานข้อมูลที่ช่วยเพิ่มความเร็วให้การพิจารณาสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัย

   และภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ กรมธนารักษ์จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้ทั้งสองหน่วยนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบในการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยื่นขอสินเชื่อ ดังนี้

  1. บัญชีราคาประเมินทรัพย์สิน ประกอบด้วย บัญชีราคาประเมินที่ดิน บัญชีราคาประเมินห้องชุด และบัญชีราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง
  2. ข้อมูลหน่วยที่ดิน ประกอบด้วยชื่อหน่วยที่ดิน ความลึกมาตรฐาน (เมตร) และราคาประเมินที่ดินรายหน่วยที่ดิน (บาทต่อตารางวา)

   ในส่วนของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์จะแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กรมธนารักษ์นำไปใช้เป็นข้อมูลในการสอบทานข้อมูลราคาซื้อขายจดทะเบียนเพื่อใช้ในการกำหนดราคาประเมินที่ดินรายหน่วยที่ดิน ดังนี้

   1.ข้อมูลราคาประเมินสินเชื่อของอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ประกอบด้วย ที่ดิน
สิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด

   2.ข้อมูลราคาตลาดแปลงที่นำมาใช้ประกอบการประเมินราคาหลักทรัพย์ ประกอบด้วย ที่ดิน และห้องชุด 

   ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “เพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน” ผ่านกลยุทธ์ VALUE

   ซึ่งเสาที่ 4 ของกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนนี้คือ การประเมินราคาทรัพย์สิน (A : Appraise) เป็นการเพิ่มความแม่นยําในการประเมินราคาที่ดิน การที่กรมธนารักษ์ได้รับความร่วมมือ

   จาก 2 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เข้ามาช่วยเติมเต็มข้อมูลนั้นจะช่วยให้ราคาประเมินของกรมธนารักษ์เกิดความแม่นยำยิ่งขึ้น

   และยังเป็นการยกระดับบัญชีราคาประเมินทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ให้มีความสอดคล้องเชิงพื้นที่ และเหมาะสมตามสภาวะเศรษฐกิจมากขึ้นอีกด้วย

   "การบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนระบบราคาประเมินที่เหมาะสม แม่นยำ โปร่งใส มีมาตรฐาน และเป็นธรรม ให้กับประชาชน และภาคธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศตามนโยบายของรัฐบาล

   สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของทั้ง 3 หน่วยงาน ในการ“เพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน” ของกรมธนารักษ์ “เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน” ของธนาคารกรุงไทย และ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ของ ธอส." นายเอกนิติ กล่าวย้ำ

   นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของประเทศให้เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ

   สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ และจะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของ ประเทศที่เกิดจากการขาดฐานข้อมูลครบถ้วนรอบด้านและเป็นปัจจุบัน

   โดยก่อให้เกิดประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน ทั้งการตรวจสอบทรัพย์สิน คุณภาพลูกหนี้ ด้วยต้นทุนที่ลดลง ช่วยลดความเสี่ยง และสามารถช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง ด้วยข้อมูลกลางที่ได้มาตรฐาน

   โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการด้านการเงินและการลงทุนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำ (Financial Inclusion) ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

   รวมไปถึง SME ที่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นด้วยการประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกันที่แม่นยำและรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นการบูรณาการแบบองค์รวม

   โครงการความร่วมมือนี้จึงมีเป้าหมาย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลกลางและพัฒนากลไกดิจิทัลอ้างอิงราคาประเมินทรัพย์สินให้เป็นมาตรฐานเดียว เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลและรองรับการวิเคราะห์เชิงนโยบายในอนาคต

   ซึ่ง กรมธนารักษ์ จะสามารถใช้ข้อมูลจากภาคธนาคารปรับปรุงฐานข้อมูลให้ใกล้เคียงราคาตลาดและวิเคราะห์เชิงพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การคุ้มครองข้อมูลลูกค้าตาม PDPA

   ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงไทย สามารถใช้บัญชีราคาประเมินและแผนที่แปลงที่ดินดิจิทัลจากกรมธนารักษ์ประกอบการพิจารณาสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพฐานข้อมูลให้เกิดประโยชน์ในแง่ของเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม

   "ธนาคารกรุงไทย พร้อมสนับสนุนภาครัฐอย่างเต็มความสามารถในการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านการประเมินราคาทรัพย์สิน และข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ พร้อมเดินหน้ายกระดับต่อยอดไปสู่การให้บริการในการใช้ข้อมูลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคม

   เพื่อให้คนไทยทุกคนให้เข้าถึงนวัตกรรมบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ อย่างทั่วถึง เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”" นายผยง กล่าวย้ำ

   นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง

   ปัจจุบันการที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ร่วมมือกับกรมธนารักษ์ จัดทำ“โครงการความร่วมมือว่าด้วยการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประเมินราคาทรัพย์สิน

   นับเป็นก้าวสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐสามารถใช้ประโยชน์ของข้อมูลด้านประเมินราคาทรัพย์สิน ตลอดจนการแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และบูรณาการข้อมูลร่วมกัน นำไปสู่การให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

   และทำให้การประเมินราคาทรัพย์สินเป็นไปอย่างแม่นยำ ที่ถือเป็นกระบวนการสำคัญของการให้บริการสินเชื่อของ ธอส. ตามเป้าหมายได้อย่างยั่งยืนในการ ทำให้คนไทยมีบ้าน

11 มิถุนายน 2568

ผู้ชม 117 ครั้ง

Engine by shopup.com